“ไม่ไหวแล้วโว้ย อยากลาออก” นี่คงเป็นวลียอดฮิตของมนุษย์เงินเดือนหลายคนที่สื่อถึงภาวะสุดจะทนของมนุษย์เงินเดือนอย่างเราได้เป็นอย่างดี เพราะชีวิตการทำงานนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป อีกทั้งไม่ใช่ทุกคนจะพอใจกับงานและเงินเดือนที่ตนมี ‘การลาออก’ จึงเป็นอีกทางเลือกที่ทำให้เราได้ไปเจอสิ่งใหม่ ๆ หนีจากปัญหาและความวุ่นวายที่ไม่ถูกจริต หรืออาจเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ใครหลายคนเติบโตในอาชีพการงานก็ว่าได้ มีเหตุผลมากมายที่ทำให้คนเราตัดสินใจลาออก หนุ่มบางคนลาออกเพราะเจอหัวหน้าห่วยแตก ลาออกเพราะตำแหน่งงานไม่ก้าวหน้า ลาออกเพราะงานที่ทำไม่สมดุลกับเงินที่ได้ ลาออกเพราะเบื่อวัฒนธรรมองค์กรยอดแย่ และคงมีอีกสารพัดเหตุผลที่ทำให้คนอยากออก แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้สาเหตุของการลาออก คืนคนที่มักบ่นว่า “อยากลาออก” แต่ยังทนทำงานหัวหมุนอยู่จนถึงปัจจุบัน แต่คนที่ไม่เคยปริปากบ่นสักคำกลับลาออกไปหน้าตาเฉย คุณว่ามันเพราะเป็นอะไร? คนบ่นไม่ออก เรามักจะเจอคนที่ชอบบ่นว่าอยากลาออก แต่ทุกวันนี้ก็ยังเห็นหน้าเพื่อนร่วมงานคนนั้นนั่งทำงานอยู่เหมือนเดิมและไม่มีทีท่าว่าจะย้ายไปไหนด้วย ไม่ใช่ว่าเราดูถูกเจตจำนงอันแรงกล้าที่อยากลาออกของพวกเขา แต่ถ้ามองตามหลักความจริงแล้ว จะมีเหตุผลสักกี่ข้อที่ทำให้คนบ่นอยากลาออกยังทนทำงานต่อ? บ่นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ – บางทีการบ่นอาจช่วยระบายความอึดอัดและความทุกข์ทรมานของการทำงานที่นี่ แต่ใช่ว่าพวกเขาจะทนไม่ได้เสียทีเดียว ถามว่าทนได้ไหม ทนได้ แต่ขอบ่นหน่อยสักหน่อยแล้วกัน อยากลาออกจริง ๆ แต่ยังไม่พร้อม – สาเหตุที่ทำให้คนบ่นยังไม่ลาออก คงเพราะพวกเขายังไม่มีงานใหม่รองรับ ยังหางานที่ถูกใจไม่ได้ หรือยังไม่มีความสามารถโดดเด่นมากพอจะไปทำงานในที่ที่ดีกว่า การลาออกโดยที่ยังไม่ได้งานใหม่และต้องรับผิดชอบภาระรายจ่ายแต่ละเดือนอาจเสี่ยงเกินไป ก็เลยขอบ่นสักหน่อยและรอจังหวะที่ใช่ค่อยลาออกอีกที ไม่ได้อยากลาออกจริง ๆ แต่อยากเสนอเงื่อนไขให้ต่อรอง – บางคนที่บ่นตั้งแต่เช้ายันเย็นว่าอยากลาออก อาจไม่ได้คิดจะลาออกจริง ๆ แต่อยากเรียกร้องเงื่อนไขบางอย่างให้ตัวเอง เช่น อยากเพิ่มเงินเดือน