NIHON STORIES: PUMA RS-X³ เมื่อ ATMOS นำสีสันของซามูไรจากภาพพิมพ์แกะไม้มาไว้บนรองเท้า

ถ้าพูดถึงศิลปะของญี่ปุ่นที่โด่งดังไปทั่วโลก ใคร ๆ ต่างก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าภาพพิมพ์แกะไม้ชื่อว่า Ukio-e (อูกิโยะ) เป็นศิลปะญี่ปุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ศิลปะสไตล์นี้ถูกหยิบมาเกี่ยวข้องกับแฟชั่นอยู่บ่อยครั้ง

ความหมายแท้จริงของ Ukio-e ถูกตีความได้หลากหลาย บ้างก็แปลว่า ‘โลกที่มีแต่ความทุกข์’ หรือถ้าแปลตามความหมายของภาษาจีนคือ ‘โลกที่ไม่เที่ยง’ แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้เข้าต่างเข้าใจตรงกันคือมันเป็นศิลปะที่โด่งสุดขีดในยุคสมัยเอโดะ บอกเล่าทุกสิ่งเกี่ยวกับญี่ปุ่นอย่างแท้จริง 

ความเชื่อ วิถีชีวิต ครอบครัว ตำนานปีศาจ โสเภณี เซ็กซ์ ซามูไร ไปจนถึงเรื่องราวในราชสำนักและศาสนา ถูกเล่าผ่านลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ร่วมกับสีสันสุดโดดเด่น แถมยังมีราคาขายเริ่มต้นที่ชนชั้นกลางสามารถจับต้องได้ ทำให้ทุก ๆ คนสามารถเข้าถึงศิลปะได้อย่างแท้จริง Ukio-e จึงเปรียบเสมือนวัฒนธรรมป๊อปแห่งยุคเอโดะเลยก็ว่าได้

สำหรับปี 2019 ญี่ปุ่นได้นำศิลปะที่กลายเป็นวัฒนธรรมกระแสหลักในยุคเอโดะมาปรับให้เข้ากับแฟชั่น โดยถ่ายทอดนักรบซามูไรหนุ่มบนแผ่นไม้สไตล์ Nikuhitsu-ga ซึ่งเป็นศิลปะที่แยกย่อยออกมาจาก Ukio-e อีกที นำเรื่องราวและสีสันอันน่าทึ่งมาอยู่บนสนีกเกอร์รุ่น RS-X³ ของแบรนด์ Puma 

เมื่อ Ukio-e ขึ้นชื่อว่าเป็นศิลปะอันโด่งดังของญี่ปุ่น จะให้หยิบภาพพิมพ์แกะไม้มาสักชิ้นแล้วเอาสีมาเพ้นต์ลงบนรองเท้าให้เสร็จไปก็คงจะไม่ใช่ญี่ปุ่น โปรเจกต์การทำสนีกเกอร์รุ่น RS-X³ ให้เต็มไปด้วยเรื่องราวของวันวานจากเอโดะจึงเริ่มต้นขึ้นจากการร่วมมือกันของหลายกลุ่มทั้ง Atmos ร้านรองเท้าจากโตเกียว Puma แบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องกีฬาจากเยอรมนี และบริษัท Ukiyoemon Mitomoya ที่เชี่ยวชาญเรื่องศิลปะสไตล์ Ukio-e จากโอซาก้า มาร่วมกันระดมความคิดสร้างสรรค์ค้นหาว่าสนีกเกอร์คู่นี้ควรประทับสีสันใดไว้ตรงส่วนไหนบ้าง 

RS-X³ เดิมทีเป็นสนีกเกอร์ที่รับแรงบันดาลใจจากต่อยอดมาจาก Puma Runnig System ไลน์ผลิตรองเท้าวิ่งที่โด่งดังของแบรนด์ เลือกใช้ส่วนประกอบหลากหลายทั้งวัสดุหนังพรีเมียม ผ้าตาข่าย ยางคุณภาพสูงเพื่อคงสไตล์สุดวินเทจเอาไว้ละซ่อนเทคโนโลยี Running System Cushioning ไว้ด้านใน 

โทนสีที่ได้จากผลงานของ Mitomoya ปรากฏอยู่บนรองเท้าผ้าใบ RS-X³ โดยใช้ 3 สีหลัก ได้แก่ เหลือง เขียว และแดงกระจายอยู่ทั่วสนีกเกอร์ จากนั้นจึงใช้สีดำตัดแทรกเพื่อเพิ่มความเข้มโฉบเฉี่ยว นอกจากสีสันที่ถอดแบบจากผลงานภาพพิมพ์แกะไม้ถูกประยุกต์ใหม่ของ Mitomoya แท็บสีแดงที่สกรีนอักษรเขียนว่า “RS-X” และโลโก้ Puma สีเหลือง ซึ่งถูกเย็บติดกับลิ้นรองเท้าสีดำก็โดดเด่นไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ 

การนำแรงบันดาลใจจากภาพพิมพ์แกะไม้ Ukio-e มาแต่งแต้มอยู่บนรองเท้าหรือนำสีสันจากแผ่นไม้มาดัดแปลงบนสนีกเกอร์เคยมีให้เห็นผ่านตาอยู่บ่อยครั้ง เช่น Nike ที่เราเคยเล่าไปแล้วใน (NIHON STORIES: NIKE AIR FORCE 1 “UKIYO-E” บอกเล่าตัวตนผ่านศิลปะจากแดนอาทิตย์อุทัย) ก็เคยเอาคลื่นยักษ์นอกฝั่งคานางาวะอันโด่งดังของ Katsushika Hokusai (คัตสึชิกะ โฮกูไซ) มาอยู่บนสนีกเกอร์ แถมยังเพิ่มมูลค่าได้มากอีกด้วย เพราะราคารุ่นมาตรฐานของ Nike Air Force 1 มีราคาอยู่ที่ 3,500 บาท แต่เมื่อนำศิลปะสไตล์ญี่ปุ่นมาแต่งแต้มก็ส่งให้ Air Force 1 มีราคาพุ่งไปกว่า 12,000 บาท 

แม้ Puma RS-X³ กับ Nike Air Force 1 จะมีแรงบันดาลใจจากสิ่งเดียวกันคือ Ukio-e แต่ยืนยันว่าหน้าตาต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะดีไซเนอร์เลือกนำเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันมาเล่าเรื่อง ซึ่ง Puma RS-X³ คู่นี้เลือกดึงเอกลักษณ์จากการดึงสีสันที่โดดเด่นมาใช้สื่อกลิ่นอายแทน โดยสนีกเกอร์คู่พิเศษจาก Puma ที่ร่วมมือกับ Atmos และ Ukiyoemon Mitomoya สนนราคาอยู่ที่ 15,400 เยน หรือราว 4,300 บาท และจะวางจำหน่ายบนเว็บไซต์ atmos-tokyo.com กับร้านค้าบางสาขาของ Atmos เท่านั้น 

ชาว UNLOCKMEN ล่ะชอบ Ukio-e แนวไหน สีสันหรือหน้าตา ? Swoosh หรือ เสือพูม่า ?

SOURCE: 1 / 2 / 3 / 4