พรสวรรค์ไม่ได้การันตีว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไปหากขาด 8 สิ่งนี้

เรามักเห็นคนเก่งๆ รอบตัวเรามากมาย  นักดนตรีเล่นเพลงเก่งๆ นักเตะฟุตบอลชื่อดังมากมาย  นักมายากลระดับโลก นักพูดระดับประเทศ  หลายครั้งที่เราบอกว่าเขาเหล่านั้นเก่งได้เพราะมี พรสวรรค์  แต่คุณรู้ไหมว่าการมีพรสวรรค์อย่างเดียวนั้น อาจไม่สามารถทำให้คุณประสบความสำเร็จได้เลย หากคุณยังขาดสิ่งเหล่านี้

1. การตรงต่อเวลา

การตรงต่อเวลานี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญแรกๆเลยที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นสิ่งแรกที่บอกว่าคุณเป็นมืออาชีพหรือไม่ การมาสายแม้จะเพียงไม่กี่นาทีแต่ก็อาจทำให้คุณสูญเสียความเป็นมืออาชีพ ความน่าเชื่อถือ อีกทั้งยังสามารถทำลายความประทับใจการพบปะได้เลยในทันที เพราะฉะนั้นคุณควรมีการวางแผนที่ดี เผื่อเวลาในการเดินทางซักหน่อย มาก่อนเวลาก็ดีกว่ามาสายเป็นไหนๆ คนที่ตรงต่อเวลามักจะได้รับโอกาสที่ดีมากคนที่ไม่ตรงเวลาและพลาดอะไรหลายอย่างรอบตัวไป

2. มีจรรยาบรรณในการทำงาน

ทุกวันนี้คนเก่งมีมากแล้ว แต่คนที่เก่งและมีคุณธรรมนั้นสำคัญกว่า ในทุกๆอาชีพล้วนมีข้อกำหนด กฎและกติกาต่างๆที่จะไม่ละเมิดสิทธิ หรือทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อม หากคิดถึงผลประโยชน์ของตัวเองเพียงย่างเดียว ก็คงจะไม่มีใครอยากจะคบค้าสมาคมหรือว่าจ้างให้ทำงานใดๆ คุณควรคิดถึงใจเขาใจเรา ไม่เอาเปรียบคนอื่นจนเกินไป ทำงานออกมาให้ดี มีคุณภาพรวมถึงรับผิดชอบต่อสังคมในขณะเดียวกัน ย่อมดึงดูดลูกค้า หรือนายจ้างให้ประทับใจและส่งผลต่อการสานต่อ เจริญเติบโตอย่างมั่นคงในสายงานนั้นนั้นต่อไป

3. มุมานะพยายาม

ไม่มีการประสบความสำเร็จใดที่ได้มาเปล่าๆ หรือนอนสบายอยู่ที่บ้าน ทุกอย่างต้องใช้ทั้งกำลังกายและเวลาในการไปสู่เป้าหมายทั้งนั้น เพราะฉะนั้นหากคุณอยากเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จก็ควรจะต้องตั้งเป้าหมายให้แน่วแน่ และลุยมันให้เต็มที่ เต็มศักยภาพของคุณ ไม่เหยาะแหยะ ทำค้างครึ่งๆกลางๆแล้วล้มเลิก คุณต้องมุ่งมั่นให้สุด ไปให้สุด แล้วผลลัพธ์ที่ได้จะงดงามสมความพยายามแน่นอน

4.ทัศนคติบวก

คุณต้องมีทัศนคติที่ดีกับงานที่คุณกำลังทำอยู่ เพราะมันจะช่วยในการขับเคลื่อนให้คุณสามารถไปถึงเป้าหมายได้อย่างราบรื่นแม้จะมีอุปสรรคบ้าง แต่การมองโลกในแง่ดีจะช่วยให้คุณผ่านมันไปได้อย่างง่ายดาย หลีกเลี่ยงการบ่น ด่าทอ หรือมองทุกอย่างในแง่ลบไปหมด เพราะนอกจากจะทำให้คุณไม่มีความสุขกับสิ่งที่คุณทำแล้ว ยังบั่นทอนกำลังใจ กำลังกาย สมาธิจนไม่สามารถไปถึงฝั่งฝันได้ หรือถึงจะไปได้ก็ไร้ซึ่งความสุขเหมือนหุ่นยนต์ที่ทำไปเพราะหน้าหน้า แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรกัน

5. สุขภาพที่ดี

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงานอีกอย่างหนึ่งก็คือการดูแลสุขภาพตัวเอง หากร่างกายเราไม่สมบูรณ์หรือเจ็บป่วยอิดๆออดๆแล้วเราก็จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพได้ ฉะนั้นเราจึงไม่ควรละเลยสุขภาพของตัวเองโดยการกินอาหารที่เต็มไปด้วยไขมันหรือพวกฟาสต์ฟู้ดเป็นประจำ โหมอดหลับอดนอน ดื่มกาแฟหนักซดเช้ากลางวันเย็น สูบบุหรี่หนัก ปาร์ตี้หนัก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะลดทอนแรงและประสิทธิภาพในการทำงานของคุณลงได้ การรักงาน ทำงานหนักนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าจะให้ดีเราก็ต้องรักตัวเองด้วย เพื่อที่เราจะได้มีกำลัง และสามารถทำตามเป้าหมายได้ยาวนานมากขึ้นต่อไป

6. มีใจรักในสิ่งที่ทำ

เมื่อเรามีใจรักที่จะทำในบางสิ่ง มันจะช่วยเสริมในให้เรามีความมั่นใจในการทำงานในสายนั้นมากยิ่งขึ้น และนำเราไปสู่ฝันได้ไม่ยาก เพราะการมีใจรักในงานทำให้เรากระตือรือร้นและใส่ใจที่จะสร้างหรือทำมันอยู่ตลอดเวลา แม้จะเหนื่อยแค่ไหนแต่เราก็สู้สุดใจ ไม่มีเบื่อ พร้อมจะลุยกับมันอย่างสุดกำลังโดยไม่มีเกี่ยง

7. เปิดใจที่จะเรียนรู้จากคนอื่นเสมอ

สิ่งหนึ่งที่จะทำให้เราพัฒนาตัวเองได้ตลอดเวลานั่นก็คือ การทำตัวให้เป็นน้ำที่ไม่เต็มแก้ว หรือทำตัวให้เป็นแก้วเปล่าที่พร้อมจะรับฟังคำแนะนำ คำติชม ฟีดแบ็ก หรือการสอนต่างๆเสมอ การเป็นผู้ฟังที่ดี ลดอีโก้ตัวเองลง จำเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้เรารู้ว่าตัวเองต้องพัฒนา เสริมหรือแก้ไขตรงไหนบ้างให้ถูกจุด การมั่นใจเป็นสิ่งที่ดี แต่หากมั่นใจจนไม่ฟังเสียงรอบข้าง ก็อาจเป็นผลเสียหรือบั่นทอนการพัฒนาศักยภาพของเราให้ไปถึงขีดสุดได้ยาก

8. เตรียมตัวก่อนทุกครั้ง

ยิ่งคุณเตรียมตัวมามากเท่านั้น คุณก็มีโอกาสที่ดีกว่าในการประสบความสำเร็จ การเตรียมตัวมาก่อนทำงานหรือพบปะลูกค้านั้น เหมือนเป็นการให้เกียรติลูกค้า เพราะการเตรียมตัวนั้นเหมือนเป็นการใส่ใจและให้ความสำคัญ หากคุณไม่เตรียมตัวนั่นก็เหมือนว่าคุณไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งนั้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ลูกค้าหรือเจ้านายของคุณจะสัมผัสได้ว่าคุณเตรียมตัวมาดีแค่ไหน สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นหรือไม่ ฉะนั้นการทำการบ้านมาก่อนย่อมส่งเสริมให้เราประสบความสำเร็จ รบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้งอย่างแน่นอน

ข้อมูลบางส่วนจาก  Entrepreneur

Writer: Mr.Liberte