News | Video
UNLOCKMEN Logo
News | Video
Unlockmen Facebook Page Unlockmen Twitter Unlockmen YouTube channel
  • World
  • Entertainment
    :
    Films
    |
    Music
  • Guide
    :
    EVENT
    |
    MENU
    |
    TRAVEL
  • TECH
    :
    APPS
    |
    CARS
    |
    GADGETs
  • Style
    :
    DESIGN
    |
    FASHION
    |
    GROOMING
  • Business
  • Girls
  • Life
  • Work
  • Play
  • Survival
UNLOCKMEN Logo

News

World Entertainment Guide TECH Style Business Girls Life
Work Play Survival

Videos

Tag "nihon-stories"

  • World
    By: unlockmen February 22, 2021
    NIHON STORIES: “LAST MAN IN FUKUSHIMA” ผู้ยืนหยัดในดินแดนแห่งความตาย

    ย้อนกลับไปยังวันที่ 27 มกราคม 2012 สำนักข่าว CNN รายงานข่าวภัยพิบัติใหญ่ที่เกาะญี่ปุ่น เมื่อเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิโถมเข้าใส่จังหวัดฟูกูชิมะ ส่งผลให้โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์เกิดความเสียหาย กัมมันตภาพรังสีจากโรงงานรั่วไหลออกมาโดยรอบ รัฐบาลต้องสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่กว่า 1.6 แสนคนโดยด่วน ชาวบ้านที่ตื่นตระหนกจำต้องทิ้งบ้าน ทรัพย์สิน รวมถึงสัตว์เลี้ยงไว้ข้างหลัง เพื่อรักษาชีวิตตัวเองให้รอดปลอดภัยก่อน การรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีจากโรงงานนิวเคลียร์ในช่วงแรก ส่งผลให้สัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยงที่ถูกทิ้งไว้ได้รับสารเคมีอันตราย สัตว์เลี้ยงเพื่อบริโภคอย่างโคและสุกรจำนวนมากในหลายหมู่บ้าน จะถูกเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อทำการุณยฆาต ก่อนฝังทั้งหมดลงดิน เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อสัตว์ที่มีสารเคมีปนเปื้อนออกสู่ตลาด ทว่าสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่าจำนวนมากยังคงถูกทิ้งไว้ในดินแดนที่ไม่มีผู้อาศัย สัตว์หลายชนิดในบริเวณรอบที่ใกล้โรงฟ้าไฟนิวเคลียร์พากันล้มตาย เหลือไว้เพียงซากเน่ารอวันย่อยสลายเหลือแต่กระดูก กลิ่นเหม็นชวนคลื่นเหียนส่งกลิ่นตลบอบอวล บางตัวที่อ่อนล้าพยายามเอาตัวรอด ทว่าน้ำในแอ่งก็เต็มไปด้วยสารพิษ ต้นไม้ใบหญ้าก็อาบสารเคมี อากาศที่หายใจก็ไม่สะอาด เมืองที่ตายแล้วกำลังคร่าสิ่งมีชีวิตให้หมดลงไปเรื่อยๆ มีเพียงวันเวลาอันยาวนานเท่านั้นที่จะให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟูตัวเอง แล้วชาวฟูกูชิมะบางส่วนที่ต้องหนีไปก่อนหน้านี้ได้กลับบ้านอีกครั้ง ทว่ามีชายคนหนึ่งตัดสินใจมุ่งหน้าสู่ดินแดนรกร้าง ตั้งมั่นกับตัวเองว่าจะไม่ย้ายไปไหน อยู่ต่อเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกที่กำลังทุกข์ทรมาน มัตสึมูระ นาโอโตะ (Matsumura Naoto) คือชื่อของชายคนสุดท้ายที่ยืนหยัดอยู่ในเมืองโทมิโอกะที่ร้างไร้ผู้คน โทมิโอกะเป็นหนึ่งในชุมชนที่อยู่ในพื้นที่จำเป็นต้องลี้ภัยหลังการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไดอิจิ ก่อนเกิดเหตุระเบิดที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ มัตสึมูระเลี้ยงหมาไว้หนึ่งตัว และมักผูกมิตรกับสัตว์อื่นในชุมชนเสมอ ทุกคนในชุมชนจะรู้ว่าเขาชอบเอาอาหารไปเลี้ยงแมวจรจัดท้ายหมู่บ้าน ส่วนหมาจรจัดที่ดุแค่ไหนก็ยอมไว้ใจมัตสึมูระ หลังเกิดเหตุระเบิดไม่คาดฝัน ประชาชนส่วนใหญ่ที่อพยพไม่ได้นำสัตว์เลี้ยงไปด้วย หมาแมวจำนวนมากถูกปล่อยทิ้งไว้ตามเดิม เพราะใคร ๆ ก็คิดว่าเดี๋ยวก็คงได้กลับบ้าน ด้านมัตสึมูระที่ต้องอพยพออกมาเหมือนกับคนอื่น

  • World
    By: unlockmen February 22, 2021
    NIHON STORIES: หายนะและความตายในดินแดนรกร้างของ “นิวเคลียร์ฟูกูชิมะ”

    เมื่อเอ่ยถึง ‘นิวเคลียร์’ ในวงสนทนา สิ่งแรกๆ ที่จะได้ยินคือนิวเคลียร์จากการต่อสู้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้ง ‘Little Boy’ ที่ถูกทิ้งลงสู่เมืองฮิโรชิมะ ตามด้วย ‘Fat Man’ ที่ล้างผลาญเมืองนางาซากิ นอกจากนี้นิวเคลียร์ในความทรงจำของใครหลายคนอาจยังนึกถึง ‘เชอร์โนบิล’ เมื่อเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ของประเทศยูเครนเกิดระเบิด เช่นเดียวกับเหตุการณ์ในฟูกุชิมะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะญี่ปุ่น นับเป็นโศกนาฏกรรมที่ล้วนเกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ด้วยกันทั้งหมด UNLOCKMEN จะพาผู้อ่านย้อนไปยังอดีตเพื่อพบกับเหตุการณ์น่าสะพรึงจากภัยธรรมชาติ และคูณความรุนแรงสองเท่าด้วยสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นอย่างนิวเคลียร์และสารเคมีร้ายแรง เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ชาวญี่ปุ่นนับแสนต้องพลัดถิ่น ไม่สามารถกลับบ้านหลังเดิมได้นานหลายสิบปี และทุกอย่างนับจากจุดเริ่มต้นไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป ญี่ปุ่นนับเป็นดินแดนที่ขึ้นชื่อเรื่องการเผชิญหน้ากับภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวและสึนามิบ่อยเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก และภัยพิบัติทั้งสองก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2011 แผ่นดินไหวกว่า 9 ริกเตอร์ สะเทือนไปยังโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ไดอิจิในเมืองฟูกูชิมะ หากคิดว่าแผ่นดินไหวเข้าขั้นย่ำแย่แล้ว เคราะห์ยังซ้ำกรรมยังซัดญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องด้วยสึนามิสูงราว 15 เมตร ซัดผ่านแนวกั้นกำแพงที่สูงเพียง 10 เมตร ทะลักเข้าสู่โรงงานและเตาปฏิกรณ์ ทำให้ระบบไฟฟ้าฉุกเฉินไม่สามารถใช้งานได้ ระบบหล่อเย็นของเตาปฏิกรณ์ 3 จาก 6 เครื่องหยุดทำงาน ความร้อนในเตาพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ก๊าซไฮโดรเจนภายในเตาปฏิกรณ์จึงระเบิด สร้างความเสียหายใหญ่หลวงจนสารเคมีอันตรายเล็ดลอดออกมาจากโรงงาน เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐทราบถึงความผิดปกติครั้งใหญ่ พวกเขาทำอะไรไม่ได้มากนอกจากสั่งอพยพประชากรในละแวกใกล้เคียงในรัศมี 20

  • Life
    By: TOIISAN December 30, 2020
    NIHON STORIES: เมื่อการฆ่าตัวตายของชาวญี่ปุ่นพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์เพราะโควิด-19

    ‘ญี่ปุ่น’ ถือเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องอัตราการฆ่าตัวตายสูงติดอันดับโลกเสมอ จนถูกนับเป็นเมืองที่มีความเครียดสูงที่สุดเมืองหนึ่งของโลกไปแล้ว ด้วยเหตุผลหลายอย่างทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ การแข่งขันทางธุรกิจ การทำงาน รวมถึงพื้นที่ที่จำกัด และค่านิยมหลายอย่างที่อาจส่งผลให้ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เกิดความเครียด เมื่อเครียดจนไม่รู้จะทำอย่างไร คนบางส่วนจึงเลือกที่จะจบชีวิตตัวเองเพื่อปิดกั้นการรับรู้ถึงปัญหาต่าง ๆ ไปตลอดกาล การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลกก็แวะเวียนไปยังญี่ปุ่นเช่นกัน ในตอนนี้ญี่ปุ่นกำลังเผชิญหน้ากับการระบาดระลอกสองที่ยากจะควบคุม แม้ตอนแรกจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศจะยังไม่สูง ซ้ำผลสำรวจของสื่อแทบทุกสำนักยังระบุตรงกันว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในญี่ปุ่นช่วงแรกที่รัฐบาลต้องสั่งล็อกดาวน์ สามารถลดความเครียดของชาวญี่ปุ่นได้อย่างน่าตกใจ แต่ตอนนี้ความเครียดที่หายไปได้กลับมาอีกครั้ง พร้อมอัตราการฆ่าตัวตายที่สูงขึ้นจนน่าใจหาย ช่วงต้นปีที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการญี่ปุ่น เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการฆ่าตัวตายของชาวญี่ปุ่นช่วงเดือนเมษายนว่าลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ๆ ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ เมษายนคือช่วงเวลาเดียวกับที่โควิด-19 ระบาดหนัก รัฐบาลขอความร่วมมือประชาชนให้อยู่แต่ในบ้านและอย่าออกจากเคหสถานหากไม่มีความจำเป็นจริง ๆ รวมถึงการปิดเทอมของเหล่านักเรียน ส่งผลให้ทุกคนได้อยู่บ้าน และมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น ประชาชนญี่ปุ่นถูกสั่งให้อยู่แต่บ้าน เหล่ามนุษย์เงินเดือนที่เดิมทีต้องตื่นแต่เช้าแต่งตัวออกไปทำงาน ยืนเบียดเสียดบนรถไฟ แล้วค่อยเดินกลับบ้านแบบหมดเรี่ยวหมดแรง แปรเปลี่ยนเป็นนั่งทำงานอยู่ที่บ้าน หักเวลาเดินทางไป-กลับ มาเป็นเวลาที่จะได้นอนมากขึ้นกว่าเดิมสักนิดหน่อย บางคนมีครอบครัวได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา แม่บ้านได้นั่งคุยกับสามีและลูกที่อยู่ในช่วงปิดเทอม ส่วนเด็ก ๆ ก็ไม่ต้องออกไปเผชิญกับไวรัสที่กระจายอยู่ทั่ว สมาชิกในครอบครัวร่วมชายคาเดียวกันมีโอกาสพูดคุยมากขึ้น ทั้งหมดส่งผลให้มวลความเครียดของชาวญี่ปุ่นลดลง แต่ข่าวน่ายินดีนี้เป็นเพียงแค่ช่วงแรกของการระบาดเท่านั้น ภาพในระดับครอบครัวชนชั้นกลางจนถึงสูงทั้งในเมืองและต่างจังหวัดเป็นเพียงส่วนเล็กของสังคมใหญ่ ภาพรวมในระดับประเทศช่วงการระบาดของไวรัสไม่น่าดูเท่าไหร่นัก

  • World
    By: TOIISAN November 24, 2020
    NIHON STORIES: “HIKIKOMORI” เรื่องเศร้าของกลุ่มคนที่ตัดขาดตัวเองจากสังคม

    ‘แม้ยากูซ่าคือกลุ่มคนที่มีจำนวนไม่น้อยในสังคมญี่ปุ่น แต่คนญี่ปุ่นที่มีอาการฮิคิโคโมริ มีมากกว่ายากูซ่าถึง 10 เท่า’ ฮิคิโคโมริ ซินโดรม (Hikikomori Syndrome) หมายถึง ชื่อที่นิยามถึงบุคคลผู้ปฏิเสธการเข้าสังคม เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ไม่ออกไปใช้ชีวิต ไม่ไปโรงเรียน ไม่ไปทำงาน บางคนจะไม่สุงสิงกับคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัว บางคนหนักข้อถึงขั้นไม่คุยกับใครเลยแม้กระทั่งพ่อแม่พี่น้อง โดยระยะเวลาการตัดขาดที่จะทำให้ถูกนับว่าเป็นฮิคิโคโมริจะเริ่มต้นจาก 6 เดือน จนถึงตลอดชีวิต ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขคาดว่าทั่วประเทศญี่ปุ่น มีคนเป็นฮิริโคโมริมากถึง 1.15 ล้านคน ถือว่าเป็นจำนวนที่มากจนรัฐบาลต้องกลับมาถามตัวเองซ้ำ ๆ ว่า ความผิดพลาดอะไรที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นนับล้านเลือกปิดกั้นตัวเองออกจากผู้คน ตัวเลข 1.15 ล้านคน คือจำนวนคร่าว ๆ ที่ทางกระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์ ทว่า จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องคิโคโมริ ซินโดรม มองว่า ตัวเลขดังกล่าวคือเสี้ยวเดียวของชาวญี่ปุ่นที่กำลังเผชิญกับอาการนี้ โดยเขาคิดว่าน่าจะมีคนญี่ปุ่นกว่า 2 ล้านคนที่ประสบอาการดังกล่าว และตัวเลขนี้จะพุ่งขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี จนถึงหลักสิบล้านคน จุดเริ่มต้นของการเกิดอาการฮิคิโคโมริมีหลายสาเหตุด้วยกัน แต่ละคนก็มีเรื่องราวต่างกันออกไปโดยเฉพาะกับความผิดหวังขั้นรุนแรง เด็กบางคนตัดสินใจเลือกเก็บตัวอยู่แต่ในห้องเพราะผลคะแนนสอบไม่เป็นอย่างหวัง บางคนผิดหวังเรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัย หรือสะเทือนใจจากการถูกเพื่อนร่วมชั้นรังแก ผู้ใหญ่ที่ตกงานมาเป็นเวลานานบางคนอาจรู้สึกหมดกำลังใจจะใช้ชีวิตต่อ หมดกำลังใจ รู้สึกด้อยค่าในตัวเอง

  • World
    By: TOIISAN November 10, 2020
    NIHON STORIES: ‘โจรนิรนามในคราบตำรวจ’ การปลอมตัวสุดเนียนเพื่อปล้นเงิน 300 ล้านเยน

    การปล้นธนาคารหรือปล้นรถขนเงิน คือสิ่งที่เห็นบ่อยครั้งในการ์ตูน วรรณกรรม และภาพยนตร์สืบสวนสอบสวนญี่ปุ่น บ้างก็สามารถปล้นเงินจำนวนมหาศาลได้สำเร็จเพราะใช้ทีมงานจำนวนมากควบคู่กับการวางแผนรัดกุม แต่ส่วนใหญ่มักจะโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวได้คาที่หรือตามจับกันได้ภายหลัง ทว่าชายหนุ่มคนหนึ่งกลับสร้างวีรกรรมสุดยิ่งใหญ่ที่ตราตรึงชาวญี่ปุ่นยุค 60s ด้วยการปล้นเงินราว 300 ล้านเยน แล้วหนีไปอย่างชิล ๆ โดยไม่มีใครสามารถตามจับได้ เรื่องราวอื้อฉาวแห่งยุคเกิดขึ้นในวันที่ 10 ธันวาคม 1968 ณ มหานครโตเกียว ขณะที่รถขนเงินของธนาคารนิปปอนทรัสต์ (Nippon Trust Bank) สาขาโคกูบุนจิ พนักงานทั้งหมด 4 คน นำเงินสดเต็มคันรถออกจากธนาคาร ขณะที่รถกำลังแล่นอยู่กลางถนน บรรยากาศรอบตัวสงบนิ่งไม่ต่างจากวันอื่น ๆ แต่กลับมีชายคนหนึ่งแต่งตัวคล้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขี่รถจักรยานยนต์ที่ตำรวจใช้ในเวลาราชการตีขนาบพร้อมบอกให้คนขับรถขนเงินค่อย ๆ ชะลอความเร็ว และอย่าตื่นตระหนกหรือเบรกกะทันหัน สร้างความงุนงงให้กับเจ้าหน้าที่ธนาคารที่อยู่บนรถเป็นอย่างมาก หลังคนขับตบไฟเลี้ยวนำรถขนเงินจอดเข้าข้างทาง เขาลงมาคุยกับชายที่เขาคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อถามไถ่ว่าเกิดอะไรขึ้น ชายคล้ายตำรวจได้แจ้งกับพนักงานว่าตัวเองได้รับรายงานว่ารถขนเงินคันนี้ไม่ได้กำลังขนแค่เงินสด แต่ยังขนระเบิดเวลาติดมาด้วย หากเป็นแค่คำพูดลอย ๆ ของคนคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงคนเดียว อาจไม่ทำให้พนักงานทั้ง 4 คน ที่มากับรถขนเงินเชื่อสนิทใจ อย่างไรก็ตาม ชายคนดังกล่าวไม่รอช้าไซโคต่อว่าไม่รู้เหรอว่าก่อนหน้านี้ทางธนาคารนิปปอนทรัสต์ได้รับจดหมายข่มขู่หลายครั้ง ประกอบกับบ้านพักของผู้จัดการธนาคารสาขาที่ขนเงินออกมาก็เคยถูกวางระเบิด ยังไม่ทันได้ทีเวลาให้พินิจพิจารณา อยู่ ๆ

  • World
    By: TOIISAN October 30, 2020
    NIHON STORIES: “ITO JUNJI” เมื่อผู้ชายธรรมดากลายเป็นราชามังงะสยองขวัญ

    UNLOCKMEN เชื่อว่าหลายคนจะต้องรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อของ อิโตะ จุนจิ (Ito Junji) หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกว่า ‘อิโต้ จุนจิ’ กันสักครั้ง ในตอนนี้เขาได้กลายเป็นนักเขียนมังงะสยองขวัญที่ระดับปรมาจารย์ของญี่ปุ่นไปเสียแล้ว ด้วยลายเส้นละเส้นเรื่องที่อ่านแล้วชวนให้คลื่นเหียน บางครั้งอ่านแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจปนวิตกกังวล เมื่ออิโต้พาผู้อ่านทั้งหลายมาถึงจุดสิ้นสุดของเรื่อง ก็ยังทำให้เราตกตะกอนกับสิ่งที่อ่านได้อย่างไม่ยากเย็น จนพานให้ตั้งคำถามว่า ‘แล้วชายที่ขึ้นชื่อว่าเชี่ยวชาญเรื่องขนหัวลุกแบบนี้ จะมีชีวิตที่โลดโผนแตกต่างจากคนอื่นหรือไม่ ?’ ชีวิตก่อนจะกลายเป็นนักเขียนชื่อดัง เริ่มต้นจากเดินชายธรรมดาที่เกิดในวันที่ 31 กรกฎาคม 1963 ในจังหวัดกิฟุที่อยู่ระหว่างเมืองหลวงเก่ากับเมืองหลวงใหม่อย่างเกียวโตกับโตเกียว บ้านที่เขาโตมาในวัยเด็กเป็นบ้านขนาดเล็ก ไม่ได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศสวยงาม ไม่ได้อยู่ในตัวเมืองแต่อยู่ใกล้กับอุโมงค์ใต้ดินที่เต็มไปด้วยกลิ่นอับชื้น รวมถึงแขกเหรื่ออย่างสารพัดสัตว์ และแมลงไม่พึงประสงค์ หากทุกคนจะเข้าห้องน้ำต้องเดินออกมาจากตัวบ้าน การขับถ่ายในยามค่ำคืนคือสิ่งไม่พึงประสงค์ลำดับต้น ๆ ของเด็กชาย อิโต้ต้องทำธุระในห้องน้ำกับบรรยากาศชวนขนลุก พลางดูฝูงจิ้งหรีดจำนวนมากกระโดดไปมา สักพักก็ต้องใช้ตาคอยมองหาว่าจะมีจิ้งจกหรือสัตว์มีพิษชนิดอื่นที่ไม่ได้รับเชิญหรือไม่ เชื่อเลยว่าห้องน้ำกับบรรยากาศรอบบ้านเป็นอีกส่วนสำคัญที่ผลักดันศักยภาพเรื่องความสยองขวัญให้กับเขา อิโต้เริ่มสนใจงานเขียนและการ์ตูนสยองขวัญจากการที่ดูพวกพี่สาวอ่านผลงานของ คาซึโอะ อุเมะซึ (Kazuo Umezu) และชินอิจิ โคกะ (Shinichi Koga) ที่ในเวลานั้นพวกกลายเป็นนักวาดการ์ตูนสยองขวัญระดับแนวหน้า พอเห็นพวกพี่สาวพูดคุยถกเถียงกันบ่อยเข้า เขาก็เริ่มหยิบนิตยสารการ์ตูนมาอ่านบ้างเพื่อจะได้ตามบทสนทนาทัน พอเริ่มอ่านงานประเภทนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ อิโต้รู้สึกว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนรู้สึก ซ้ำยังสนุกสนาน มองเห็นมิติหลากหลายที่ซ่อนอยู่ในเนื้อเรื่อง

  • World
    By: TOIISAN October 27, 2020
    NIHON STORIES: ความเท่ทุกบทบาทกับการเติบโตในโลกภาพยนตร์ของ “OGURI SHUN”

    หากเอ่ยถึงนักแสดงชื่อว่า โอกุริ ชุน (Oguri Shun) หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักหรือนึกไม่ออกว่าชุนที่ว่าหน้าตาเป็นอย่าง แต่พอเอ่ยว่า “คนที่เล่นเป็น ทาคิยะ เก็นจิ” หนุ่ม ๆ สายลุยที่ชื่นชอบหนังชาวแยงกี้ญี่ปุ่นจะต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอน เพราะคุณจะต้องเคยเห็นเขาสักครั้งและนึกในใจว่า ‘ไอหมอนี่แม่งเท่ว่ะ’ เหมือนกับเราแน่นอน วันนี้ UNLOCKMEN จะเล่าเรื่องราวแต่ละก้าวกว่าโอกุริ ชุน จะกลายเป็นนักแสดงชายที่ได้รับบทเป็นตัวละครจากการ์ตูนบ่อยที่สุดคนหนึ่งในวงการภาพยนตร์ญี่ปุ่น เขาก็ต้องสั่งสมประสบการณ์ เล่นได้ทุกบทบาทตั้งแต่พระเอก ตัวร้าย แมลงสาบ ต้องรับฟังคำวิจารณ์ร้าย ๆ เก็บเกี่ยวบารมีเรื่อยมาไม่ต่างจากนักแสดงระดับตำนานคนอื่น ทีวีซีรีส์เรื่องแรกในชีวิตของชุนคือเรื่อง Hachidai Shogun Yoshimune (1995) แต่ฝีมือการแสดงของเขาฉายแววกับผลงานเรื่อง ‘GTO คุณครูพันธุ์หายาก’ (GTO: Great Teacher Onizuka ปี 1998) กับบทบาท โยชิกาวะ โบรุ เด็กชายที่ถูกรังแก สะท้อนถึงสังคมด้านมืดในโรงเรียนญี่ปุ่น จากนั้นในปี 2000 เล่นเป็นผู้มีความผิดปกติทางด้านการได้ยิน (หูหนวก) ในเรื่อง Summer Snow ความสามารถด้านการแสดงของเขายอดเยี่ยมไม่น้อยไปกว่าหน้าตาที่ถูกชมเชยอยู่เสมอ

  • Entertainment
    By: TOIISAN September 23, 2020
    NIHON STORIES: “GODZILLA” ประวัติศาสตร์อันยาวนานของราชันแห่งมอนสเตอร์ทั้งปวง

    เป็นเวลานานกว่า 60 ปี มาแล้วที่โลกได้รู้จักกับสัตว์ประหลาดดึกดำบรรพ์สุดยิ่งใหญ่อย่างก็อตซิลลา (Godzilla) ที่เกิดขึ้นจากความคิดสุดสร้างสรรค์ของ ทานากะ โทโมยูกิ (Tanaka Tomoyuki) ที่ได้ดูหนังจากฝั่งฮอลลีวูดเรื่อง The Beast from 20,000 Fathoms (1953) แล้วเกิดแรงบันดาลใจว่าในเมื่ออเมริกันทำหนังสัตว์ประหลาดได้ แล้วทำไมชาวญี่ปุ่นถึงจะมีสัตว์ประหลาดเป็นของตัวเองบ้างไม่ได้ นายทานากะได้พบกับผู้กำกับนามว่า ฮอนดะ อิจิโระ (Honda Ishiro) ภาพยนตร์สัตว์ประหลาดของพวกเขามีชื่อว่า ‘โกจิระ’ จากการทำคำว่า กอริลลา มารวมกับคำว่าคุจิระ ที่มีความหมายว่าปลาวาฬ เพราะเจ้าโกจิระตัวนี้ปรากฏตัวมาจากท้องทะเลอันกว้างใหญ่ที่ยังมีพื้นที่อีกมากมายที่มนุษย์ยังไม่สามารถย่างกรายไปถึง ทานากะ โทโมยูกิ ก็อดซิลลาเป็นสัตว์โบราณจากยุคที่โลกยังมีไดโนเสาร์ มันรอดตายอย่างปาฏิหาริย์ นอนหลับใหลอยู่ในถ้ำที่ลึกสุดของก้นมหาสมุทรมานานนับล้านปี ทว่าการจำศีลของมันต้องจบลงเมื่อมนุษย์ทดลองนิวเคลียร์จนเกิดแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ที่สะเทือนไปถึงถิ่นที่อยู่ของก็อดซิลลา ปีศาจร้ายที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในโลกได้ตื่นขึ้นแล้ว ก็อดซิลลาขึ้นสู่เหนือน้ำและพบกับเกาะญี่ปุ่น มันทำลายล้างเมืองจนย่อยยับ ทุกอย่างพังพินาศราบเป็นหน้ากลอง ซึ่งการทำลายล้างของก็อดซิลลาสร้างความรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาให้กับชาวญี่ปุ่นที่ได้รับชมเป็นอย่างมาก สัตว์ร้ายที่ทำลายเมืองตัวนี้ไม่ต่างอะไรกับลิตเติ้ลบอย (Little Boy) กับ แฟตแมน (Fat Man) ที่ถูกปล่อยลงสู่เมื่อฮิโรชิม่าและนางาซากิเลยสักนิด เพียงเปลี่ยนจากระเบิดนิวเคลียร์สองหัวมาเป็นสัตว์ประหลาดตัวใหญ่เท่านั้นเอง ฮอนดะ อิจิโระ หากคิดว่า UNLOCKMEN

  • Entertainment
    By: TOIISAN September 21, 2020
    NIHON STORIES: “ONE OK ROCK” หนึ่งในตำนานบทใหม่ของวงการ J-ROCK

    หลายครั้งหลายหนที่มักได้ยินวลีที่ว่า “ดนตรีคือภาษาสากล” ด้วยท่วงทำนอง จังหวะการเข้ากันของดนตรีหลากชนิด อารมณ์เพลง ทุก ๆ อย่างมักทำให้คนที่พูดต่างภาษาหรือต่างเชื้อชาติสามารถฟังแล้วรู้สึกมีความสุขหรือทุกข์ระทมได้ไม่ยาก แม้บางครั้งไม่รู้ความหมายของเพลงเหล่านั้นเลยก็ตาม วัฒนธรรม ‘เจร็อก’ หรือ Japanese Rock เป็นอีกหนึ่งแนวดนตรีจากญี่ปุ่นที่สามารถครองใจผู้ฟังได้ทั่วโลก แม้เจร็อกแรกเริ่มรับวัฒนธรรมดนตรีร็อกมาจากฝั่งอังกฤษและอเมริกา พวกเขาไม่ได้ลอกมาทั้งหมด แต่ปรับใช้ให้เข้ากับสไตล์ของตัวเอง ทุกอย่างที่สื่อออกมาผ่านเพลง แฟชั่นบนเวที การแสดงโชว์น่าประทับใจ ล้วนเป็นตัวของตัวเองจนทำให้เจป๊อปโด่งดังไปทั่วโลกได้ง่าย ๆ เพราะคนรุ่นก่อนยังไงก็ต้องเคยได้ยินชื่อของ L’arc en Ciel (ลาร์ค ออง เซียล) X-Japan (เอกซ์เจแปน) รวมถึงวงร็อกรุ่นใหม่อย่าง One Ok Rock (วัน โอเค ร็อก หรือ วันโอคุ ตามการเรียกของชาวญี่ปุ่น) ช่วงเวลาหนึ่งเจร็อกกลายเป็นวัฒนธรรมกระแสหลัก แต่เมื่อเวลาผ่านไปความสนใจในแนวเพลงของผู้คนก็เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา กระแสของเจร็อกเริ่มซา พร้อมกับถูกแทนที่ด้วยเจป๊อปที่ส่งให้วงไอดอลทั้งชายและหญิงเติบโตอย่างรวดเร็ว ในช่วงที่กระแสป๊อปกำลังเดินหน้าอย่างเต็มกำลังก็เกิดวงร็อก One Ok Rock ในปี 2005 ที่คงไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะสร้างปรากฏการณ์ทางดนตรีให้กับโลกได้ขนาดนี้ ก่อนมารวมตัวกันจริงจังพร้อมมีต้นสังกัดในปี 2007

  • World
    By: TOIISAN September 9, 2020
    NIHON STORIES: MIYAZAKI TSUTOMU นักฆ่าที่ชอบสะสมเหยื่อจนถูกเรียกว่า “ฆาตกรโอตาคุ”

    “ของสะสมที่ขึ้นหิ้งของพวกคุณคืออะไร ?” บางคนอาจเป็นฟิกเกอร์ราคา 7 หลัก บางคนเป็นอัลบั้มวงดนตรีที่ชื่นชอบ กีตาร์ตัวเก่ง รถคันโปรด แต่คงไม่มีใครคิดสะสมมือของเด็กสาวที่ถูกฆ่าแบบ มิยาซากิ ทสึโทมุ (Miyazaki Tsutomu) ซ้ำร้ายคนที่ปลิดชีพเด็กและตัดมือออกจากร่างไร้วิญญาณก็คือตัวของทสีโตมุเอง ‘เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2008 สำนักข่าว AFP รายงานว่านักโทษคดีอาชญากรรมร้ายแรง มิยาซากิ ทสึโทมุ ถูกตัดสินประหารชีวิต หลังจากคดีความที่ยืดเยื้ออยู่นาน ทางด้านนายกรัฐมนตรีฟุคุดะ ยาสึโอะ กล่าวกับสื่อว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะยังคงให้มีโทษประหารต่อไป’ ความตาย การประหารชีวิต และเสียงร้องไห้คร่ำครวญด้วยความเศร้าปนโกรธแค้นเริ่มต้นขึ้นจากคนคนเดียว เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะนายทสึโทมุ ชายที่เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 1962 ชีวิตวัยเด็กในโตเกียวของเขาไม่แตกต่างจากคนอื่นมากนัก ช่วงประถมกับมัธยมต้นเขาเป็นเด็กตั้งใจเรียน ได้คะแนนสอบเป็นที่น่าพอใจอยู่เสมอ แต่พอเข้าสู่ช่วงมัธยมปลายคะแนนของเขากลับตกลงเรื่อย ๆ โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นเพราะอะไร ด้วยการเรียนที่ตกลงทำให้เขาพลาดเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเมจิเพื่อเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ แถมยังโดนที่บ้านผลักไสไล่ส่งอีก ทสึโทมุที่รู้สึกหลงทางหันไปเรียนถ่ายภาพในวิทยาลัยใกล้บ้าน เลยไปขออาศัยอยู่กับพี่สาวที่ออกจากบ้านมาอยู่ด้วยตัวเอง เพราะเขาไม่อยากรับความกดดันจากพ่อแม่ที่ต่อว่าถึงความล้มเหลวด้านการเรียนของเขา ประกอบกับตัวเขาเองมีความผิดปกติทางด้านร่างกาย เป็นโรคข้อกระดูกพร่องที่เป็นปมชีวิต เพราะทสึโทมุเป็นเด็กที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์กับพี่น้องร่วมสายเลือด เด็กชายที่มีปมชีวิตหลายอย่างจึงสะสมความเครียดและความกดดันเอาไว้ในใจ แต่ในเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดเขาก็ยังมีคุณปู่ที่คอยอยู่ข้าง ๆ ปลอบใจเวลาเขาเศร้า อยู่เป็นเพื่อนเวลาร้องไห้

1 2 3 … 7 Next »

HOT THIS WEEK

#7daysinarow

  • 1
    Entertainment
    ฟังแต่เพลงเก่า ไม่ใช่ไม่ทันสมัย แต่ผลวิจัยบอกว่าคนเรามักหยุดฟังเพลงใหม่ในช่วงอายุ 30 ปีเป็นต้นไป
  • 2
    Girls
    The REAL : คุยกับ ‘พะแพง-พิมนันท์’ แชมป์ SURFSKATE หญิงคนแรกของไทย กับความหลงใหลในกีฬาชนิดนี้
  • 3
    Business
    NIHON STORIES: หนุ่มหัวใสเปิดบริการ ‘ปล่อยเช่าตัวเอง’ ที่มีงานหลักคือการไม่ทำอะไรเลย
  • 4
    CARS
    2021 BMW 3 SERIES GRAN SEDAN (G28) ขุมพลัง 258 แรงม้า กับพื้นที่ในห้องโดยสารที่กว้างขึ้น
  • 5
    Entertainment
    บันทึกส่งท้าย ‘Daft Punk’ กับ 28 เรื่องที่จะทำให้คุณรู้จักพวกเขาได้อย่างลึกซึ้ง!!
  • 6
    Life
    ”ยิ้มสุดใจแต่ภายในสุดพัง” รู้จัก smiling depression การเสแสร้งว่าตัวเองมีความสุขเพื่อปิดบังซึมเศร้า
  • 7
    GADGETs
    ชวนชม VAIO Z แล็ปท็อปดีไซน์เรียบเท่ที่มาพร้อมกับน้ำหนักเบาและแบตเตอรี่ที่ใช้งานยาวนาน
  • 8
    Entertainment
    รวมหนังที่เคยพังแต่กลับมาปังใน Director’s Cut ก่อนชม Zack Snyder’s Justice League ที่ดุเดือดกว่า
< Prev Next >

most popular video of the week

#7daysinarow

SURVIVAL: TABLE MANNERS
Unlockmen Channel
5,155

EVERYTHING GUYS NEED
TO UNLOCK YOUR TRUE
POTENTIAL EVERYDAY

Unlockmen

Subscribe now

Unlockmen
  • About Us
  • Our team
  • Jobs
  • Contact Us
  • Terms of Use
  • Privacy Policy
© 2016 whiteline thaithayan. All rights reserved.
Use of this site constitutes acceptance of our User Agreement (effective 1/4/2016) and Privacy Policy (effective 1/4/2016).The material on this site may not be reproduced,
distributed, transmitted, cached or otherwise used, except with prior written permission of thaitayan ltd.