เป็นผู้ใหญ่มันเหนื่อย! ชวนมาดู 5 หนังปลุกพลังวัยหนุ่มในตัวคุณ ให้นึกถึงวัยว้าวุ่นในวันวาน

ในวันที่โลกบังคับให้อายุของเราเดินหน้าขึ้นไปทุกวินาที จนบางครั้งเราทิ้งความสดใส ความเป็นวัยรุ่นเอาไว้ข้างหลัง เพียงเพราะคิดว่ามันใช้ไม่ได้กับเราในอายุตอนนี้แล้ว แต่อย่าได้ทิ้งมันไปทั้งหมด อย่าลืมเก็บความทรงจำวัยรุ่น ความแสบซ่า ที่มันเคยสร้างสีสันให้ชีวิตของเราแบบสุดขีดในตอนนั้น หากวันนี้รู้สึกว่าชีวิตมันแห้งเหี่ยวไม่มีไฟ UNLOCKMEN ขอแนะนำ 5 หนังที่จะมาปลุกไฟวัยหนุ่มในตัวคุณให้กลับมาลุกโชนอีกครั้ง

ขอเสริมหน่อยว่า นี่ไม่ใช่การจัดอันดับหนังดี ซีรีส์ในดวงใจ ไม่ต้องน้อยใจไปถ้าซีรีส์หรือหนังในใจของคุณไม่อยู่ในลิสต์นี้ เพราะทั้งหมดนี้คือการแนะนำเหมือนเพื่อนชวนกันดูแค่นั้นเอง

Almost Famous

เรื่มต้นกันด้วยเรื่องราวของ วิลเลี่ยม เด็กหนุ่มผู้ไร้เล่ห์เหลี่ยมแต่เปี่ยมไปด้วย Passion ที่ต้องการเป็นนักข่าวสายดนตรีแบบเต็มตัว แม้จะอยู่ในวัยกระเตาะอยู่ก็ตาม เลยขอทำตามเสียงหัวใจตัวเองด้วยการติดตามวงดนตรีไปทัวร์คอนเสิร์ต ใช้ชีวิตอยู่กับพวกเขา จนเห็นชีวิตจริงของนักดนตรี ความเน่าเฟะที่เป็นเหมือนขยะใต้พรม ที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้ภาพลักษณ์สุดเท่ของวงดนตรี มันเจ๋งตรงที่เราจะได้เห็นเด็กหนุ่มที่ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นคนอื่นที่เขาควรจะมี เหมือนเขาโดน Skip ช่วงนั้นไปเห็นภาพของชีวิตผู้ใหญ่เลย แต่เป็นภาพจริงที่อยู่ต่อหน้าเขา เหล้า ยา เซ็กส์ สารพัดสิ่งที่เขาไม่ควรได้เห็นเมื่ออยู่ที่บ้าน ใครที่มีชีวิตวัยรุ่นแบบไม่สมวัยสักเท่าไหร่ คงจะถูกใจเรื่องนี้ไม่ใช่น้อย เพราะการประคับประคองตัวเองไม่ให้สติแตกเป็นเรื่องยากสำหรับเขาพอสมควรสำหรับวัยไร้เดียงสาอย่างวิลเลี่ยมและเราในตอนนั้น

The Breakfast Club

เรื่องราวของวัยรุ่นสุดวายป่วง 5 คนที่จำเป็นต้องมารวมตัวกันแบบงง ๆ เพราะโดนกักบริเวณด้วยกันในวันเสาร์ เรื่องราวของแต่ละคนก็เป็นเหมือนหนังวัยทีนทั่วไป เรื่องราวการใช้ชีวิตสุดแสนวุ่นวาย ทำอะไรไร้สาระบ้าบอ เพียงเพราะต้องการเป็นที่ยอมรับจากคนรอบข้าง ทำให้เห็นว่าสำหรับวัยรุ่นแล้ว เสียงวิจารณ์ของคนรอบข้างมีผลกับวัยเลือดร้อนขนาดไหน ในตอนนั้นเราเองก็คงเป็นไม่ต่างกัน ที่อ่อนไหวกับคำพูดของคนนู้นคนนี้จนเปลี่ยนตัวเองไปตามคำพูดของคนอื่นแบบเลี่ยงไม่ได้ แม้ไม่อยากจะทำสักแค่ไหนก็เหอะ แม้หนังจะเก่าอยู่ไม่น้อย แต่ลองหยิบมาปัดฝุ่นความทรงจำให้เราได้ย้อนกลับไปเห็นตัวเองในวัยว้าวุ่นกันหน่อยดีกว่า

Brick

Joseph Gordon รับบทเด็กหนุ่มเฉลียมฉลาดแต่ไม่เอาใครและไม่เอาโลก ที่วันนึงได้รับโทรศัพท์ปริศนาจากแฟนเก่าของเขา และต้องเผชิญกับปมปริศนาที่หนักหน่วงเกินกว่าวัยรุ่นคนนึงจะรับได้ไหว เรื่องนี้ขอแนะนำให้หยิบขึ้นมาดูเองจะดีกว่า เพราะไม่งั้นเล่าเรื่องมากกว่านี้จะเผลอสปอยล์เอาได้ เอาเป็นว่าเรื่องนี้จะพาเรากลับไปเจอความไร้เดียงสา ความกล้าได้กล้าเสีย ความสุดโต่งของความคิดและอารมณ์ของความเป็นวัยรุ่น ที่แม้แต่เราเองก็ไม่อาจมั่นใจว่า หากเป็นเราในตอนนั้น จะกล้าเผชิญปัญหาได้แบบในเรื่องนี้มั้ย

The Perks Of Being A Wallflower

หนังยอดฮิตที่ใครหลายคนเคยดูแล้ว เราจะได้เห็นหนุ่ม Logan Lerman, Emma Watson และ Ezra Miller ในวัยกระเตาะ เรื่องราวคร่าว ๆ ก็คือชาร์ลี โดดเดี่ยวผู้น่ารัก ที่มีปมในใจบางอย่างที่เขาพยายามซ่อนมันไว้ในส่วนลึกที่สุดของความคิด จนกระทั่งวันหนึ่งมีสิ่งมากระตุ้นให้มันระเบิดออกมา เขาสับสน เคว้งคว้าง แต่ก็ยังได้ แซม และ แพทริก ที่เข้ามาประคับประคองเขาในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เรื่องนี้เหมือนเป็นการรวมเรื่องราวของวัยรุ่นที่ชีวิตขาด ๆ เกิน ๆ ย้ำเตือนให้เห็นว่าโลกนี้แม่งไม่มีใครเพอร์เฟ็กต์หรอก ใช้ชีวิตของเราแบบที่เราอยากมีให้ได้ แค่นั้นมันก็ยากแล้ว โดยเฉพาะสำหรับชาร์ลี

Juno

เมื่อการท้องในวัยเรียนไม่ใช่แค่คำเตือนหรือคำขู่ของผู้ใหญ่อีกต่อไป เมื่อจูโน่ สาวน้อยวัย 16 ปีเกิดท้องขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ในเมื่อทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว เธอเองก็ต้องเผชิญกับปัญหาและแก้สิ่งที่ตัวเองสร้างไว้ แต่แก้มันในตามสไตล์ของเธอ เพราะเธอเองก็มั่นใจว่าเธอโตพอแล้วที่จะรับมือกับปัญหาเหล่านี้ได้แบบคูล ๆ ไม่แคร์ผู้ใหญ่ แต่ในฉากสุดท้ายที่เธอคุยกับพ่อมันช่างเป็นไดอะล็อกที่เรียบง่ายแต่แฝงข้อคิดของปัญหาวัยรุ่นและครอบครัวไว้ได้แบบเฉียบขาด

วัยว้าวุ่นแม้จะเป็นช่วงเวลาไร้สาระ บ้าบอ ที่เราทำตัวสุดขีดไปด้วยความไร้เดียงสา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันคือช่วงเวลาที่มีสีสัน มีรสชาติมากเหมือนกัน เราได้ลองถูกลองผิดแบบไม่มีใครมาจับตามองว่ามึงโตเป็นควายแล้วยังทำแบบนั้นแบบนี้อีก ผิดกับตอนนี้ที่ยิ่งโตแล้วยิ่งต้องคีพคูลจนใช้ชีวิตแบบโคตรจืด ลองมาเริ่มต้นปลุกไฟในตัวเราง่าย ๆ ด้วยหนังที่แนะนำนี้กันเถอะ