ภาพจำของเหล่าไบค์เกอร์ (Biker) หรือนักบิดมอเตอร์ไซค์ของทุกคนเป็นอย่างไร? เราเชื่อว่าภาพที่มีคงไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่ ชายสวมแจ็คเก็ตหนังดำ เสื้อเชิ้ตดำ แว่นตาสีดำ รองเท้าหนังหุ้มข้อ และแน่นอน ‘กางเกงยีนส์’ (ไม่ว่าจะสีดำหรือสีน้ำเงินก็ตาม) ในบทความนี้เราจะขอเล่าความเป็นมาของวัฒนธรรมการขี่มอเตอร์ไซค์ของเหล่าไบค์เกอร์ และแฟชั่นที่ปรับไปตามบริบทของสังคมพร้อมกับยุคสมัย แต่ไม่ว่าอะไรจะแปรเปลี่ยนนิยามคำว่า ‘เท่’ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป วัฒนธรรมที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคอลเลกชั่นล่าสุดของแบรนด์เดนิมอันดับต้นของโลกอย่าง Wrangler ที่ชื่อว่า “Biker Collection” แต่ ! สิ่งที่ UNLOCKMEN อยากให้ทุกคนรู้เป็นอย่างแรก คือเหตุผลว่าทำไม Wrangler ถึงต้องมาจับคู่กับไบค์เกอร์ ผ่านคำตอบที่อยู่ในไทม์ไลน์ของแบรนด์เสียก่อน จริง ๆ แล้วประวัติศาสตร์การเดินทางของ Wrangler ในความเป็น American Jeans เริ่มต้นเมื่อ C.C. Hudson ตัดสินใจทำตามความฝันของตัวเองในยุคสิ่งทอกำลังรุ่งเรือง ปี 1897 ออกจากบ้านเกิดรัฐ Tennessee มุ่งหน้าสู่ North Carolina โดยเริ่มต้นจากเป็นพนักงานเย็บกระดุมที่ได้ค่าแรงเพียงวันละ 25 เซ็นต์ ทำงานจนกระทั่งโรงงานปิดตัวลงในปี 1904 เขาและน้องชาย Homer
ครั้งหนึ่งในชีวิตเราอาจได้รู้จักผู้หญิงที่ชื่นชอบรองเท้า กระเป๋า ที่พร้อมจ่าย กี่คู่กี่ใบก็สู้ เท่าไหร่ก็เท่ากัน แต่คงไม่ค่อยได้เจอกับสาวที่มีรองเท้าหนังหลายร้อยคู่และกระเป๋าหนังหลายใบที่เก็บไว้ที่บ้าน แต่ไม่ได้ใช้งานเองและไม่ได้เก็บไว้ดูเล่น หากอยู่ในฐานะของ “ไฟ” หรือ “แรงบันดาลใจจากความรัก” ที่เธอออกแบบไว้ส่งต่อให้ลูกค้าคนสำคัญจากแบรนด์ Oyster Footwear แบรนด์ที่เธอปลุกปั้นเอง และถ้า Sterilization เป็นคำใช้กำกับกระบวนการผ่านความร้อนปลอดเชื้อที่ทำให้อาหารอยู่ได้นานคงทน สิ่งที่ วรามล ชนะกิจการชัย หรืออ๊อยซ์ สาวนักดีไซน์น่าค้นหาคนนี้ใช้เป็นกระบวนการพาแบรนด์ให้เติบโตยาวนานหลายปีคงต้องยกให้กับคำใหม่นอกพจนานุกรมคือ “Leatherization” หรือ การใช้ “ความรักหนัง” บ่มเพาะแบรนด์ หลายประเด็นที่เราเลือกมาฟอกผ่านการสนทนาจะเผยมุมลึกชวนให้คุณต้องหลงรัก แม้เครื่องหนังรองเท้ากระเป๋าที่เป็นโปรดักส์ส่วนใหญ่ของเธอจะเป็นของใช้ของผู้หญิงก็ตาม ทำเพาะรัก ทำเพราะรัก ออกจะเป็นคำถามสามัญทุกบทสัมภาษณ์ เมื่อเราถามถึงบทบาทของอ๊อยซ์ก่อนจะก้าวมาเป็นผู้ก่อตั้ง “Oyster Footwear” อย่างที่เราบอกว่าผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจของพวกนี้เท่าไหร่ แต่ก็ละสายตาไม่ได้ในเสน่ห์ของความดิบกับคำพูดที่ออกมาจากเสียงนวล ๆ เพราะทุกคำพูดจริงใจ กระแทกใจจากเหตุผลสองอย่าง คือ “อิ่มแล้วงานประจำและโหยหาแพชชั่นภายใน” “จริง ๆ เริ่มทำรองเท้าที่เริ่มทำมาได้เพราะมี 2 อย่างคือ ค่อนข้างเบื่องานประจำแล้ว ตอนแรกเราเป็นกราฟิกดีไซเนอร์มาก่อน ก็ทำงานมาอยู่ประมาณ 5 ปีเนี่ยแหละ มันก็เริ่มเบื่อ เริ่มถึงจุดอิ่มตัว