ท่ามกลางฝุ่นควันวันนี้ ยังคงมีหลายชีวิตที่นั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ด้านนอก ไม่ยี่หระต่อสภาพอากาศหรือความอันตรายที่ข่าวประกาศปาว ๆ ว่าดมไปเยอะเข้าจะอันตรายต่อระบบหายใจ อันตรายถึงขั้นกลายเป็นมะเร็ง เพราะฝุ่นคงสำคัญน้อยกว่าอาหารสักมื้อและน้ำสักหยดตอนนี้ ภาพที่พร่าเลือนไม่ว่าจะมีฝุ่นหรือไม่ คือภาพของพวกเขา ชาวโฮมเลสไร้บ้านหรือคนด้อยโอกาสที่เดินอยู่บนฟุตบาทเดียวกับเรา อาศัยกำบังแสงแดด ลมฝน จากตึกแถวที่เราเคยผ่าน ทั้งหมดนี้ถ้าขัดถูด้วยหัวใจ ภาพจาง ๆ นั้นจะชัดยิ่งขึ้น ผู้คนเหล่านั้นบางคนอายุอานามเป็นพี่ น้อง เพื่อน หรือพ่อแม่ของเราได้ บางคนอาจเติบโตมาพร้อมกัน เพียงแต่อยู่ในกรอบสังคมและภาพลักษณ์ที่แตกต่าง คุณจะมองเมินต่อสิ่งเหล่านี้ได้นานแค่ไหน สำหรับบางคนใช้เวลาเป็นเดือน เป็นปี อาจใช้ทั้งชั่วชีวิตนี้ หรือจนกว่าพบภาพสะเทือนใจตรงหน้าอย่างเขา “ป๊อก” ไพโรจน์ พิเชฐเมธากุล “ตอนที่ไปเรียนปริญญาโทไปเรียนที่ซานฟรานซิสโกครับ ที่นั่นมีคนไร้บ้านเยอะ แล้ววันหนึ่งเราไปเห็นเขากำลังถูกทำร้ายอยู่แต่เราไม่ได้เข้าไปช่วยเขา ก็เลยตัดสินใจว่าเราจะทำโปรเจ็กต์เพื่อช่วยเขาในวันถัดไป ตอนแรกแค่กะแค่ว่าทำแค่วันสองวันแล้วก็พอแล้ว ไม่คิดว่ามันจะยาวนานมา 6-7 ปี จริง ๆ โดนด่าตั้งแต่โปรเจ็กต์โฮมเลสแล้วครับว่าสร้างภาพ มาหากินกับโฮมเลส เราก็รู้สึกว่าไม่แคร์แล้ว เพราะว่าสนใจนักเลงคีย์บอร์ด สนใจคนไม่กี่คน แต่ว่าผมบริจาคให้โฮมเลสเยอะมาก ๆ แล้วมาทำโรฮิงญาตอนนี้ก็ไม่ได้ขอเงินใครครับผม เงินผมเอง สมมติว่าช่วยโรฮิงญาได้ไปลี้ภัยประเทศอื่นได้