อะไรที่เป็นเทคโนโลยี มักจะมาพร้อมจุดอ่อนช่องโหว่ที่ถูกเจาะระบบได้ง่าย ๆ และในกรณีนี้ถือว่าใกล้ตัวมากจนเราต้องรีบนำมาเตือนภัยชาว UNLOCKMEN กันเลยทีเดียว เพราะทีมนักวิจัยชาวจีนพิสูจน์ให้เราดูกับตาแล้วว่า รถยนต์ราคาแพงของเรามีโอกาสถูกโจรขโมยไปได้ง่าย ๆ ด้วยการ hack สัญญาณกุญแจรีโมท โดยเฉพาะรถที่มีระบบ Keyless Entry ผลงานน่าตกใจชิ้นนี้เป็นของทีมนักวิจัยชาวจีนที่เรียกตัวเองว่า Unicorn Team ประกอบด้วย Yingtao Zeng, Qung Yang, และ Jun Li ใช้หลักการทำงานของระบบ Smart Entry ที่กุญแจจะส่งสัญญาณไปหารถยนต์เพื่อปลดล็อก และผู้ขับขี่ไม่ต้องหยิบกุญแจออกจากกระเป๋าหรือกดปุ่มแต่อย่างใด โดยมีเงื่อนไขว่าระยะของกุญแจกับรถต้องใกล้กันค่อนข้างมาก มันจึงมีชื่อเรียกทางเทคนิคว่า Proximity Key วิธีที่ Unicorn Team ใช้ คือการหลอกรถยนต์ว่ากุญแจอยู่ในระยะที่ปลดล็อกได้ ด้วยอุปกรณ์รับส่งสัญญาณราคาแค่ 600 บาท ประกอบด้วยตัวส่งและรับสัญญาณ ทีมงานคนแรกจะเข้าใกล้เจ้าของรถ เพื่อใช้อุปกรณ์ส่งสัญญาณกุญแจที่อยู่กับเจ้าของรถ ไปที่ทีมงานอีกคนที่อยู่ใกล้รถเป้าหมาย โดยมีระยะหวังผลไกลถึง 300 เมตร และใช้ตัวรับสัญญาณแทนกุญแจตัวจริง เท่านี้รถยนต์ก็เปิดประตูต้อนรับ พร้อมให้โจรขับออกไปได้ทันทีอย่างสง่าผ่าเผยราวกับเป็นเจ้าของรถ หลายคนอาจจะมีคำถามว่า
ในวัยเด็กเมื่อครั้งได้ดูหนัง Sci-fi ที่ตัวเอกของเรื่องเก่งในการใช้งานเทคโนโลยี คอยเจาะระบบ ปิดสัญญานเตือนนิวเคลียร์อะไรล้ำ ๆ นั่นคือหน้าที่ของ “Hacker” อาชีพในฝันที่เราเชื่อว่าตอนนั้นใครดูหนังจบ ก็ล้วนแต่อยากจะเป็นสักครั้ง เมื่อเติบโตขึ้นมา เรากลับรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าไหร่กับการเดินตามความฝันนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะใจรักอย่างแท้จริงกับการที่ต้องอยู่กับระบบเลข ระบบประมวลความคิด คำสั่งมากมาย แม้จะไม่อาจเป็นแบบความฝันได้ แต่ความชื่นชอบก็ไม่จำเป็นต้องทิ้งหายไป ลองเปลี่ยนมาเป็นเสพติดหนังแบบครั้งวัยเด็กก็คงไม่เลว UNLOCKMEN จึงคัดหนังชั้นยอดของฮอลลีวู้ดที่เกี่ยวกับการแฮกเกอร์ งัดความสามารถล้ำเทคโนโลยี ไว้ให้เปิดดูถึง 10 เรื่องกันเลยครับ WarGames (1983) ย้อนกลับไปหนังแฮกเกอร์เรื่องแรก ๆ ในอดีต เมื่อปี 1983 ภาพยนตร์เรื่องนี้ประกอบเป็นการดำเนินเรื่องของ David Lightman (Broderick) แฮกเกอร์อายุน้อยระดับไฮสคูลที่บังเอิญเข้าสู่ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ คิดว่ามันคือเกม! แต่กลับการเป็นเรื่องจริงที่พาเขานับถอยหลังสู่สงครามโลกครั้งที่สาม Hackers (1995) เด็กชายที่ถูกจับกุมโดย US Secret Service ในข้อหาทำการสร้างไวรัสคอมพิวเตอร์ขึ้นมาและสร้างภัยอันตรายให้แก่ประเทศชาติ จนทำให้ถูกศาลสั่งห้ามงดใช้คอมพิวเตอร์อีกจนกว่าจะอายุครบ 18 ปี แต่อยู่มาวันหนึ่งเขาได้เจอกับเพื่อนใหม่ที่ดันไปค้นพบแผนไวรัสตัวอันตรายที่กำลังจะถูกปล่อยออกมา ซึ่งพวกเขาก็ต้องใช้ทักษะในการค้นหาหลักฐาน และหลบหลีกจาก US Secret Service ทั้งที่พวกเขากำลังจะช่วยโลก
UNLOCKMEN มีอัพเดทข่าวด่วนที่เป็นเรื่องใกล้ตัวกันกว่าที่คิด โดยบริษัท Eset ผู้พัฒนาโปรแกรมและแอป Antivirus ชื่อดัง อย่าง Nod32 ได้ประกาศการค้นพบมัลแวร์ตัวใหม่ที่แฝงภัยมากันแบบไม่รู้ตัว ในชื่อว่า Turla โดยเจ้า Turla เนี่ย ปลอมตัวแฝงเป็นคอมเม้นท์ต่าง ๆ ใต้รูปใน Instagram โดยพุ่งเป้าไปที่คนดังหรือเหล่าเน็ทไอดอลที่มียอดผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก ซึ่งล่าสุดคนที่โดนก็คือ Instagram ของ Britney Spears ที่มีผู้ติดตามมากถึง 16.9 ล้านคน โดยหลักการทำงานของมันก็ง่ายแบบแทบเราไม่ทันสังเกตกันด้วยซ้ำ เพราะเหล่าคนดังเหล่านี้ เมื่อมีการโพสต์รูปแต่ละที มักจะมีคนเห็นและเข้ามาคอมเม้นท์เป็นจำนวนมากซึ่งเป็นปกติอยู่แล้ว พวกแฮคเกอร์ก็หัวหมอ ทำการฝังโค้ดเอาไว้ในคอมเม้นท์เหล่านั้น ไปกับพวกแฮชแท็กที่ฝังโค้ด แบบ URL ของเว็บไซต์ คล้ายกับพวกลิงค์ย่ออย่าง Bit.ly หรือ Goo.gl ทำให้คนทั่วไปไม่สามารถแยกแยะได้เลยว่าตัวไหนมีหรือไม่มีมัลแวร์ฝังไว้อยู่ เมื่อเราเผลอกดเข้าไปดู ก็จะทำให้มัลแวร์เหล่านี้ติดลงไปในเครื่อง จากนั้นก็จะขโมยข้อมูลของเราส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮคเกอร์ที่ตั้งไว้ และส่วนใหญ่ผู้ใช้งานที่โดนมัลแวร์ตัวนี้จะเป็นคนที่ใช้งานผ่านหน้าเว็บไซต์เป็นหลักมากกว่าพวกสมาร์ทโฟน แต่ยังไงก็วางใจไม่ได้อยู่ดี เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าข้อมูลของเราถูกเอาไปใช้ไหนทางไหน ตอนนี้จากการตรวจสอบ พบว่ายังไม่มีวิธีไหนสามารถแยกแยะได้ว่าแฮชแท็กที่เราเห็น อันไหนของจริง อันไหนมีมัลแวร์บ้าง เพราะฉะนั้นทางที่ป้องกันได้ดีและได้ผลที่สุด ก็คืออย่าคลิกลิงค์หรือแฮชแท็กที่เราไม่คุ้นเคย จนกว่าจะมีการแก้ไขปัญหาตรงนี้