Wabi-sabi (วะบิ-ซะบิ) เป็นอีกแนวทางการออกแบบของญี่ปุ่นที่โด่งดังไม่แพ้มินิมัลสไตล์อันเลื่องชื่อ บ้างว่า Wabi-sabi คือปรัชญาการใช้ชีวิตเช่นเดียวกับ Ikigai (อิคิไก) แต่ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการค้นหาความหมายในชีวิต หากว่าด้วยเรื่องการยอมรับความไม่สมบูรณ์ของทุกสรรพสิ่งรอบตัว นอกจากแนวคิดนี้จะหยั่งรากลึกลงในวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นแล้ว Wabi-sabi ยังเข้ามามีอิทธิพลต่อแวดวงการออกแบบด้วยเช่นกัน เหล่านักออกแบบและสถาปนิกบางคนเริ่มนำวัสดุที่ผุกร่อนและมีรอยตำหนิมาใช้ในงาน เลิกยึดติดกับความงามตามอุดมคติและเปิดใจยอมรับว่าบางครั้งความไม่สมบูรณ์แบบก็งดงามและมีคุณค่า NC Design & Architecture สตูดิโอออกแบบของฮ่องกงได้รับโจทย์ให้ออกแบบห้องที่มีพื้นที่ใช้สอย ดูสวยงาม และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สตูดิโอรายนี้จึงนำวัสดุที่มีร่องรอยขีดข่วนและรอยตำหนิ ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ไปจนถึงของตกแต่งชิ้นเล็ก มาสร้างสรรค์ผลงานสถาปัตยกรรมภายใน ที่สะท้อนความงดงามของความไม่สมบูรณ์แบบตามหลักปรัชญา Wabi-sabi พื้นที่ใช้สอยขนาด 157 ตารางเมตรถูกแบ่งให้เป็นสามส่วนหลักคือห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้องน้ำที่มีทางเดินไม้ยกระดับเป็นตัวกั้น ซึ่งทางเดินไม้ที่ออกแบบให้สูงกว่าพื้นห้องนั้นได้แรงบันดาลใจมาจาก Genkan (เก็นคัง) โถงทางเข้าบ้านที่ไล่ระดับพื้นตามแบบบ้านญี่ปุ่นดั้งเดิม ส่วนห้องครัวและห้องอ่านหนังสือจะตั้งอยู่ทางด้านหลังของห้องหลัก ภายในอพาร์ตเมนต์นี้ดีไซน์ด้วยวัสดุธรรมชาติเป็นหลัก ใช้พื้นไม้และผนังไม้บางส่วนสร้างความอบอุ่นแบบบ้านญี่ปุ่น ผนัง เพดาน ผ้าม่าน และเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นก็เลือกใช้เป็นสีเอิร์ธโทนที่ดูอบอุ่นเช่นกัน แม้จะตกแต่งให้ดูเรียบง่าย แต่ก็มีเฟอร์นิเจอร์หินอ่อนที่มีรอยตำหนิหลายชิ้นช่วยสร้างความโดดเด่นและเป็นจุดนำสายตา ทั้งยังได้หินอ่อนทรงเรขาคณิตและโลหะออกซิไดซ์เก่า ๆ ประดับประดาตามผนัง เป็นเหมือนงานประติมากรรมขนาดย่อม เฟอร์นิเจอร์ที่ติดตั้งในห้องนั่งเล่นยังถูกเลือกสรรอย่างพิถีพิถัน เพื่อสร้างบรรยากาศที่สงบ เรียบง่าย และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด โทรทัศน์และประตูที่เชื่อมไปยังห้องต่าง ๆ
สงคราม กระสุนยาง ลูกตา เลือด ชุมนุม บอยคอตสินค้า และการปิดสนามบิน ข่าวที่วนเวียนตลอดหลายเดือนของฮ่องกงทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วง 2 วันนี้ที่ทั่วโลกกำลังจับตามองความรุนแรงที่เกิดขึ้น ลุกลามไร้การยับยั้งถึงขนาดมีคนกล่าวว่า “ฮ่องกง” อาจเป็นเวทีของสงครามโลกครั้งที่ 3 ของมหาอำนาจ ที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ข้อยุติจบลงที่ตรงไหน ใครบ้างที่ถูกพาดพิงว่าเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ก่อนเหตุการณ์จะคลี่คลาย UNLOCKMEN ขอสรุปสถานการณ์โลกสั้น ๆ มาให้ทำความเข้าใจกัน ชนวนปิดสนามบิน เริ่มจากความตายของหญิงสาว กว่าการลุกฮือของประชากรชาวฮ่องกงจะดำเนินมาถึงตรงนี้ ไม้ขีดก้านแรกที่จุดขึ้นมา เริ่มต้นจากคดีคู่รักชาวฮ่องกงที่เดินทางไปประเทศไต้หวัน ตามข่าวกล่าวว่าฝ่ายชายวัย 19 ปีฆาตกรรมแฟนสาวที่กำลังท้องในแผ่นดินไต้หวันแล้วตัวเองบินกลับฮ่องกง ด้วยความที่ไต้หวันและฮ่องกงรวมทั้งจีนไม่มีการร่างกฎหมายการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนต่อกัน คดีสะเทือนใจนี้จึงไม่สามารถดำเนินคดีได้ ไม่มีกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน จึงไม่มีคนผิดต้องรับโทษ หญิงสาวผู้น่าสงสารจบชีวิตลงแสนเศร้า ทว่าเรื่องสะเทือนขวัญนี้กลายเป็นต้นทางของความขัดแย้งทันทีที่ Carrie Lam ผู้บริหารสูงสุดเกาะฮ่องกงลุกมาผลักดัน “ออกร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเมื่อมีข้อต้องสงสัยว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดทางอาญา ไปรับการพิจารณาคดีที่จีนแผ่นดินใหญ่ได้ (Fugitive Offenders and Mutual Legal Assistance in Criminal Matters Legislation