หากจะให้พูดถึงความน่าหลงใหลในมนต์เสน่ห์แห่งเรือนเวลา ประเด็นหลัก ๆ ที่บรรดาเซียนนาฬิกาทั้งหลายไม่พลาดที่จะกล่าวถึงคงหนีไม่พ้นชื่อชั้นประวัติศาสตร์แบรนด์ ตลอดจนเรื่องราวของวัสดุชั้นยอด งานดีไซน์ที่งดงาม และแน่นอนว่าจะขาดไปไม่ได้กับสิ่งที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของนาฬิกา นั่นก็คือกลไกเครื่องบอกเวลาสุดซับซ้อน อีกหนึ่งความมหัศจรรย์ที่คิดค้นสร้างสรรค์จากฝีมือมนุษย์ เพื่อให้ได้มาซึ่งการบอกเวลาที่แม่นยำในระดับเสี้ยววินาที ซึ่งชื่อของแบรนด์นาฬิกาหรูระดับโลกสัญชาติสวิสอย่าง OMEGA ถือเป็นอีกสัญลักษณ์ของการบอกเวลาอันเที่ยงตรงแม่นยำ ที่เหล่านักสะสมนาฬิกาต่างรู้จักกันดี กับเรื่องราวในหน้าประวัติศาสตร์ที่สามารถการันตีถึงความใส่ใจในความแม่นยำของกลไกบอกเวลาแบบสุดขั้ว นับย้อนไปในปี ค.ศ.1848 ที่บุรุษนามว่า Louis Brandt (หลุยส์ บลาดต์) ริเริ่มก่อตั้งบริษัทนาฬิกา ด้วยความตั้งใจอันแรงกล้าที่จะประดิษฐ์กลไกบอกเวลาความแม่นยำสูงสุดเท่าที่เคยมีมา จนกระทั่งในปีค.ศ. 1894 แม้ Louis Brandt จะจากโลกนี้ไป แต่ความอุตสาหะของเขาได้ผลิดอกออกผลในรุ่นลูก ที่ยังคงมุ่งมั่นพัฒนากลไกบอกเวลา จนเกิดเป็นผลงานชิ้นสำคัญ นั่นคือกลไก 19-ligne ‘OMEGA’ calibre (19-ลิญจน์ ‘โอเมก้า’ คาลิเบอร์) ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่ถูกยกให้เป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมนาฬิกาครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งบนหน้าประวัติศาสตร์ และชื่อ ‘OMEGA’ ของกลไกบอกเวลารุ่นตำนานในครั้งนั้น ได้กลายมาเป็นชื่อแบรนด์ที่รู้จักกันไปทั่วโลกจวบจนถึงปัจจุบัน และต้องบอกว่า OMEGA คือผู้ผลิตนาฬิการายเดียวของโลกที่ตั้งชื่อแบรนด์ตามชื่อกลไกบอกเวลาประสิทธิภาพสูงที่ตัวเองคิดค้นขึ้นมาด้วยความภาคภูมิใจ เพื่อให้ชื่อนี้เป็นตัวแทนเรื่องราวของเรือนเวลาที่ใส่ใจในกลไกที่เที่ยงตรงแม่นยำจากจุดเริ่มต้นมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตลอดเส้นทางที่ผ่านมา OMEGA ได้พิสูจน์ตัวเองด้วยการคว้ารางวัลจากการทดสอบความแม่นยำมาแล้วนับไม่ถ้วน และหนึ่งในตัวอย่างชัดเจนที่สุดก็คือ การได้รับความไว้วางใจในฐานะผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกตั้งแต่ปีค.ศ. 1932 จนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่าสถิติของนักกีฬาที่ดีที่สุดในโลก ล้วนมาจากการบันทึกเวลาที่แม่นยำและเชื่อถือได้ของ