ถ้าพูดถึงประเทศแห่งแฟชั่นในทวีปยุโรปก็ต้องฝรั่งเศส เมืองที่ถูกเรียกว่าแดนน้ำหอม เมืองแห่งแฟชั่นและความงาม ต้นกำเนิดของแบรนด์แฟชั่นชื่อก้องโลกทั้ง แอร์เมส (Hermes) ชาแนล (Chanel) หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton) เบอร์เบอร์รี่ (Burberry) อีฟส์ แซ็งต์ ลอร็องต์ (Yves Saint Laurent) จีวองชี (Givenchy) รวมถึง คริสเตียน ดิออร์ (Christian Dior) ซึ่งชื่อแบรนด์คุ้นหูเหล่านี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของแฟชั่นที่เกิดจากฝรั่งเศสเท่านั้น UNLOCKMEN เชื่อว่าหากใครติดตามเทรนด์แฟชั่นอยู่ตลอดต้องรู้จัก Louis Vuitton Moet Hennessy (LVMH) บริษัทจำหน่ายสินค้าแฟชั่นลักชัวรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ณ เวลานี้ เพราะเขามีแบรนด์แฟชั่นดัง ๆ เป็น prestigious band มากกว่า 60 แบรนด์ ไม่ได้ยิ่งใหญ่แค่โลกแฟชั่นเท่านั้นแต่ยังวงการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมีนักธุรกิจนามว่าแบร์นาร์ด อาร์โนลด์ (Bernard Arnuault) เป็นผู้กุมบังเหียนของอาณาจักร LVMH เมื่อต้นปี 2020
หากจะเล่าถึงคอลเลคชั่นสุดท้ายที่ Riccardo Tisci อดีต Creative Director ได้ฝากไว้แห่ง GIVENCHY แบรนด์แฟชั่นชั้นสูงจากกรุงปารีส คงจะหนีไม่พ้นความผสมผสานที่ลงตัว ความฝันและความหลงไหลในวัยเด็กของทิชชี่ที่มีให้กับความเป็นอเมริกันตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของวัฒนธรรมและชมพื้นเมือง รวมไปถึงสเน่ห์และความเท่ในโลกสมัยใหม่ เรื่องราวเหล่านี้ได้ถูกผสมผสานและถ่ายถอดออกมาเป็นคอลเลคชั่นเสื้อผู้สุภาพบุรษที่ เปี่ยมไปด้วยพลัง ความลุ่มลึกและความโรแมนติก คอลเลคชั่นถูกนำเสนอด้วย ชุดสูทวูลคัทติ้งคม ตกแต่งด้วยกระดุมไม้แฮนเมดชิ้นใหญ่ จับคู่สไตลลิ่งกับกระโปรงวูล และเสื้อยืด ให้อารมณ์เนี้ยบ เน้นรายละเอียด แต่คล่องตัวสูง จากนั้นธีมชุดสูทถูกยกระดับโดยการใช้เครื่องเงินประดับเพรชมาตบแต่งเป็นกระดุม กลายเป็นชิ้นงานที่โดดเด่นเอาใจสุภาพบุรุษที่ชอบความหรูหรา จากนั้นคอลเลคชั่นถูกเพิ่มเติมจังหวะจากเรียบโก้ เป็นสตรีท-ลักซ์ชัวรี่ โดยการเติมสีสันดา แดง และน้าเงินในแพทเทิร์นการพิมพ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นลายขวาง และลายทาร์ทันที่เป็นอีกหนึ่งลายเซ็นต์ถนัดของทิชชี่ สีสันเหล่านี้ถูกนามาจับคู่กับชิ้นงานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเชิ้ตแบบดีคอนสรัคชั่น เสื้อเชิ้นตกแต่งระบาย จัมเปอร์คอวีขนาดใหญ่ และจั๊มป์สูท เมื่อคอลเลคชั่นกาลังพูดถึงวัฒนธรรมอเมริกันตะวันตก ทิชชี่นั้นก็ยังคงสนุกในการหยิบยกแรงบันดาลใจต่างๆมาใช้เป็นลายพริ้นท์ประจำคอลเลคชั่นอยู่เสมอ ในครั้งนี้เขาได้หยิบเอาเสาโทเทมที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ของชาวอินเดียแดงมาประยุกต์เป็นกราฟฟิคอย่างสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังมีการนาภาพถ่ายและภาพวาดของหญิงสาวชาวพื้นเมืองอเมริกันมาพิมพ์ประดับเสื้อผ้าจับคู่กับสไตลิ่งฮู้ดดี้โอเวอร์ไซส์ให้เข้ากับยุคสมัยให้อารมณ์สตรีทดิบๆ และตัดอารมณ์ด้วยการใช้ผ้าผันคอสีผืนเล็กมาเติม บาลานซ์ให้สไตลลิ่งยิ่งชัดเจนอีกด้วย สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือรองเท้าดำตัดขาว ซึ่งเป็นการนำเอารองเท้าที่นิยมในวัฒนธรรมสตรีทจากฝั่ง west coast มาตีความใหม่ เป็นรองเท้าแฮนเมด ใช้วัสดุราคาสูงและคราฟและตัดเย็บอย่างพิถีพิถัน แต่คงไว้ซึ่งสไตล์ที่ชัดเจน เพื่อเน้นอารมณ์แห่งสตรีท ลักชูรี่ที่แท้จริง