เรารู้ โลกก็รู้ แต่ทำไมเจ้าหน้าที่รัฐไม่ค่อยรู้? “ชวนดูความไร้เดียงสา” ของจนท.รัฐไทยที่ทำให้งง

คำหนึ่งคำบางทีก็มีหลายความหมาย เราเข้าใจอย่างหนึ่ง แต่ เอ๊ะ! ทำไมคนอื่นเข้าใจอีกอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ว่าจะนักการเมืองเอย ทหารเอย ตำรวจเอย ราชการประจำเอย ชอบมีคำเดิม ๆ แต่ให้ความหมายใหม่ ๆ แบบไร้เดียงสามาให้ผู้ชายอย่างเราได้เลียนแบบ เอ้ย เรียนรู้ได้ไม่เว้นแต่ละวัน

จริง ๆ แล้วพวกเขาไร้เดียงสาขนาดนั้นไหม ทำไมความหมายง่าย ๆ ที่คนทั้งโลกรู้ แต่เขาไม่เข้าใจ วันนี้ UNLOCKMEN จะพามาดูคำพูดสไตล์เจ้าหน้าที่รัฐไทย ว่ามีความโดดเด่น ยูนีค (ทำเป็น)ไร้เดียงสา หรือว่าย้อนแย้งกันแค่ไหน หากกลัวเสียเวลาอนุญาตให้ยกนาฬิกาที่ยืมเพื่อนมาดูเวลาตลอดการอ่านได้ (ถ้า UNLOCKMEN โดนปิดหายไปก็ขอให้ไปเยี่ยมกันด้วย คิดถึง)

“ค่าอาบน้ำ” สไตล์ สน.วังทองหลาง

ปกติก็เห็นอาบน้ำเองกันได้ แต่ถ้าวันไหนนึกครึ้มอกครึ้มใจพี่ ๆ เจ้าหน้าที่อาจจะเหนื่อยเหน็ดจนมือไม้หมดเรี่ยวแรง โดยวันที่ 13 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา สถานบริการอาบอบนวด “วิคตอเรียซีเครท” ย่านถนนพระราม 9 ก็พบใบเสร็จลดราคา “ค่าอาบน้ำ” 100% ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.วังทองหลางอยู่ (เป็นเจ้าหน้าที่นี่น่าอิจฉาจริง ๆ ได้ส่วนลดเยอะขนาดนี้) พร้อมพรรคพวกไปยันคนจากสรรพากร เรียกว่าตัวหอมฟุ้งกันเป็นแถว

ไม่ว่าเจ้าหน้าที่จะเรียกว่าค่าอาบน้ำได้เต็มปากขนาดไหน แต่ผู้ชายอย่างเรา ๆ ก็รู้ดีว่ามันคือ “ค่าอะไร” แต่ที่ท่าน ๆ ไม่รู้ก็เพราะหลับหูหลับตาไม่รู้ หรือไร้เดียงสาจริง ๆ กันแน่? ส่วนผู้ชายอย่างเรา ถ้าจะเอาอย่าง บอกแฟนไปเที่ยวคราวหน้าก็อย่าลืมบอกว่าไปเสียค่าอาบน้ำให้น้อง ๆ แล้วกัน (ส่วนแฟนจะว่าอย่างไร UNLOCKMEN ไม่ขอรับประกันความปลอดภัย แจ้งไว้ ณ ที่นี้เลยนะครับ)

SOURCE

เงินเดือนเท่านี้ แต่ทำไมมีเป็นร้อยล้าน อ่อ พี่ยืมเพื่อนใส่

ต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่น่าอิจฉามากมาย ที่บางคนมีทรัพย์สินในครอบครองหลายร้อยล้านบาท ทั้ง ๆ ที่ถ้าดูจากตารางเงินเดือน คงต้องเป็นคนที่เก็บเงิน บริหารเงินเก่งสุด ๆ ถึงได้มีสมบัติในบัญชีมากมายขนาดนั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำยังไง ซึ่งดูเหมือนหน่วยงานที่ชื่อมีไว้ “ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ’ จะไม่ได้รู้สึกแปลกใจเหมือนที่เราแปลกใจมากนัก ก็ขนาดนาฬิกาหรูหราตั้ง 24 เรือน แต่ละเรือนนี่แพงหูดับทะลุหลักล้านบาท รวมกันไม่รู้มูลค่าเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ไม่มีการแจ้งครอบครองเหมือนที่ควรจะต้องทำ ก็ไม่เป็นไร ท่านก็บอกตาใส ๆ ว่า “ยืมเพื่อนมาใส่ ใครจะทำไม”

ส่วนหน่วยงานตรวจสอบก็แบ๊วใสไม่แพ้กัน ยิ้มให้ประชาชนแล้วบอกเพียงว่า “ขออนุญาตไม่เปิดเผยนะจ้า พี่น้อง” ซึ่งเร็ว ๆ นี้เห็นว่าจะมีการชี้ว่าผิดหรือไม่ผิด แต่เราก็คิดว่าคงจะไม่ เพราะพี่เขายืมเพื่อนมาใส่หนิ จะผิดได้ไงล่ะ โธ่

“ศึกษาดูงาน” สไตล์วิทยาลัยเสนาธิการทหาร

รู้ทั้งรู้ว่าไปเที่ยวประมาณ 80% ส่วนดูงานให้เต็มที่ 20% บวกลบไม่เกินนี้แน่ ๆ แต่ไม่ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐจะย่างกรายข้ามซีกโลกไปไหนก็ต้องใช้คำว่าศึกษาดูงานมาบังหน้า เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐสไตล์ที่แจกจ่ายให้เอกชนไปใช้ได้แบบไม่มีหวงแหน จะนั่งการบินไทยไปเที่ยว เอ้ย ไปประชุมหารือหลายประเด็นที่ฮาวาย ใช้เงินไปจิ๊บ ๆ 20 ล้าน ก็ไม่มีปัญหา

ตัวอย่างการศึกษาดูงานสุดโดดเด่น UNLOCKMEN ก็ต้องขอยกให้ “วิทยาลัยเสนาธิการทหาร” ดูงานที่ยุโรปชิค ๆ 13 วันเต็ม โปรแกรมการศึกษาดูงานที่เผื่อเราจะนำไปเสนอบอสของเราบ้างก็มีคร่าว ๆ เช่น ศึกษาการวางตัวของหินอย่างหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก คือ สโตนเฮนจ์ ประเทศอังกฤษ, ศึกษาการล่องไหลของสายน้ำผ่านการล่องเรือชมแม่น้ำเทมส์, ศึกษาวัฒนธรรมวันแดงเดือด โดยเยือนสนามกีฬาโอลด์แทรฟฟอร์ด สนามของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แถมต่อด้วยเยือนสนามฟุตบอลแอนฟิลด์ สนามของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล (ดูงานสมกับการไม่ใช้ในการทหารจนน่าอิจฉาจริง ๆ )

SOURCE

มีการทุจริตจริง “แต่นำเงินไปบริจาคแล้ว”

ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน กรณีที่ถูกพูดถึงอย่างลือลั่นข้ามปีคือกรณีการทุจริตการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ออกมายืนยันแน่นหนักว่าการดำเนินการออกจะเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ (แต่ถ้ามีใครแสดงท่าทางว่าจะตรวจสอบก็โดนจับ) จนท้ายที่สุดพบว่ามีการแอบอ้างและเรียกเก็บเงินค่าหัวคิวโรงหล่อ แต่พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้นก็ออกมาบอกว่า “พบมีบุคคลแอบอ้างและการเรียกเก็บเงินหัวคิวของโรงหล่อ และได้ดำเนินการให้นำเงินเหล่านี้ไปคืนในรูปแบบการบริจาคแล้ว “ ก็ไม่รู้ว่าถ้าประชาชนสไตล์จะยืมวิธีพูดนี้ไปใช้บ้างว่ามีการหักค่าหัวคิวหรือแอบอ้างอะไร แล้วบอกว่า”นำเงินไปบริจาคแล้ว” เรื่องจะจบไหมนะ UNLOCKMEN ก็สงสัยเหมือนกัน

SOURCE

“น้ำขังรอการระบาย” สไตล์ผู้ว่ากทม.

“ท่วม” ตามความหมายของสำนักงานราชบัณฑิตยสภา หมายถึง อาการที่น้ำปริมาณมาก ๆ ไหล หลาก เอ่อ ท้น หรือมีระดับสูงกว่าพื้นที่หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ดังนั้นต่อให้เป็นเด็กประถมก็น่าจะพอเข้าใจได้ว่าน้ำที่เอ่อ หรือล้นขึ้นมาจากท่อระบายน้ำจนมีระดับสูงกว่าพื้นถนนในกรุงเทพฯ ก็คือ “น้ำท่วม”

แต่การแก้ปัญหาสไตล์ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อดีตผู้ว่ากทม. เพื่อไม่ให้คำว่าน้ำท่วมดูรุนแรงเท่าที่เป็นจริง เลยพูดให้น้ำท่วมดูรุนแรงน้อยกว่าที่เป็น โดยใช้คำว่า “น้ำขังรอการระบาย” แทนเสียเลย หรือประโยคเต็ม ๆ ก็คือ “กทม.ไม่มีน้ำท่วม มีแต่น้ำขังรอการระบาย” ก็นับเป็นนวัตกรรมการใช้คำใหม่ ๆ ที่ทำให้อะไร ๆ ดูเลวร้ายน้อยลง ทั้ง ๆ ที่สถานการณ์ก็เลวร้ายเท่าเดิมได้แบบมืออาชีพจริง ๆ

SOURCE

แม้ด้านหนึ่งการใช้คำแบบนี้มันจะหลอกล่อให้คนเข้าใจว่าปัญหาดูแย่น้อยกว่าที่เป็นจริง แต่ก็ใช่ว่าปัญหามันจะหายไป ผู้ชายคนไหนจะยืมไปใช้ก็ขอให้ใช้วิจารณญานให้หนัก ๆ เข้าไว้ เพราะใช่ว่าใช้แล้วคนจะหลงเชื่อได้ง่าย ๆ เหมือนที่เจ้าหน้าที่รัฐฯ จะคิดว่าหลอกเราได้ แต่บางทีเราก็รู้ โลกก็รู้ แค่เจ้าหน้าที่รัฐฯ คิดว่าคนอื่นเขาไม่รู้เท่านั้นเอง เฮ้อ…. Amazing Thailand