นับตั้งแต่ NIKE ได้ลงนามเป็นพันธมิตรกับสมาคมบาสเกตบอลแห่งชาติสหรัฐฯ (NBA) ในปี 2015 สัญญาก็ได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ในฤดูกาล 2017-2018 ในวันนี้ NIKE และ NBA จะเปิดเผยเบื้องลึกเบื้องหลังในการร่วมมือระหว่างนักออกแบบและวิศวกรของไนกี้ รวมถึงนักวิทยาศาสตร์การกีฬาและนักบาสเกตบอลอาชีพที่ได้จับมือกันพัฒนาชุดแข่งบาสเกตบอล ที่มีนวัตกรรมล้ำหน้าที่สุดเท่าที่ NIKE ได้เคยพัฒนามา ในช่วง2 ทศวรรษก่อนนั้น กีฬาบาสเกตบอลเป็นเรื่องของสรีระของผู้เล่น ผู้เล่นมักจะเน้นการเข้าแย่งบอลหรือจับบอลไว้ กับตัว บาสเกตบอลในยุคนั้นจึงมีจังหวะการเล่นที่ช้าและเป็นระบบมาก ต่อมากีฬาบาสเกตบอลมีการเปลี่ยนแปลงกติกา เช่นการกำหนดวิธีป้องกันฝ่ายรุกที่ผิดกติกา (ลดการตั้งรับแบบตั้งโซนโดยใช้แนวป้องกันที่เข้าข่ายผิดกติกา) และลดเวลาที่ผู้เล่นสามารถครอบครองบอลเพื่อให้การแข่งขันเร็วและไหลลื่นขึ้น ผู้เล่นบาสเกตบอลทุกระดับจึงต้องปรับตัวเองให้เข้ากับกติกานี้นั่นก็คือ พวกเขาต้องเคลื่อนไหวในสนามให้เร็วขึ้นและตัดสินใจให้เร็วขึ้นขณะแข่งขัน ทีมบาสเกตบอลอาชีพหลายทีมมีผู้เล่นในทีมน้อยลงและเริ่มเล่นเกมรุกอย่างเต็มตัว “รูปร่างของนักบาสเกตบอลในปัจจุบันแตกต่างจากนักบาสเกตบอลเมื่อ 10 ปีก่อนอย่างสิ้นเชิง วิธีการเคลื่อนที่ในสนามหรือตำแหน่งต่าง ๆ ในการเล่นก็แตกต่างกันด้วย เคิร์ท พาร์กเกอร์ (Kurt Parker) รองประธานฝ่ายการออกแบบเครื่องแต่งกายของไนกี้อธิบายว่า “ข้อแตกต่างเหล่านี้เป็นเหตุผลที่ไนกี้อยากพัฒนาทั้งคุณสมบัติและรูปลักษณ์ของชุดแข่งบาสเกตบอลไปพร้อม ๆ กัน” วัตถุประสงค์ที่คุณพาร์กเกอร์ ได้กล่าวข้างต้นเป็นวัตถุประสงค์หลักที่ทำให้ NIKE เปลี่ยนไปหลังจากลงนามเป็นพันธมิตรกับ NBA เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2015 นักออกแบบของไนกี้ลงมือออกแบบชุดบาสเกตบอลรุ่นใหม่ที่ไร้สิ่งรบกวนผู้สวมใส่ช่วยให้พวกเขารู้สึกสบายตัว เคลื่อนไหวได้คล่องตัวขึ้น และดูสวยงามในทันที ทีมงานนักออกแบบของไนกี้ที่มีประสบการณ์กว่า 25