ผู้ชายส่วนใหญ่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีระนาบจิตใจและสมองแบบเถรตรง โดยเฉพาะกับเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว เมื่อสาวคนรู้ใจพูดว่า “ไม่” “เปล่า” “ไม่รู้สิ” สมองของเราประมวลผลไปตรง ๆ เช่นเดียวกับคำที่เธอพูด เราไม่ได้คิดอะไรมากกว่านั้นและปล่อยผ่านไป แต่สิ่งที่เราไม่เคยรู้คือ สาว ๆ มักเก็บดีเทลเรื่องเล็กน้อยได้ดีกว่าที่เราคิด คำพูดตรง ๆ ของเราที่สร้างความน้อยใจกองโตและบาดแผลให้ เธอจะซุกพรมทำเหมือนไม่คิดอะไรและเข้าใจดี จนกระทั่งมันสุมทับท่วมรับไม่ไหว สุดท้ายก็บานปลายเป็นบรรยากาศมาคุและการทะเลาะชุดใหญ่ แถมถ้าโชคร้ายเราอาจลงเอยด้วยการเลิกกัน ทั้งที่ปัญหาเริ่มต้นจากเรื่องขี้ปะติ๋วเท่านั้น เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระยะยาว UNLOCKMEN ขอแนะนำ 4 วิธีการขอโทษแบบไม่รู้สึกเสียเกียรติ ในวันที่ใจของเราพูดว่า “กูไม่ผิด” ขอให้จำไว้ว่า “จะมีประโยชน์อะไรที่จะทะนงตัวว่าชนะ เวลาอยู่บนกองซากปรักหักพัง” 1. ปิดโหมดกลไกป้องกันตัวเองลง แม้จะรู้ตัวดีว่าเราไม่ผิดและไม่อยากจะทะเลาะแค่ไหน แต่จะให้บอกว่าตัวเองผิด เราเชื่อว่าคุณก็คงรู้สึกฝืนใจ ความหนักใจนั้นถือเป็นเรื่องปกติเพราะมนุษย์มีกระบวนการป้องกันทางจิตที่เรียกว่ากลไกในการป้องกันตัวเองจากสัญชาตญาณ เพื่อหลีกจากความเครียด เพราะคงไม่มีใครอยากโดนชี้หน้าว่าเป็นคนผิดแม้จะผิดจริงก็ตามที แต่ลองคิดให้ดีถึงผลลัพธ์ที่ได้มันก็คุ้มที่จะดับอีโก้หรือทิฐิในตัวลง 2. ให้อภัยด้วยคำว่าขอโทษ ขั้นต่อมาคือการปรับ Mind Set เมื่อจะกล่าวคำว่าขอโทษ ถ้าอีกฝ่ายกำลังหัวร้อนหรือน้อยใจอย่างหนัก การชิงพูดคำว่า “ขอโทษ” ด้วยความคิดที่อยาก “ให้อภัยเธอ” เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยได้ เหตุผลที่เราใช้คำว่าอภัยเพราะเราอยากคุณได้กลับไปค้นถึงต้นตอของการวีน เหวี่ยงของเธอ เป็นไปได้ไหมว่ามันจะมาจากความเป็นห่วงยามเธอโทรมาแล้วคุณไม่ได้รับ
ทุกการปะทะอารมณ์กัน ไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายพ่ายแพ้หรอก แต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ที่ไม่อาจให้เราเป็นผู้ชนะได้เสมอไป ไม่ว่าจะเป็น ความสัมพันธ์ ความเกรงใจ สถานการณ์ที่พลิกไปพลิกมา หรือแม้แต่เราที่เป็นต้นเหตุและเป็นฝ่ายทำผิดซะเอง ไม่ว่าใครจะผิด ใครจะเป็นใคร แต่บางครั้งการชนะคงไม่ใช่คำตอบเสมอไป ถ้าหากสถานการณ์บังคับให้เราต้องเป็นฝ่ายแพ้ การเอ่ยปากขอโทษคงเป็นทางลงอันดับแรกที่เราต้องทำ ไม่ว่าจะเต็มใจมั้ยก็ตาม UNLOCKMEN เลยขอเสนอทางลงเจ๋ง ๆ ให้กับฝ่ายที่จำเป็นต้องขอโทษ ให้ดูโปรและจริงใจ แม้จะไม่อยากทำก็เถอะ ขอโทษก่อนได้เปรียบ ไม่ต้องคิดแล้วว่าใครถูกใครผิด จังหวะดี ๆ ชิงขอโทษก่อนไปเลย มันทำให้รู้สึกว่าเรากล้าเป็นฝ่ายผิด แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าการขอโทษก่อน ก็ไม่ได้ทำให้เราเป็นฝ่ายถูกเหมือนกัน แต่มันทำให้เห็นว่าเรากล้าลดอีโก้ตัวเองลง เพราะเราไม่ได้ต้องการจะต่อล้อต่อเถียง ไม่ได้อยากทะเลาะกับอีกฝ่าย สิ่งที่ต้องการคือการทำความเข้าใจ การหันหน้าเข้าหากันและปรับความเข้าใจกันอย่างมีเหตุผล ถ้าอีกฝ่ายคือคนใกล้ตัวอย่าง เพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก เราจะไม่ได้อะไรเลยจากการถืออีโก้ของเรา นอกจากความสะใจที่ตัวเองไม่ต้องเป็นฝ่ายผิด และอีกฝ่ายต้องยอมเราในที่สุด ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเราจะต้องการแบบนั้นไปทำไม หากมันทำให้คนที่เรารักต้องเสียความรู้สึก หรือถ้าอีกฝ่ายคือคนที่ไม่สนิท หรือแม้แต่คนที่เราเกลียดขี้หน้า เราอาจจะพอใจกับความสะใจของเราเพียงชั่วครู่เท่านั้น แต่ Feedback เรื่องความไม่ยอมก้มหัวของเราหลังจากนั้น มันอาจจะเลยไปไกลเป็นไฟลามทุ่ง ซึ่งมันไม่ได้เป็นการพูดต่อในแง่ดีแน่นอน กล้าพูดว่าทำอะไรผิดไป ข้อนี้นี่แหละ