ตั้งแต่สมัยทำ Presentation ตอนเรียน หลายคนมักจะมี Font สุดแฟนซีที่เราคิดว่ามันเท่ซะเหลือเกิน โผล่มาเป็น Headline ให้เวียนหัวกันเล่น ๆ ใครที่ชอบทำก็ขอให้หยุดเอาไว้ก่อน บางครั้ง Font ที่เป็นทางการหรือเรียบง่าย ดูเหมาะจะใช้งานจริงมากกว่า โดยเฉพาะบนคอนเทนต์ที่ต้องให้คนทั่วไปอ่านเอาใจความจากเนื้อหานั้น ๆ ก็ยิ่งควรเลือก Font ที่สบายตาไว้ก่อน แล้วก็มาเลือกกันอีกทีว่ามันเป็นเนื้อหาที่จริงจังหรือผ่อนคลาย ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่เราอยากจะบอกคือการเลือก Font ให้เหมาะสม มีความสำคัญกับภาพรวมของงานเอามาก ๆ อย่ามัวแต่ใช้ซ้ำไปซ้ำมาเพราะมีของอยู่จำกัด UNLOCKMEN อยากมาแบ่งปัน 5 เว็บไซต์สำหรับแหล่ง FONTS สารพัดสไตล์ ใช้ฟรีไม่มีวันหมด Fontspace ถ้านับเรื่องความใช้ง่าย อยากแนะนำเว็บฯ นี้เลย เมนูไม่ซับซ้อน สามารถเลือกหาฟอนต์ตามประเภทได้ที่เมนู BROWSE บนแถบเมนู แล้วก็เลือกเอาตาม Style Font ที่มีสารพัดให้เราได้เลือก มีทั้งแบบทางการและแฟนซี เท่าที่ดูคร่าว ๆ จะหนักไปทางแฟนซีเสียมากกว่าอย่างหมวด Decorative Styles แบบ Art Deco
นอกจากเนื้อหาแล้ว การจัดวางตัวหนังสือ ยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสื่อสารด้วยตัวอักษร ไม่ว่าจะอยู่ใน Platform ไหนก็ตามแต่ ความสบายตาเวลาอ่าน ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะจูงใจให้คนอ่าน อยากอ่านเรื่องนั้น ๆ หรือยอมอ่านต่อไป ไม่ว่ามันจะยาวเหยียดแค่ไหนก็ตาม แต่เรื่องของตัวหนังสือมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ไหนจะการเลือก FONT การจัดย่อหน้า การแบ่งวรรค ตำแหน่งของภาพและข้อความ UNLOCKMEN จะพามาตะลุย FONT บน WEB DESIGN แบบง่าย ๆ ให้จัดวางกันได้อ่านง่ายสบายตา ให้อ่านเพลินจนลืมไปเลยว่าหมดโควต้าแปดบรรทัด Typography ที่ดีคืออะไร ? ถ้าจะให้บอกแบบทื่อ ๆ ว่าสไตล์ไหนถึงจะดี ถึงจะใช่ มันก็ดูเอาแต่ใจเกินไปหน่อย เพราะสุดท้ายแล้วมันเป็นเรื่องของรสนิยม ความชอบ มันตัดสินด้วยคุณค่าทางสุนทรียศาสตร์ไม่ได้ แต่ถ้าพูดถึงคำว่า “ดี” ในแง่ของการใช้งาน ก็คงจะเป็นอะไรที่แคบลงมาหน่อยและพอจะเห็นภาพมากขึ้น เรื่องของเนื้อหาการเขียน Copy คงยกหน้าที่นี้ไปไว้ที่ Writer แบบเต็มตัว แต่การจัดการเนื้อหาเหล่านั้นให้มาอยู่ใน WEB ได้แบบไม่ขัดหูขัดตา อันนั้นก็คือหน้าที่ของหนุ่มสาย DESIGN นี่แหละ พอมาเป็น Platform ของเว็บไซต์แล้ว “การทำให้อ่านง่าย