World

NIHON STORIES: Watakano ‘เกาะแห่งการค้าประเวณี’ สรวงสวรรค์ขนาดย่อมที่ซ่อนตัวอยู่ในญี่ปุ่น

By: TOIISAN June 7, 2021

ถ้าหากว่าบางจังหวัดมีของขึ้นชื่อเรื่องอาหารท้องถิ่น บางที่โดดเด่นด้วยประวัติศาสตร์ วิวที่สวยกว่าใคร หรือ เกาะที่เต็มไปด้วยแมวและของฝากที่เป็นแมวขนาดจิ๋ว เกาะแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเคยมีของขึ้นชื่อที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งสิ่งนั้นคือ ‘สาวงาม’ ที่พร้อมมอบประสบการณ์ทางเพศที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้มาเยือน

วาตากาโนะ (Watakano) คือ ชื่อของเกาะในจังหวัดมิเอะ ที่เคยถูกเรียกว่า “เกาะแห่งการค้าประเวณี” สรวงสวรรค์ทางเพศขนาดย่อมที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดและอู้ฟู่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นในช่วงปลายยุค 70-80s ที่พร้อมเปิดเกาะต้อนรับผู้มาเยือนเพศชายทุกอาชีพ ตั้งแต่ข้าราชการ ตำรวจ ยันมนุษย์เงินเดือนทั่วไป ซ้ำยังเดินทางแสนสะดวกด้วยเรือเพียงแค่ 4 นาที

ประชากรราว 1 ใน 4 ของเกาะ หรือผู้คนประมาณ 270 คน ล้วนเป็นผู้ประกอบกิจการทางเพศ การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของเกาะขนาด 1.5 ตารางกิโลเมตร ล้วนเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี

แรกเริ่มเดิมที วาตากาโนะเป็นเกาะแวะพักสำหรับนักเดินทางช่วง ค.ศ. 1600-1800 เมื่อไหร่ที่ทะเลคลั่ง คลื่นลมแรง นักเดินเรือจากโอซาก้าที่ต้องการไปยังเอโดะ มักหยุดแวะพักที่เกาะแห่งนี้ รู้ตัวอีกทีเกาะที่ใช้แวะพักระหว่างการเดินทาง ก็กลายเป็นเกาะที่มีหญิงบริการเริ่มจับจองพื้นที่เพื่อรอเหล่านักเดินทางเสียแล้ว ซึ่งการค้าทางเพศแรกเริ่มบนเกาะแห่งนี้ ถือว่าผิดกฎหมายแบบเต็ม ๆ

วันเวลาผ่านไป รูปแบบการบริการยอดนิยมในช่วง 70-80s จะเน้นแบบ ‘สั้น’ และ ‘ยาว’ สั้นที่ว่าคือช่วงเวลาที่สั้นมากเพียงแค่ 60 นาที ทำอย่างไรก็ได้ให้ตัวเองเสร็จกิจ ก่อนจ่ายเงินให้หญิงค้าบริการ 20,000 เยน (ประมาณ 6,000 บาท) ส่วนแบบยาว คือการตกลงแบบค้างคืนที่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากแบบสั้นถึงสองเท่า แต่จะแลกมาด้วยการดื่มด้วยกันในร้านเหล้า และจบลงในห้องพักขนาดกำลังดี ซึ่งใครที่พอจะมีทุน ก็มักจะเลือกใช้บริการแบบยาวมากกว่าแบบสั้น เพราะได้สัมผัสสิ่งที่มากกว่าแค่การทำให้เสร็จ ๆ ไป

จุดเด่นของการเดินทางมายังวาตากาโนะ อาจเป็นเรื่องการซื้อ-ขาย บริการทางเพศ ทว่าธรรมชาติที่อยู่บนเกาะนับว่าเอื้อต่อการพักผ่อนเช่นกัน เมื่อเสร็จสมจากจุดประสงค์หลักของการเดินทาง ยังสามารถแวะไปแช่ออนเซ็นธรรมชาติ แวะชมศาลเจ้าโบราณ เดินเล่นชมบรรยากาศรอบเกาะได้อีกด้วย

การค้าบริการทางเพศของเกาะวาตากาโนะ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดมิเอะได้แบบไม่น่าเชื่อ ในช่วงยุค 80s มีการทำสถิติว่าผู้หญิงหนึ่งคนสามารถทำงานได้มากถึง 2 ล้านเยนต่อเดือน (19,000 ดอลลาร์สหรัฐในอดีต หรือประมาณ 580,000 บาท แต่ถ้าคิดด้วยค่าเงินในปัจจุบัน ตกเดือนละ 26,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 816,000 บาท) รายได้ของผู้หญิงหลายคนบนเกาะนับว่ามากกว่าเงินเดือนของลูกค้าหลายคนที่แวะเวียนมาใช้บริการเสียอีก

นอกจากเรื่องการค้ากาม ชาวบ้านที่อายุเยอะหน่อย มีฝีมือเรื่องการทำอาหาร มีที่ดินและมีเงินทุน พวกเขาใช้เงินและสิ่งที่มีปรับเปลี่ยนพื้นที่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชายจำนวนมาก บางคนเปิดร้านอาหาร หลายคนทำที่พักแบบรายชั่วโมงหรือรายวัน ร้านอิซากายะ ร้านคาราโอเกะผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ส่งผลให้บรรยากาศบนเกาะคึกคักมากขึ้นไปอีก

เกาะวาตากาโนะนับว่าเป็นเกาะที่รุ่งเรืองมายาวนานหลายทศวรรษ ธุรกิจทางเพศสร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำให้คนในชุมนุม ทว่าช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์กลับต้องเผชิญกับปัญหาครั้งใหญ่เมื่อประเทศญี่ปุ่นเผชิญกับภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจที่เรียกกันว่า “บาบารุ เคอิเค” หรือที่คนไทยคุ้นกับคำว่า “ฟองสบู่แตก” ตั้งแต่ช่วงปี 1992

บริษัทจำนวนมากในญี่ปุ่นไม่สามารถจ่ายเงินเดือนหรือค่าชดเชยให้กับพนักงานบริษัท ผู้คนต่างต้องรัดเข็มขัดทางการเงินให้แน่นที่สุด เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเจ็บหนักไปกว่านี้ ส่งผลให้ธุรกิจบนเกาะวาตากาโนะเริ่มซบเซา เพราะแม้เรื่องเพศจะเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ แต่ปากท้องและการป้องกันตัวเองไม่ให้ล้มละลายในช่วงเวลานี้ นับเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่าเรื่องการใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อบริการทางเพศ

ตั้งแต่ปี 1992 ธุรกิจบนเกาะเริ่มซบเซา แต่ก็ยังถือว่าพอไปต่อได้ ผู้ค้าบริการหลายคนคาดหวังว่าเมื่อไหร่ที่เศรษฐกิจดีขึ้น ลูกค้าหน้าเก่าและลูกค้าหน้าใหม่จะหวนกลับมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ความหวังดังกล่าวกลับต้องพังทลายลงอย่างเป็นทางการในปี 1998 เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นออกกฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับการค้าประเวณี “ผู้ชายหลายคนไม่จำเป็นต้องจ่ายเงิน 1 แสนเยน (29,000 บาท) ไปกับการเดินทาง ที่พัก และการมีเซ็กซ์อีกต่อไป”

ประโยคนี้คือหนึ่งในคำตอบที่เป็นรูปธรรมของการเสื่อมความนิยมของเกาะวาตากาโนะ แม้เกาะแห่งนี้จะมีผู้หญิงจำนวนมากให้เลือกได้ตามรสนิยม ทว่ากฎหมายที่เข้มงวดทำให้การค้าบริการที่เคยกระจุกตัวเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ ต้องแตกฉานซ่านเซ็นเป็นกลุ่มย่อยเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม

นอกจากนี้ เรื่องราวอื้อฉาวบนเกาะนับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้คนเลิกเดินทางมายังวาตากาโนะ เพราะมีการค้าบริการทางเพศที่ไม่ได้เป็นแบบการยินยอมพร้อมใจ ไหนจะข่าวจำนวนมากเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ถูกหลอกมาขายบนเกาะ เด็กสาวหลายคนโดนคนรักของตัวเองหลอก เริ่มด้วยการชวนมาเที่ยว จากนั้นทำทีเป็นขอแยกตัวไปเข้าห้องน้ำ ก่อนมาเฟียในสถานบริการที่ตกลงกันไว้ จะเดินมารวบตัวและบอกว่า “จ่ายค่าตัวเธอให้หนุ่มคนนั้นไปแล้ว 2 ล้านเยน”

เด็กสาวที่ถูกหลอกบางส่วนสามารถหลบหนีออกมาได้ด้วยการว่ายน้ำ ด้วยระยะทางจากเกาะกลับฝั่งประมาณ 500 เมตร แต่ก็ยังมีเด็กสาวจำนวนมากที่ถูกขังอยู่ในห้องแคบ ๆ นานหลายปี เพราะทางเข้าออกที่สะดวกที่สุดมีอยู่ทางเดียวคือการนั่งเรือ

ทาคากิ มิซูโฮะ (Takagi Mizuho) ผู้ประกอบอาชีพนักเขียนบทสารคดี บอกเล่าเรื่องราวที่รู้เกี่ยวกับเกาะแห่งนี้ว่า ในช่วงที่คึกครื้นที่สุด มีหญิงไทยจำนวนมากเดินทางมายังเกาะเพื่อหวังหารายได้ ทว่าพวกเธอกลับไม่สามารถปลดหนี้ได้เนื่องจากถูกหักค่าหัวจากผู้ดูแล อยู่ญี่ปุ่นยาวแบบไม่สามารถมีเงินเก็บได้มากพอตามคาดหวัง จนกระทั่งรัฐบาลญี่ปุ่นปราบปรามการค้าบริการทางเพศของชาวต่างชาติในประเทศช่วงปี 2015 ผู้หญิงจำนวนมากจึงถูกส่งกลับบ้านเกิด

ทาคากิยังเคยตั้งคำถามกับคนรุ่นใหม่ในญี่ปุ่นว่า “รู้จักเกาะเล็ก ๆ ที่ชื่อวาตากาโนะไหม” คำตอบส่วนใหญ่คือ “ไม่” ตามมาด้วยรู้จักแบบผิวเผิน และเคยได้ยินว่าเป็นเกาะที่มีโรงแรมเก่าเยอะมาก

ทาคากิจึงถามคำถามต่อไปว่า “แล้วเคยสงสัยไหมว่าทำไมเกาะในย่านชนบทถึงมีโรงแรมและร้านค้าขนาดใหญ่เต็มไปหมด ทั้งที่ไม่ได้มีแลนด์มาร์คโด่งดังดึงดูดนักท่องเที่ยวขนาดนั้น” ซึ่งคำตอบที่ได้ก็คือการถามกลับว่า แล้วเพราะอะไรล่ะ คลายกับให้เฉลยคำตอบของคำถามเสียเอง เพราะเด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยรู้จักความเป็นมาของเกาะวาตากาโนะแล้ว

เป็นเวลาเกือบ 3 ทศวรรษมาแล้วที่เกาะวาตากาโนะที่รุ่งโรจน์ แทบไม่มีหญิงค้าบริการรอต้อนรับลูกค้าอยู่บนเกาะอีกต่อไป เหลือเพียงแค่ซากแห่งอารยธรรมอย่างร้านคาราโอเกะร้าง เกสต์เฮ้าส์ที่ขาดการดูแล หลายบ้านเปลี่ยนไปทำธุรกิจอย่างอื่นเพื่อประทังชีพ สวรรค์ในวันเก่าต้องเงียบเหงาจนมาถึงปัจจุบัน

Source : 1

Source Photo : 1 2

 

 

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line