“สติ” คำง่าย ๆ สั้น ๆ แต่เต็มไปด้วยความหมายของการใช้ชีวิต มันสามารถกำหนดเส้นทางชีวิตของเราได้ และมันยังสามารถพลิกชีวิตของคน ๆ หนึ่งให้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เพียงเสี้ยวนาที ซึ่งเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นให้เห็นอยู่เป็นประจำ และเคสตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ณ เวลานี้ คงต้องยกให้ “เมสัน กรีนวู้ด” กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กรีนวู้ดคือกองหน้าดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากคนหนึ่งของวงการฟุตบอล ด้วยวัยเพียง 20 ปี แต่ทักษะและฟอร์มการเล่นกลับโดดเด่นเกินวัย เขาเป็นนักเตะที่มีทั้งความเร็ว, เทคนิคการเลี้ยงหลบคู่แข่ง รวมไปถึงมีการจบสกอร์ที่เฉียบคม โดยเฉพาะการยิงด้วยเท้าซ้ายที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนนึกถึงโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ อดีตศูนย์หน้าชาวดัตช์ของทีมปีศาจแดง กรีนวู้ดคือผลผลิตจากอะคาเดมี่ของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดโดยตรง เขาเข้ามาสู่ทีมตั้งแต่อายุ 6 ขวบเท่านั้น ก่อนจะเริ่มไล่ติดทีมเยาวชนของทีมจนถึงชุด U-18 และในที่สุดก็ได้กลายเป็นนักเตะของทีมชุดใหญ่สำเร็จด้วยอายุเพียง 17 ปี จนสามารถ ขึ้นมายึดตำแหน่งตัวหลักของทีม และมีผลงานการทำประตูที่น่าประทับใจ รวมไปถึงยังได้รับโอกาสติดทีมชาติอังกฤษไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อนาคตกำลังสดใส, ความฝันกำลังผลิบาน, ชีวิตกำลังดีและมีทรัพย์สินเงินทอง จนใคร ๆ ก็ต้องอิจฉา แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
สโมสรฟุตบอลอังกฤษไม่ได้มีดีแค่นักเตะมากฝีมือ หากยังมีสโมสรฟุตบอลที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วย หลังจากปี 2016 ที่ Zaha Hadid Architects (ZHA) สตูดิโอสถาปัตยกรรมชื่อก้องโลกชนะการแข่งขันออกแบบสนามฟุตบอลสำหรับสโมสรฟุตบอลอาชีพ Forest Green Rovers F.C. ในที่สุด Zaha Hadid Architects (ZHA) ก็สร้างสนามฟุตบอลขึ้น ซึ่งนี่ถือเป็นสนามฟุตบอลไม้แห่งแรกของโลก ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนด้วยพลังงานยั่งยืน และรองรับผู้ชมได้สูงสุดมากถึง 5,000 คน สนามฟุตบอลแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นสำหรับสโมสรฟุตบอลอาชีพ Forest Green Rovers F.C. และจะสร้างขึ้นในเมืองกลอเซสเตอร์เชียร์ (Gloucestershire) ของประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นที่ตั้งเดียวกันกับสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ โครงสร้างของสนามสร้างขึ้นจากไม้ชนิดพิเศษที่ผ่านการเคลือบพื้นผิวด้วยสารเคมีหน่วงไฟ จึงติดไฟยากและลดการแพร่กระจายของเพลิงไหม้ได้ดี สนามปกคลุมด้วยหลังคาโปร่งใสชนิดพิเศษ ช่วยลดเงาบนสนามที่อาจรบกวนผู้เล่นในระหว่างการแข่งขัน พร้อมทั้งทำให้หญ้าเติบโตงอกงามภายใต้แสงแดดในเวลาเดียวกัน มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายเกี่ยวกับการสร้างสนามฟุตบอลแต่ละแห่ง และผู้คนส่วนใหญ่จะมองการว่าสร้างสนามฟุตบอลขนาดยักษ์ได้ ต้องกินพื้นที่ธรรมชาติหรือพื้นที่สีเขียวไปไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร แต่สนามฟุตบอลแห่งนี้ช่วยลดความกังวลว่าการออกแบบสนามจะต้องสูญเสียพื้นที่สีเขียว เพราะสนามฟุตบอลไม้ของสโมสร Forest Green Rovers F.C. สร้างสนามฟุตบอลไปพร้อม ๆ กับพื้นที่สีเขียว Forest Green Rovers
ถ้าพูดถึงประเทศอังกฤษ เชื่อว่ารายชื่อสโมสรฟุตบอล ภาพหอนาฬิกา Bigben และอุณหภูมิเย็นยะเยือกคงละเลียดเล็ดเข้ามาในหัวของผู้ชายหลายคน แล้วนั่นคงทำให้หนุ่ม ๆ บางคนพอระลึกได้ว่าอีกสมญานามของเกาะอังกฤษแห่งนี้คือ ‘เมืองผู้ดี’ เนื่องจากอังกฤษเป็นประเทศที่เก่าแก่และนับเป็นหนึ่งในอาณาจักรที่เคยเจริญรุ่งเรืองในอดีต มีพระมหากษัตริย์ คนชนชั้นสูง และขนบธรรมเนียมประเพณี ตั้งแต่การแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ คำพูดคำจา หรือมารยาทบนโต๊ะอาหารที่แม้แต่คนไทยสมัยก่อนก็หยิบนำมาสร้างเป็นบรรทัดฐานของสังคมและวัฒนธรรมบ้านเรา แต่ในประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีมารยาททางสังคมสูงส่ง ได้ซุกซ่อนโลกใต้ดินที่อบอวลไปด้วยเสน่ห์และวิถีชีวิตของผู้คน ทำให้ประเทศเกาะของทวีปยุโรปแห่งนี้มีสีสันและชีวิตชีวามากกว่าแค่เป็น ‘เมืองผู้ดี’ ที่เรารู้จักคุ้นเคย UNLOCKMEN เลยอยากพาหนุ่ม ๆ ไปสำรวจอีกด้านของกรุงลอนดอน เมืองหลวงของอังกฤษ ผ่านคอลเลกชันภาพถ่ายของ Bob Mazzer ชายที่ถ่ายภาพผู้โดยสารในขบวนรถไฟใต้ดินจนเคยชิน ความเคยชินก่อตัวเป็นนิสัย นิสัยที่ทำให้เขามีความสุขทุกครั้งเมื่อได้จ้องมองผู้คนผ่านเลนส์ ก่อนจะลั่นชัตเตอร์ ลอนดอน ถือเป็นอีกเมืองที่รวบรวมผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกเข้าไว้ด้วยกัน และชาวลอนดอนก็ใช่จะเคร่งเครียดและเจ้าระเบียบอย่างที่ใครหลายคนคิด พวกเขากลับดูเป็นธรรมชาติ มีความสุข และมีความทุกข์ไม่ต่างผู้คนในประเทศอื่น ๆ เลย Bob Mazzer ช่างภาพชาวอังกฤษรายนี้จึงใช้กล้องเป็นสื่อบันทึกเศษเสี้ยวและรายละเอียดของความหลากหลายในชีวิตมนุษย์ ลั่นชัตเตอร์ในสภาพแวดล้อมแห่งความเป็นจริง ทำให้ได้ภาพที่พิเศษธรรมดาและไม่ได้ถูกปรุงแต่งจนเกินความเป็นภาพถ่าย ทั้งยังนำเสนอมุมมองอีกด้านหนึ่งของลอนดอนที่มีเสน่ห์และมีชีวิตชีวา ไม่แพ้วัฒนธรรมแห่งเมืองผู้ดีที่ขึ้นชื่อเลย Photography by Bob Mazzer. COVER
หากพูดถึงความวุ่นวายและเร่งรีบ มโนภาพที่ปรากฏขึ้นในหัวของหนุ่ม ๆ หลายคนคงหนีไม่พ้นสี่แยกกลางเมืองหลวงที่มีผู้คนสัญจรไปมาอย่างพลุกพล่าน เป็นเหมือนป่าคอนกรีตที่ห้อมล้อมกอดแน่นด้วยทัศนียภาพของสิ่งปลูกสร้างไร้ระเบียบ และแออัดยัดเยียดด้วยการจราจรที่ติดขัด ตลอดเส้นทางการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ดูเป็นเรื่องยากถ้าจะมองหาสเปซที่ช่วยให้คนเมืองอย่างเราได้พักผ่อนจากวิถีชีวิตอันรีบเร่ง สำหรับบ้านเราสเปซดังกล่าวอาจจะดูบางตา แต่ในกรุงลอนดอนเมืองหลวงของอังกฤษนั้นมีสถาปัตยกรรมที่ช่วยแก้ไขปัญหาความวุ่นวาย พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมืองให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น Paul Cocksedge ดีไซเนอร์หนุ่มชาวอังกฤษออกแบบ ‘Please Be Seated’ สถาปัตยกรรมกลางแจ้งขนาดยักษ์ ที่ใช้ไม้กระดานเรียงร้อยต่อกันจนเกิดเป็นวงแหวนทรงคลื่นสามชั้น ตั้งตระหง่านกลางทางเดินเท้าของย่าน Broadgate นอกจากสถาปัตยกรรมชิ้นนี้จะสร้างสเปซให้คนเมืองได้มานั่งพักผ่อนในยามว่าง มันยังสร้างขึ้นเพื่อต้อนรับงาน London Design Festival ครั้งที่ 17 ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14-22 กันยายน ซึ่งถือเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองกรุงลอนดอนในฐานะศูนย์กลางการออกแบบระดับโลก Please Be Seated ถูกสร้างขึ้นบริเวณ Finsbury Avenue Square ข้าง ๆ อาคารสำนักงานหมายเลขหนึ่งแห่งกรุงลอนดอน แม้สถาปัตยกรรมชิ้นนี้จะใช้วัสดุจากธรรมชาติอย่างไม้เป็นหลัก แต่รูปแบบงานดีไซน์ที่คล้ายกับคลื่นน้ำ ก็ช่วยทำให้ไม้แข็งทื่อนั้นมีชีวิตชีวาราวกับมันกำลังเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา Paul Cocksedge กล่าวว่าสถาปัตยกรรมกลางแจ้งชิ้นนี้ถูกดีไซน์มาอย่างรอบคอบ และคิดดีแล้วว่ามันจะช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมของทางเดินเท้าให้ดีขึ้น พร้อมยังสอดแทรกฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มเติมนอกจากความสวยงาม ตลอดพื้นไม้กระดานถูกเสริมความแข็งแกร่งด้วยโครงสร้างเหล็กและบล็อกทรงสี่เหลี่ยมคอยค้ำ ไม้กระดานที่ดีไซน์สโลปลงมาด้านล่างจะเป็นเหมือนเก้าอี้ควบพนักพิง ส่วนที่เป็นลูกคลื่นพุ่งทะยานขึ้นด้านบนจะเป็นทางเข้าเล็ก ๆ เพื่อให้ผู้คนเดินลอดผ่านไปยังวงแหวนอีกสองวงด้านใน