การพูดคุยด้วยตัวหนังสืออย่างการ Chat มักจะเกิดปัญหาความเข้าใจกันคลาดเคลื่อนเนื่องจากในตัวหนังสือไม่มีน้ำเสียง เชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนต้องเคยเจอกับเรื่องชวนหัวร้อนอย่างนี้กันมาบ้าง แต่น้ำเสียงเจ้ากรรมนั้น ใช่ว่าพอมีแล้วมันจะช่วยให้ทุกอย่างไหลลื่นไปได้ง่าย ๆ เพราะการพูดคุยกันต่อหน้าก็เกิดปัญหาชวนหัวร้อนได้ไม่แพ้กัน พอบทสนทนาคุกรุ่นทีไรเป็นต้องเหงื่อแตกกันทุกที หัวร้อนบ้าง ลนบ้าง อย่าเพิ่งสติแตก ควรหาแผนสำรองทางหนีทีไล่เตรียมไว้เสมอ เจอเรื่องให้ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดก็ไม่ต้องกังวลไป งัดไม้เด็ดออกมาสู้แบบเซียน ๆ UNLOCKMEN แนะนำเทคนิคดี ๆ เอาไว้ใช้เวลาบทสนทนามันเริ่มไปทาง Negative คุมสถานการณ์ให้ได้ ก่อนจะมีฝ่ายไหนสติแตกขึ้นมาก่อน เพราะนั่นจะทำให้เรื่องยุ่งเหมือนหูฟังพันกันในกระเป๋า จนเลยเถิดไปมากกว่าการทะเลาะกันในบทสนทนา ร้อนนักพักเสียหน่อย หัวร้อน ควันออกหูเมื่อไหร่ รีบหยุดบทสนทนาไว้เดี๋ยวนั้น บอกไปแบบแมน ๆ เลยว่าตอนนี้กำลังเดือดปุด ๆ กันทั้งคู่ ไม่ควรจะต่อล้อต่อเถียงกันตอนนี้ พักยกกันสักหน่อย อัดบุหรี่กันสักตัวสองตัวแล้วค่อยกลับมาคุยก็ยังไม่สาย ไม่ใช่แค่ตอนที่สัญญาณของความเกรี้ยวกราดมาถึงเท่านั้น ตอนที่เริ่มหลงประเด็นกันแล้ว ก็เป็นอีกสถานการณ์ที่ควรพักครึ่งกันก่อน ห้านาที สิบนาที หรือเป็นชั่วโมงแล้วแต่จะตกลงกัน อย่ายั่วโมโห เห็นอยู่ว่าไฟลุกก็อย่าไปเติมเชื้อไฟให้มันโหมแรงขึ้น ยิ่งความสัมพันธ์มันพังจากการทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระมากเท่าไหร่ ตอนกลับไปญาติดีกันมันยิ่งกระอักกระอ่วน อย่าลืมว่าก่อนหน้าที่จะเถียงกันด้วยเรื่องชวนเสียสติเหล่านี้ คนนี้คือเพื่อน พ่อแม่ พี่น้อง คนรัก
ทุกการปะทะอารมณ์กัน ไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายพ่ายแพ้หรอก แต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ที่ไม่อาจให้เราเป็นผู้ชนะได้เสมอไป ไม่ว่าจะเป็น ความสัมพันธ์ ความเกรงใจ สถานการณ์ที่พลิกไปพลิกมา หรือแม้แต่เราที่เป็นต้นเหตุและเป็นฝ่ายทำผิดซะเอง ไม่ว่าใครจะผิด ใครจะเป็นใคร แต่บางครั้งการชนะคงไม่ใช่คำตอบเสมอไป ถ้าหากสถานการณ์บังคับให้เราต้องเป็นฝ่ายแพ้ การเอ่ยปากขอโทษคงเป็นทางลงอันดับแรกที่เราต้องทำ ไม่ว่าจะเต็มใจมั้ยก็ตาม UNLOCKMEN เลยขอเสนอทางลงเจ๋ง ๆ ให้กับฝ่ายที่จำเป็นต้องขอโทษ ให้ดูโปรและจริงใจ แม้จะไม่อยากทำก็เถอะ ขอโทษก่อนได้เปรียบ ไม่ต้องคิดแล้วว่าใครถูกใครผิด จังหวะดี ๆ ชิงขอโทษก่อนไปเลย มันทำให้รู้สึกว่าเรากล้าเป็นฝ่ายผิด แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าการขอโทษก่อน ก็ไม่ได้ทำให้เราเป็นฝ่ายถูกเหมือนกัน แต่มันทำให้เห็นว่าเรากล้าลดอีโก้ตัวเองลง เพราะเราไม่ได้ต้องการจะต่อล้อต่อเถียง ไม่ได้อยากทะเลาะกับอีกฝ่าย สิ่งที่ต้องการคือการทำความเข้าใจ การหันหน้าเข้าหากันและปรับความเข้าใจกันอย่างมีเหตุผล ถ้าอีกฝ่ายคือคนใกล้ตัวอย่าง เพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก เราจะไม่ได้อะไรเลยจากการถืออีโก้ของเรา นอกจากความสะใจที่ตัวเองไม่ต้องเป็นฝ่ายผิด และอีกฝ่ายต้องยอมเราในที่สุด ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเราจะต้องการแบบนั้นไปทำไม หากมันทำให้คนที่เรารักต้องเสียความรู้สึก หรือถ้าอีกฝ่ายคือคนที่ไม่สนิท หรือแม้แต่คนที่เราเกลียดขี้หน้า เราอาจจะพอใจกับความสะใจของเราเพียงชั่วครู่เท่านั้น แต่ Feedback เรื่องความไม่ยอมก้มหัวของเราหลังจากนั้น มันอาจจะเลยไปไกลเป็นไฟลามทุ่ง ซึ่งมันไม่ได้เป็นการพูดต่อในแง่ดีแน่นอน กล้าพูดว่าทำอะไรผิดไป ข้อนี้นี่แหละ
เป็นภาพชินตามาก ๆ ที่ชาวหัวร้อนมักจะแสดงออกด้วยท่าทีก้าวร้าวอย่างการตะโกน ตะคอก ทำลายข้าวของ แม้อยากจะเข้าใจพวกเขาแค่ไหน แต่เหตุผลหลัก ๆ ของพฤติกรรมก้าวร้าวพวกนี้ก็ไม่ได้เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นนักหรอก นั่นเพราะเมื่อเผชิญกับปัญหาพวกเขาไม่ได้มีทางออกอื่นให้ทำนอกจากความก้าวร้าว ซึ่งมันไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นเลย UNLOCKMEN จะพาไปทำความเข้าใจกับการรับมือคนพวกนี้แบบมือโปรดีกว่าไปขุดคุ้ยหาเหตุผล ซึ่งน่าจะไม่เป็นประโยชน์มากนัก 1. รุ่นใหญ่ใจนิ่งและไม่หัวร้อนไปกับเขาด้วย จำไว้ว่าเมื่อต้องเผชิญกับพฤติกรรมก้าวร้าว นั่นไม่ใช่ปัญหาของคุณเลย ความเดือดแม่งเป็นปัญหาของเขาเองที่จัดการอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ไม่รู้จะแสดงออกยังไงจนต้องออกมาเป็นพฤติกรรมชวนยี้แบบนี้แหละ ถ้าเราไม่นิ่งพอหัวร้อนไปตามเขา เหมือนสาดน้ำมันลงกองไฟ ดีไม่ดีไม่ทันจะโดนไฟจากอีกคนหรอก เราเนี่ยจะโดนไฟบนหัวตัวเองคลอกเอาได้ ปล่อยให้เขาแหกปากไป เชื่อเหอะว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างแรกต้องมีสติก่อน หากใจนิ่งมากพอลองคุยกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ ไม่แซะกระแนะกระแหน ให้ใจเย็นทั้งคู่ก่อนแล้วค่อยเคลียร์ก็ยังทัน 2. อ่านสถานการณ์ให้ขาด ก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป ลองพิจารณาถึงปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น สถานที่ บุคคลที่เราทะเลาะด้วย ถ้าเราโดนตะคอกจากคนแปลกหน้าที่เรา Don’t Give A F*ck เราก็แค่เดินหนีไม่ต้องไปสนใจอะไรกับคนที่ไม่มีผลต่อชีวิตของเรา แต่ถ้าโดนหัวหน้าตะคอก การเดินหนีคงไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก มันยิ่งทำให้หัวหน้าหัวเสียและอาจจะส่งผลถึงหน้าที่การงานของคุณได้ ต้องมองให้ออกว่าคนแบบไหนควรรับมือยังไง เราไม่สามารถเอาไม้บรรทัดเดียวมาตัดสินทุกสถานการณ์ได้ 3. อย่าไปเข้าข้างให้เขาได้ใจ ถ้าเราใช้วิธีเข้าข้างอีกฝ่ายเมื่อเขาโมโหเพื่อให้เขาใจเย็นลง