รองเท้า คือหนึ่งในไอเทมสำคัญที่ผู้ชายอย่างเราให้ความสำคัญ จึงไม่แปลกที่หนุ่ม ๆ แต่ละคนจะมีรองเท้าหลากรุ่นหลายสไตล์เก็บเอาไว้ในครอบครองสำหรับสวมใส่ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใหม่หรือรองเท้ารุ่นคลาสสิก ขณะเดียวกัน ทุกคนคงทราบดีว่ารองเท้ารุ่นคลาสสิกที่เราเห็นในปัจจุบันหลายรุ่น ต่างมีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็น “รองเท้ากีฬา” ไม่ว่าจะเป็น Converse Chuck Taylor Allstar ที่มีพื้นฐานจากการเป็นรองเท้าบาสเกตบอล หรือ Adidas Stan Smith ที่พัฒนามาจากรองเท้าเทนนิส ซึ่งต่อมารองเท้าทั้ง 2 รุ่นก็ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยและกลายมาเป็นโมเดลรองเท้าที่อยู่เหนือกาลเวลาไปแล้ว อย่างไรก็ตาม นอกจากรองเท้าที่มีพื้นฐานมาจากกีฬาอย่างบาสเกตบอลหรือเทนนิสแล้ว ยังมีรองเท้าอีกหนึ่งรุ่นที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการแข่งขันในโลกความเร็วอย่าง Formula1 กับรองเท้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง “Puma SpeedCat” และวันนี้เราจะพาทุกคนไปกับความรู้จักกับ Racing Shoe คู่นี้ให้ดีขึ้นกว่าเดิมไปพร้อมกัน ! กำเนิด Racing Shoes ก่อนจะพูดถึงรองเท้าสำหรับสวมใส่ขับรถที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เราขอพาทุกคนย้อนกลับไปทำความรู้จักกับรองเท้าสำหรับแข่งรถ (Racing shoe) คู่แรกของโลกกันก่อน โดยต้องย้อนกลับไปในปี 1963 เมื่อ Gianni Mostile ช่างทำรองเท้าชาวอิตาลีได้ทำการจดสิทธิบัตรรองเท้าสำหรับแข่งรถที่ตัวเขาออกแบบขึ้นมาเองกับมือ งานดีไซน์ของรองเท้าคู่ดังกล่าว ถูกออกแบบให้ส่วน Outsole โอบรัดเท้าไปบรรจบกันด้านหลังตัวรองเท้าเพื่อป้องกันส้นเท้าผู้สวมใส่จากแรงกระแทกระหว่างขับรถ ขณะเดียวกันยังออกถอดพื้นด้านในออก
หลังจากที่แบรนด์รองเท้าสัญชาติเยอรมนีอย่าง Puma ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากการปล่อยสนีกเกอร์โมเดล CELL VENOM ไปก่อนหน้านี้ ในตอนนี้แบรนด์เครื่องกีฬาชื่อดังก็พร้อมต่อยอดความสำเร็จดังกล่าวด้วยการเบนเข็มมายังฝั่งมังงะและแอนิเมชันเรื่องดังของประเทศญี่ปุ่น มังงะที่ว่าคือการผจญภัยของเหล่าโจรสลัดที่ตามหาขุมทรัพย์ ณ เกาะสุดท้ายกับเรื่อง One Piece ผลงานจากปลายปากกาของอาจารย์เออิจิโระ โอดะ ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยจะหยิบประเด็นที่ว่าด้วยความมืดและความสว่างที่เป็นแกนกลางของเรื่องมาเล่าบนสนีกเกอร์รุ่น LQD CELL เส้นแบ่งระหว่างความดีและความชั่วคืออะไร ? คือทหารเรือกับโจรสลัด หรือแท้จริงแล้วเราทุกคนไม่ว่าจะมีจุดยืนอยู่ฝ่ายไหนต่างก็ล้วนมีด้านมืดและด้านสว่างอยู่ในตัว ? ถ้าใครที่เป็นแฟนมังงะจะรู้ว่าไม่ใช่ทหารทุกคนจะเป็นคนดี และไม่ใช่ว่าโจรสลัดจะชั่วร้ายไปเสียหมดทุกคน ด้วยประเด็นแสนละเอียดอ่อนที่อาจารย์โอดะสอดแทรกอยู่ในผลงานอย่างน่าสนใจ Puma จึงนำแรงบันดาลใจที่ว่าเปลี่ยนเป็นแฟชั่นโดยใช้ความมืดและความสว่างมาบรรจบกันอยู่บนสนีกเกอร์ LQD CELL ที่ถูกแต่งแต้มด้วยเรื่องราวของความมืดและแสงสว่างจากเรื่อง One Piece เป็นสนีกเกอร์ที่รับแรงบันดาลใจมาจากแฟชั่นรองเท้ายุค 90 และนำมาผสานกับเทคโนโลยีปัจจุบันอย่างลิควิดเซลล์รูปทรงหกเหลี่ยม นุ่มและคืนตัวซ่อนอยู่ในส้นรองเท้าแบบหนา รองรับแรงกระแทกจากการเดิน วิ่ง และกระโดดได้เป็นอย่างดี การเล่าเรื่องความมืดและความสว่างบน Puma LQD CELL จะประทับอยู่บนสนีกเกอร์สีขาวสะอาดตา เมื่อยามเดินตามปกติในเวลากลางวันหรือสถานที่มีแสงเยอะก็จะเป็นการเผยตัวตนของความดีที่อยู่ด้านสว่าง แต่ความพิเศษขั้นกว่ากลับถูกซ่อนไว้ในด้านมืดเพราะเมื่อเราเดินเข้าสู่สถานที่ที่มีแสงน้อยหรือตอนกลางคืน สนีกเกอร์ตัวแทนด้านสว่างก็จะเปลี่ยนไปเป็นด้านมืดพร้อมกับโชว์ลวดลายเรืองแสงตรงแถบ 3M Sock Lining รูปหัวกะโหลกสวมหมวกฟาง สัญลักษณ์ธงโจรสลัดของกลุ่มลูฟี่ ที่อยู่รอบบริเวณ Upper
ถ้าพูดถึงศิลปะของญี่ปุ่นที่โด่งดังไปทั่วโลก ใคร ๆ ต่างก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าภาพพิมพ์แกะไม้ชื่อว่า Ukio-e (อูกิโยะ) เป็นศิลปะญี่ปุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ศิลปะสไตล์นี้ถูกหยิบมาเกี่ยวข้องกับแฟชั่นอยู่บ่อยครั้ง ความหมายแท้จริงของ Ukio-e ถูกตีความได้หลากหลาย บ้างก็แปลว่า ‘โลกที่มีแต่ความทุกข์’ หรือถ้าแปลตามความหมายของภาษาจีนคือ ‘โลกที่ไม่เที่ยง’ แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้เข้าต่างเข้าใจตรงกันคือมันเป็นศิลปะที่โด่งสุดขีดในยุคสมัยเอโดะ บอกเล่าทุกสิ่งเกี่ยวกับญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ความเชื่อ วิถีชีวิต ครอบครัว ตำนานปีศาจ โสเภณี เซ็กซ์ ซามูไร ไปจนถึงเรื่องราวในราชสำนักและศาสนา ถูกเล่าผ่านลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ร่วมกับสีสันสุดโดดเด่น แถมยังมีราคาขายเริ่มต้นที่ชนชั้นกลางสามารถจับต้องได้ ทำให้ทุก ๆ คนสามารถเข้าถึงศิลปะได้อย่างแท้จริง Ukio-e จึงเปรียบเสมือนวัฒนธรรมป๊อปแห่งยุคเอโดะเลยก็ว่าได้ สำหรับปี 2019 ญี่ปุ่นได้นำศิลปะที่กลายเป็นวัฒนธรรมกระแสหลักในยุคเอโดะมาปรับให้เข้ากับแฟชั่น โดยถ่ายทอดนักรบซามูไรหนุ่มบนแผ่นไม้สไตล์ Nikuhitsu-ga ซึ่งเป็นศิลปะที่แยกย่อยออกมาจาก Ukio-e อีกที นำเรื่องราวและสีสันอันน่าทึ่งมาอยู่บนสนีกเกอร์รุ่น RS-X³ ของแบรนด์ Puma เมื่อ Ukio-e ขึ้นชื่อว่าเป็นศิลปะอันโด่งดังของญี่ปุ่น จะให้หยิบภาพพิมพ์แกะไม้มาสักชิ้นแล้วเอาสีมาเพ้นต์ลงบนรองเท้าให้เสร็จไปก็คงจะไม่ใช่ญี่ปุ่น โปรเจกต์การทำสนีกเกอร์รุ่น RS-X³ ให้เต็มไปด้วยเรื่องราวของวันวานจากเอโดะจึงเริ่มต้นขึ้นจากการร่วมมือกันของหลายกลุ่มทั้ง Atmos ร้านรองเท้าจากโตเกียว Puma แบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องกีฬาจากเยอรมนี
เมื่อรองเท้ากีฬาชื่อดัง Puma เตรียมออกคอลเลกชันพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ โดยการ collaboration กับเพื่อนเก่าอย่าง MTV สร้างสรรค์ผลงานเป็นแคปซูลคอลเลกชันพิเศษชื่อว่า MTV x PUMA RS-X Tracks การพบกันของ Puma และ MTV ครั้งนี้เลือกหยิบ RS-X Toys Sneakers ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2018 มาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง เพราะความโดดเด่นของดีไซน์จากแรงบันดาลใจในทศวรรษ 1980 เต็มไปด้วยสีสันสดใสตามแบบของเล่นวัยเด็ก ที่แต่งแต้มอยู่บนรองเท้าทรงอ้วนป้อมแบบ dad shoe สามารถเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจของยุคนั้นได้เสมอ ส่วนเคเบิ้ลทีวีชื่อดังที่เป็น pop Culture ของวัยรุ่นอเมริกันอย่าง MTV เริ่มออกอากาศครั้งแรกปี 1981 พร้อมกับคอนเซ็ปต์สีสันจัดจ้านแบบนีออน และ Puma ก็เคยได้ร่วม collaboration กับ MTV ล่าสุดเมื่อปี 2006 ด้วยการออกสนีกเกอร์รุ่น Clyde ที่ได้แรงบันดาลใจจากรายการ Yo! MTV Raps รายการแรปชื่อดังระดับตำนานของช่อง MTV หลังจากที่ทั้งสองแบรนด์คอแลปส์กันเมื่อปี 2006 ในปีนี้ Puma