Life

SORRY, I’M NOT SORRY : 5 วิธีขอโทษให้ดูจริงใจ แม้จะไม่เต็มใจก็ตาม

By: unlockmen June 4, 2018

ทุกการปะทะอารมณ์กัน ไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายพ่ายแพ้หรอก แต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ที่ไม่อาจให้เราเป็นผู้ชนะได้เสมอไป ไม่ว่าจะเป็น ความสัมพันธ์ ความเกรงใจ สถานการณ์ที่พลิกไปพลิกมา หรือแม้แต่เราที่เป็นต้นเหตุและเป็นฝ่ายทำผิดซะเอง ไม่ว่าใครจะผิด ใครจะเป็นใคร แต่บางครั้งการชนะคงไม่ใช่คำตอบเสมอไป ถ้าหากสถานการณ์บังคับให้เราต้องเป็นฝ่ายแพ้ การเอ่ยปากขอโทษคงเป็นทางลงอันดับแรกที่เราต้องทำ ไม่ว่าจะเต็มใจมั้ยก็ตาม  UNLOCKMEN เลยขอเสนอทางลงเจ๋ง ๆ ให้กับฝ่ายที่จำเป็นต้องขอโทษ ให้ดูโปรและจริงใจ แม้จะไม่อยากทำก็เถอะ

ขอโทษก่อนได้เปรียบ

ไม่ต้องคิดแล้วว่าใครถูกใครผิด จังหวะดี ๆ ชิงขอโทษก่อนไปเลย มันทำให้รู้สึกว่าเรากล้าเป็นฝ่ายผิด แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าการขอโทษก่อน ก็ไม่ได้ทำให้เราเป็นฝ่ายถูกเหมือนกัน แต่มันทำให้เห็นว่าเรากล้าลดอีโก้ตัวเองลง เพราะเราไม่ได้ต้องการจะต่อล้อต่อเถียง ไม่ได้อยากทะเลาะกับอีกฝ่าย สิ่งที่ต้องการคือการทำความเข้าใจ การหันหน้าเข้าหากันและปรับความเข้าใจกันอย่างมีเหตุผล

ถ้าอีกฝ่ายคือคนใกล้ตัวอย่าง เพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก เราจะไม่ได้อะไรเลยจากการถืออีโก้ของเรา นอกจากความสะใจที่ตัวเองไม่ต้องเป็นฝ่ายผิด และอีกฝ่ายต้องยอมเราในที่สุด ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเราจะต้องการแบบนั้นไปทำไม หากมันทำให้คนที่เรารักต้องเสียความรู้สึก หรือถ้าอีกฝ่ายคือคนที่ไม่สนิท หรือแม้แต่คนที่เราเกลียดขี้หน้า เราอาจจะพอใจกับความสะใจของเราเพียงชั่วครู่เท่านั้น แต่ Feedback เรื่องความไม่ยอมก้มหัวของเราหลังจากนั้น มันอาจจะเลยไปไกลเป็นไฟลามทุ่ง ซึ่งมันไม่ได้เป็นการพูดต่อในแง่ดีแน่นอน

กล้าพูดว่าทำอะไรผิดไป

ข้อนี้นี่แหละ ทำให้เราได้โชว์แมนที่สุดแล้วกับการที่เรากล้าพูดว่า เราทำอะไรผิดไปบ้าง แล้วมันผิดยังไง เพราะปกติแล้วคนเราที่ไม่อยากขอโทษกันก็เพราะไม่อยากยอมรับว่าตัวเองผิดนี่แหละ ยิ่งพูดว่าผิดยังไง ใครมันจะอยากพูดกัน แต่หากสถานการณ์มันบีบบังคับให้เราต้องเป็นฝ่ายขอโทษ การพูดถึงความผิดตัวเองทำให้รู้ว่าเราไม่ได้พูดขอโทษแบบส่ง ๆ  หรือขอโทษเพื่อให้หายโกรธ แต่ทำให้เห็นได้ชัดว่าเรารู้สึกผิดจริง ๆ  และที่สำคัญคือแสดงให้เห็นว่าเรารู้ถึงข้อบกพร่องของตัวเองด้วย

หากยอมสารภาพความผิดตั้งแต่ตอนถกกัน อาจจะทำให้อีกฝ่ายยอมเอ่ยถึงความผิดพลาดของตัวเองด้วยเช่นกัน แปลว่ามันช่วยลดความโกรธของอีกฝ่ายลงได้ด้วย เมื่ออารมณ์ไม่ได้เดือดเป็นภูเขาไฟปะทุกันทั้งคู่แล้ว อาจจะหาทางลงให้เรื่องนี้ได้ง่ายและอยู่ในสันติวิธีมากขึ้น

ไม่โทษอีกฝ่าย

“ผมขอโทษครับ แต่ ..” ถ้าจะเริ่มพูดแบบนี้ ขอให้เก็บเอาไว้ก่อน ไม่ใช่ว่ากล้าพูดขอโทษแล้ว แต่ดันลากให้อีกฝ่ายมาผิดด้วย ไม่ใช่ความคิดที่ดีเอาซะเลย เพราะสุดท้ายแล้วเหมือนคุณเองก็ยังไม่ทิ้งอีโก้ไป หากเป็นฝ่ายผิดคนเดียว และที่สำคัญคือ มันดูเหมือนคุณไม่ได้รู้สึกผิดจริง ๆ และดูท่าจะมีแต่ทำให้เรื่องมันปะทุเข้าไปใหญ่ จากที่ทะเลาะเรื่องเก่ากันยังไม่ทันจบ ก็ต้องมาถกกันเรื่องใหม่ที่ไปหาว่าเขาทำผิดเหมือนกันอีก ยุ่งเหมือนยุงตีกันขนาดนี้ ข้อนี้จึงเป็นข้อที่ขอร้องให้หลีกเลี่ยงให้มาก ๆ เลย

พร้อมที่จะขอโทษครั้งแล้วครั้งเล่า

เชื่อเถอะว่าการเอ่ยปากขอโทษแค่ครั้งเดียว มันไม่พอ จะบอกว่าขอโทษไปแล้วไง จะเอาอะไรอีก มันยิ่งดูไม่แมนเอาซะเลย พูดไปเถอะคำว่าขอโทษน่ะ เราพูดมันได้แบบฟรี ๆ ไม่ได้เสียอะไรเลย โดยเฉพาะกับคนรัก การเอ่ยปากขอโทษเธอหลาย ๆ ครั้ง เพื่อให้เธอมั่นใจว่าเรารู้สึกผิดและไม่อยากจะทำเธอเสียใจ และเราเองก็ไม่ได้เห็นแก่ความรู้สึกตัวเองมากกว่าเธอ จึงพร้อมที่จะขอโทษเธอเสมอ ไม่ว่าจะอีกกี่ครั้งก็ตาม

สัญญาว่าจะไม่ทำอีก

การขอโทษที่ดีที่สุดคือการไม่ทำผิดซ้ำสอง ลองบอกกับอีกฝ่ายว่า ความผิดครั้งนี้ เราพลาดไปแล้วจริง ๆ และจะไม่ทำผิดแบบนี้อีกต่อไป เพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าความรู้สึกของเขาจะได้รับการปกป้อง เขาจะไม่ต้องเสียใจอีกเป็นครั้งที่สองในเรื่องเดิมอีก เพราะความผิดพลาดจากเรื่องเดิม ๆ นอกจากจะทำให้อีกฝ่ายต้องผิดหวังซ้ำซ้อนแล้ว ยังหมายความว่าเราไม่ได้พัฒนาตัวเองขึ้นเลยจากบทเรียนครั้งก่อน มันช่างเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย หากอยากจะเป็น Gentleman ที่เพียบพร้อมทั้งภายนอกและภายใน

อ่านมาจนถึงตรงนี้แล้ว ชาวหัวร้อนลองเอาไปปรับใช้กับตัวเอง อย่าเพิ่งไประเบิดลงใส่ใคร เพราะมันทำให้เราดูเป็นคนสติแตก ไม่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์เอาซะเลย ที่สำคัญคือดูเป็นคนไม่มีกึ๋น มันคงเป็นคุณสมบัติที่หนุ่ม ๆ อย่างเราไม่อยากมีกันสักเท่าไหร่

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line