ต้องบอกว่าการเล่นเซ็กซ์และรสนิยมทางเพศของคนในยุคนี้ ก้าวหน้าไม่แพ้เทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัย เมื่อโลกหมุน เปลี่ยนแปลง และเปิดกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ทำเอาพฤติกรรมของมนุษย์เปลี่ยนตามไปด้วย ผู้ชายบางคนชื่นชอบการมีเซ็กซ์แบบรุนแรง รู้สึกดีที่ได้ทรมานคนอื่นให้เจ็บปวด หลงรักห้วงเวลาที่สวมบทบาทเป็นเจ้านายกับทาสสาว แถมยังสะใจทุกครั้งหากได้สบถคำหยาบในระหว่างร่วมรัก โดยมีเชือก โซ่ แส้ กุญแจมือ และความร้อนวาบของน้ำตาเทียนช่วยให้เซ็กซ์ของพวกเขาสมบูรณ์ขึ้น UNLOCKMEN เลยอยากพาหนุ่ม ๆ ไปขุดคุ้ยต้นตอของเซ็กซ์ซาดิสม์ที่มีมาตั้งแต่อดีตและคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน เตรียมลิ้มรสความทรมานและซึบซาบความเจ็บปวดไปพร้อม ๆ กัน! ความซาดิสม์แห่งอดีตกาล เราเชื่อว่าทุกคนล้วนมีด้านมืดซ่อนอยู่ในตัวทั้งนั้น แต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่จะปลดปล่อยมันออกมาอย่างโจ่งแจ้ง ใต้มวลความมืดที่ซ่อนอยู่ในจิตใจใครหลายคน คงไม่มีอะไรมืดมิดดำสนิทและขมุกขมัวได้เท่ากับด้านมืดของมาร์กีส์ เดอ ซาด (Marquis de Sade) ชายชาวฝรั่งเศสผู้เป็นต้นกำเนิดของคำว่า ‘ซาดิสม์’ เขาเสพติดความรุนแรงและสุขใจที่ได้มีเซ็กซ์สัมพันธ์บนความเจ็บปวดของหญิงสาว ซาดว่าจ้างโสเภณียกซ่องมามั่วเซ็กซ์ที่ปราสาทหลังแต่งงานได้ 7 วัน เขาพันธนาการและทารุณพวกเธออย่างโหดเหี้ยมเกินมนุษย์ จับมัดมือมัดเท้า เฆี่ยนตีจนบอบซ้ำ ก่อนจะเสพสมทางเพศอย่างสบายใจ แถมไอ้ตานี่ยังปลุกปล้ำนิยายลามกจกเปรตจนโด่งดังกระฉ่อนโลก พรรณนาความซาดิสม์และรสนิยมวิปริตของเขาผ่านตัวหนังสือที่ไม่อาจบรรยายเป็นภาษาได้ จากผลงานอื้อฉาวแห่งยุคทำให้เหล่านักวิชาการนำชื่อของเขามาดัดแปลงเป็นคำศัพท์ ‘SADISM’ นิยามถึงอาการทางจิตชนิดหนึ่งที่ชอบเสพเซ็กซ์และระบายความใคร่อยากด้วยการทารุณ ความซาดิสม์ในปัจจุบัน คนซาดิสม์คือผู้ที่มีความสุขจากการทรมานคนอื่น ไม่ว่าจะก่อนมีเซ็กซ์หรือระหว่างมีเซ็กซ์ก็ตาม พวกเขามักเพลิดเพลินเมื่อได้สร้างความเจ็บปวดทั้งทางกายและทางใจแก่ผู้ร่วมรัก ซึ่งทางการแพทย์มองว่านี่เป็นการปลดปล่อยจินตนาการทางเพศที่ถูกระงับไว้ เป็นเหมือนสิ่งที่ช่วยชดเชยบางอย่างในชีวิตพวกเขา และนับเป็นความผิดปกติทางจิตเวชชนิดหนึ่ง
ผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่ ขาเตียงสั่นคลอนตามจังหวะการกระแทก และเสียงเพลงดังลั่นที่กลบเสียงครวญครางจากความเสียวซ่าน ทั้งหมดล้วนเป็นส่วนประกอบของ ‘เซ็กซ์’ กิจกรรมเรียกเหงื่อยอดนิยมบนเตียงที่ช่วยขับเคลื่อนความสัมพันธ์ หรือแม้ขับเน้นมวลความสุขในมุมมองของคนที่ปราศจากพันธะ แล้วคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องเซ็กซ์ยังเดินจงกรมและเวียนวนอยู่ในหัวผู้ชายเราเสมอ ตราบเท่าที่มนุษย์ยังต้องการสร้างเผ่าพันธุ์หรือปรารถนาความสุขทางเพศ แต่หากจะจำแนกให้ลึกลงกว่านั้น ก็อาจแบ่งเซ็กซ์ได้ด้วยความเรียบง่ายและความรุนแรง คงมีผู้ชายที่ชอบมีเซ็กซ์แบบดั้งเดิม เริ่มจากลูบไล้ เล้าโลม ก่อนจะดื่มด่ำกลืนกินร่างกายกันตามสูตรสำเร็จของหนังโป๊ที่เป็นแรงบันดาลใจ แต่เราก็เชื่อว่ายังมีผู้ชายประเภทที่หลงใหลในความรุนแรง ความตื่นเต้นเร้าใจ ความเสียวที่ทำให้พูดไม่เป็นภาษา หรือแม้แต่ความเจ็บปวดในระหว่างการร่วมเพศอยู่เหมือนกัน KINK COMMUNITY กลุ่มคนที่ชอบเสพสมด้วยความรุนแรง ท่ามกลางความหลากหลายของชาติพันธุ์ สีผิว และความเชื่อทางศาสนา บนโลกนี้ยังซ่อนความหลากหลายทางเพศเอาไว้อีกด้วย ซึ่งความหลากหลายที่ว่าถือเป็นจุดเริ่มต้นของ Kink Community กลุ่มคนที่ไม่ได้ใช้ชีวิตในดาวเคราะห์สีน้ำเงินด้วยความเรียบง่าย หากเติมรสชาติให้ชีวิตด้วยเซ็กซ์รุนแรงและความเจ็บปวด เพราะพวกเขาเชื่อว่ามันจะช่วยบำบัดและเยียวยาความเจ็บปวดภายในได้ เพราะเอาความรู้สึกมาโฟกัสที่ความเจ็บปวดที่ร่างกายแทนที่ความเจ็บปวดในใจ Kink Community เป็นศัพท์สแลงที่นิยามถึงกลุ่มคนที่แสดงออกทางอารมณ์ผ่าน BDSM อาจมีการใช้เครื่องหนัง การจองจำ หรือทักษะพื้นฐานอย่าง ‘การตบก้น’ เป็นจุดเริ่มต้นของความสุขทางกามารมณ์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดแผกอะไร ทั้งความเจ็บปวดและรุนแรงยังถูกบรรจุอยู่ในรสนิยมทางเพศของคนในยุคนี้อีกด้วย เรื่องราวของเซ็กซ์เจ็บแสบในอดีต แม้ในอดีตสมาคมจิตแพทย์อเมริกันจะจัดว่าการทำร้ายร่างกายระหว่างร่วมเพศถือเป็นอาการป่วยทางจิต แต่ปัจจุบันรสนิยมที่เปิดกว้างก็ทลายกรอบความคิดเดิม ๆ ทิ้งไป แถม 36% ของชาวอเมริกันยังยอมรับว่าพวกเขาใช้เครื่องมือทาสในระหว่างมีเซ็กซ์จริง แล้วการกระทำพื้นฐานที่สุดที่ผู้ชายหลายคนต้องเคยเจอกันมาบ้าง คือความคึกคะนองกับการมีเซ็กซ์ที่มากจนพลั้งฟาดฝ่ามือหยาบกระด้างลงไปบนบั้นท้ายเนียนนุ่มของหญิงสาว