สหรัฐอเมริกาในยุค 50 เป็นช่วงเวลาแห่งความเท่ที่เมื่อมองย้อนกลับไปเมื่อไหร่ก็จะสัมผัสได้ถึงความคลาสสิกที่มีสไตล์ทุกครั้ง โดยเฉพาะกับเมืองลาสเวกัส (Las Vegas) ที่คนทั่วโลกตั้งฉายาว่าเมืองแห่งบาป (Sin City) เมืองที่เต็มไปด้วยเหล่าสตาร์ชื่อก้องโลก คาสิโน เป็นแหล่งบันเทิงชั้นนำของโลก ด้วยความวินเทจและตื่นตาที่เมืองอื่น ๆ ในช่วงเวลาเดียวกันยังไม่สามารถจัดจ้านได้เท่า จึงทำให้เราสนใจเมืองแห่งบาปและอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับลาสเวกัสหลังสงครามโลกครั้ง 2 หรือในช่วงยุค 50 เพื่อพบกับความงามของเมืองหลังสงคราม คงจะถูกใจคอรถเก่าสุดคลาสสิกกันไม่น้อยกันรูปถ่ายถนน Fremont ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่พาดผ่านคาสิโนหลายแห่งของลาสเวกัสในปี 1955 รูปดังกล่าวทำให้เราเห็นรถรุ่นเก่า ๆ ที่ในปัจจุบันแทบไม่เหลืออยู่แล้ว รวมถึงได้เห็นบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองปี 1958 ที่ทำให้รู้ว่าไม่ว่าจะเมื่อไหร่ลาสเวกัสก็ไม่เคยหลับ แถมยังเห็นโรงแรมในตำนานอย่าง Golden Nugget โรงแรมและคาสิโนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในย่าน downtown ที่ในตอนนี้ก็ยังเปิดให้บริการอยู่ ป้ายไฟนีออนหลากสีที่กระจายตัวอยู่เต็มสองฝั่งถนน รวมถึงรถยนต์คันโก้ที่จอดสนิทอยู่ริมทางเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่ามีผู้คนจำนวนไม่น้อยมาใช้บริการเพื่อความรื่นรมย์ที่เมืองแห่งบาปนี้ สระว่ายน้ำถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยบรรเทาอากาศที่ร้อนระอุ และในปี 1955 ผู้คนในยุคนั้นก็เห็นถึงความสำคัญของสระน้ำเช่นเดียวกับปัจจุบัน เพราะอากาศของเมืองลาสเวกัสในฤดูร้อนก็อบอ้าวเกินกว่าหลายคนจะทนไหว ด้วยความร้อนที่พุ่งสูงกว่า 100 ฟาเรนไฮต์ หรือประมาณ 38 องศาเซลเซียส ทำให้การได้แหวกว่ายอยู่ในน้ำเย็น ๆ ก็จะช่วยสามารถคลายความร้อนได้ และไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถมีสระว่ายน้ำเป็นของตัวเอง การมาใช้บริการในโรงแรมพร้อมกับเสี่ยงโชคไปด้วยจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เหล่านักท่องเที่ยวและนักแสวงโชคแห่แหนกันมายังเมืองเพื่อคาสิโน อย่างในปี 1957