ใคร ๆ ต่างก็รู้ดีว่าอาชญากรรมเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม และเป็นการกระทำที่ไม่ควรเลียนแบบ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความสัมพันธ์ของแก๊งมาเฟียหรือเรื่องราวผิดกฎหมายมันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่ใคร ๆ ต่างอยากลองสัมผัสสักครั้งแม้จะเป็นการรับชมผ่านภาพยนตร์ก็ตาม Martin Scorsese ถือเป็นนักเล่าเรื่องชั้นครูของวงการฮอลลีวูด เขาชื่นชอบเรื่องราวของแก๊งมาเฟียอเมริกัน-อิตาลี สงคราม การเมือง ศาสนา และอิทธิพลในโลกใต้ดินที่ซ่อนทั่วสหรัฐอเมริกา และในตอนนี้เขาก็หวนคืนสู่วงการมาเฟียอีกครั้งด้วยผลงานเรื่อง The Irishman (2019) เรียก ‘FRANK IRISHMAN’ ว่ามาเฟียคนสุดท้ายก็คงจะไม่ผิดนัก The Irishman เล่าเรื่องราวชวนสงสัยผ่าน Frank Sheeran ทหารผ่านศึกชาวไอริชช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ตอนนี้เขาเป็นชายขับรถส่งเนื้อ รับจ้างทาสีบ้าน (ศัพท์ในวงการมาเฟียหมายถึงมือปืนรับจ้าง) ทั่วสหรัฐฯ โดยลูกเมียของเขาไม่ได้รู้ถึงอาชีพช่างทาสีบ้านของเขา ใครจะคิดว่าชีวิตคนขับรถขายเนื้อจะได้โคจรมาเจอกับบุคคลที่ถูกเรียกว่าเป็น ‘ชายผู้อันตรายที่สุดในศตวรรษที่ 20’ อย่าง Russell Bufalino อาชญากรตัวเป้งชาวชิลีผู้กุมอำนาจแถบชายฝั่งตะวันออกทั้งหมดของยุค 70 แถมยังได้ใกล้ชิดกับ Jimmy Hoffa ผู้นำสหภาพแรงงานแห่งชาติผู้ยิ่งใหญ่ ที่ใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าเขาคือหนึ่งในชายที่กุมอำนาจทางการเมืองสหรัฐอเมริกา ‘เมื่อก้าวเข้าสู่วงการมาเฟียแล้วจะต้องไม่ถอยหลังกลับ’ Frank หรือ Irishman
สำหรับคนที่ชื่นชอบการดูภาพยนตร์คงไม่มีใครไม่รู้จักหรือเคยได้ยินชื่อของ มาร์ติน สกอร์เซซี (Martin Scorsese) ผู้กำกับหนังชื่อดังที่สร้างภาพยนตร์ สารคดี รายการโทรทัศน์มาแล้วกว่า 60 เรื่อง ใคร ๆ ก็ชื่นชมเขา ใคร ๆ ต่างก็นับถือเขา แต่ในตอนนี้เขากลับต้องเจอกับคำวิจารณ์ของสังคมครั้งใหญ่เพราะเขาบอกว่าหนังของ Marvel เป็นแค่สวนสนุก และทำให้เราต้องคิดตามว่า ‘แล้วหนังแบบไหนถึงจะเรียกว่าภาพยนตร์ที่แท้จริงได้บ้าง ?’ บางคนอาจยังสับสนว่า มาร์ติน สกอร์เซซี เป็นใคร เขามีผลงานโด่งดังอะไรบ้างที่ทำให้กลายเป็นตำนาน และทำไมมุมมองเกี่ยวกับภาพยนตร์ของเขาสามารถสร้างผลกระทบให้กับวงการภาพยนตร์ได้มากมายขนาดนี้ UNLOCKMEN จะพาไปทำความรู้จักกับผู้กำกับชื่อดังคนนี้ให้มากขึ้น เพราะการสร้างสรรค์ผลงานผ่านการกำกับและงานเขียนสามารถทำให้เรารู้ลึกถึงความคิดของคนคนหนึ่งได้ ความสำเร็จของ MARTIN SCORSESE ก่อนสกอร์เซซีจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้กำกับหนังที่มีอิทธิพลต่อวงการฮอลลีวูด เขาแจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่อง Mean Streets (1973) บอกเล่าสังคมของผู้คนและกลุ่มผู้มีอิทธิพลในโลกใต้ดินเมืองนิวยอร์กผ่านเด็กเก็บค่าคุ้มครอง แม้มีงบทำหนังจำกัดมาก ๆ แต่สกอร์เซซีทำให้ผู้คนเห็นว่าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาหลักในการสร้างภาพยนตร์ที่ดี จากนั้นต่อด้วยเรื่อง Taxi Driver (1976) ชายผู้ผ่านสงครามเวียดนามที่เป็นโรคนอนไม่หลับเลยมาขับแท็กซี่ตอนกลางคืน แต่สุดท้ายจับพลัดจับผลูวางแผนฆ่าผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้วยการกำกับอันแยบคาย ดนตรีประกอบสไตล์แจ๊สที่ส่งผลต่อความรู้สึกของผู้ชมเพราะเป็นผลงานสุดท้ายของ Bernard Herrmann นักดนตรีประพันธ์ดนตรีประกอบชื่อดัง