“ถ้าพูด Content Creator ที่เป็นสาย Prank ของเมืองไทยแบบจริงจัง คุณจะนึกถึงใครเป็นอันดับแรก ?” ย้อนกลับไปเกิน 10 ปีก่อนหน้านี้ ชื่อของ สาระแนโชว์ คงถูกยกขึ้นมาพูดเป็นอันดับต้น ๆ แต่ถ้าช่วงเวลานี้ถ้าไม่พูดถึง ‘โคจอน’ นั้นถือว่าผิด ผู้ชายที่เป็นหนึ่งใน Master Of Prank ที่ทำสายนี้มาเกินกว่า 10 ปีแล้ว เป็นตำนานที่ถึงขนาดถูกเรียกด้วยฉายาว่า ‘ตำนานที่ไม่น่ามีลมหายใจ’ คิดดูว่าถ้าไม่พิเศษจริง ๆ คงไม่ได้ชื่อนี้มาอย่างแน่นอน อีกหนึ่งชื่อเสียงของโคจอนมาจากการเป็นพิธีกรรายการชื่อ The Very Show แต่นั่นก็เป็นอดีตเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ปัจจุบันคุณจะเห็นหน้าของโคจอนปรากฎตัวเป็นคลิปปั่น ๆ โลดแล่นอยู่ทั่วอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะ TikTok หรือ FACEBOOK แถมเขายังได้ไปร่วมงานทำรายการกับ Content Creator สายอาหารเบอร์ต้นของไทยอย่าง Wongnai อีกด้วย แต่คำถามคือ “แล้วโคจอนคือใครล่ะ ?” ตัวตนของโคจอนเป็นปริศนามาเสมอ ไปเสิร์ชดูได้เลยแล้วคุณจะตกใจที่ไม่พบว่าเขาเคยให้สัมภาษณ์เรื่องของตัวเองเท่าไหร่
การจบบทสนทนานับเป็นสกิลที่ผู้ชายทุกคนควรมี เพราะผู้ชายอย่างเราต้องเข้าสังคม และทักษะการจบบทสนทนาจะช่วยให้เราสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคนอื่นได้ แต่หลายคนคงพบว่าการจบบทสนทนาเป็นเรื่องยากมาก เพราะไม่รู้ว่าควรจะตัดจบยังไงให้ดูไม่น่าเกลียด UNLOCKMEN เลยอยากมาแนะนำเทคนิคการจบบทสนทนาอย่างสมูท โดยไม่ทำให้อีกฝ่ายต้องเสียความรู้สึก มีเป้าหมายที่ชัดเจน เวลาจะไปพบใครก็ตาม เราควรจำไว้เสมอว่าเราไปพบกับเขาเพื่ออะไร เช่น ต้องการหาคู่ หรือ ต้องการเจรจาทางธุรกิจ การตั้งเป้าหมายจะช่วยให้เรารู้ว่าควรพูดคุยกับอีกฝ่ายประมาณไหน ป้องกันการพูดหรือฟังมากเกินไป จนจบบทสนทนาได้ยาก แถมยังช่วยให้เรากล้าตัดสินใจมากขึ้นด้วย ถ้าเราเจอกับสถานการณ์ที่ต้องทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รอจนบทสนทนาเริ่มสงบ รอสัญญาณจากอีกฝ่ายที่แสดงให้เห็นว่าบทสนทนากำลังจะจบลงแล้ว ซึ่งสัญญาณมักมาในรูปแบบของคำพูด เช่น “อืม” “โอเค” หรือ “เออ” เป็นต้น คำเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มหมดเรื่องที่จะพูดกับเราแล้ว และเราสามารถใช้โอกาสนี้ในการเปลี่ยนเรื่องคุย หรือ ตัดจบบทสนทนาที่กำลังเกิดขึ้นได้ จบด้วยเป้าหมายในการสนทนา เราควรยึดเป้าหมายในการสนทนาตั้งแต่ต้นจนจบบทสนทนา ยกตัวอย่างเช่น ถ้าตอนแรกเราขอคำแนะนำจากเพื่อนเรื่องคลาสที่น่าเข้าเรียน เราอาจออกจากบทสนทนาโดยใช้ประโยคจบที่เชื่อมกับเป้าหมายในตอนแรก เช่น “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ เราจะลงเรียนวิชานี้ให้ทันในเทอมหน้า” เป็นต้น จบด้วยการขอบคุณ ไม่ว่าคุณจะสนทนากับใคร หากต้องการจบบทสนทนาอย่างสุภาพ ควรจบด้วยการขอบคุณเสมอ เช่น ขอบคุณที่อีกฝ่ายสละเวลามาคุยกับเรา หรือ บอกกับอีกฝ่ายว่าการพูดคุยในครั้งนั้นสนุกมากแค่ไหน เป็นต้น
พอเข้าสู่ครึ่งหลังของปี ก็ดูเหมือนกับว่าเป็นฤกษ์ดีที่คู่รักจะลั่นระฆังวิวาห์กัน และก็มีหลายคนที่จะต้องไปร่วมงานแต่งงานเพื่อแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว ไม่ว่าจะเป็นงานมงคลของคนในครอบครัว มิตรสหาย เจ้านาย หรือเพื่อนร่วมงานก็ตาม ยิ่งถ้าได้รับหน้าที่เป็น “เพื่อนเจ้าบ่าว” ด้วยแล้ว ยิ่งรู้สึกมีเกียรติ แต่มันก็มีความท้าทายอยู่ไม่เบา ความท้าทายที่ว่านี้ไม่ได้มีเฉพาะแค่การซักซ้อมพิธีการ การแต่งตัว และการดูแลตัวเองเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงการ speech หรือการกล่าวคำอวยพรคู่บ่าวสาวด้วย ซึ่งขั้นตอนนี้มีความหมายเป็นอย่างยิ่ง อันที่จริงเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่มีรูปแบบตายตัว แต่ก็นะ เพื่อนซี้หรือญาติพี่น้องคนสนิทของคุณแต่งงานทั้งที มันก็ต้องมีศิลปะแห่งการ speech กันหน่อย งานจะได้ไม่กร่อยตอนที่คุณขึ้นกล่าว คำถามก็คือ เราจะกล่าวให้มันเจ๋งได้อย่างไร ? มันควรจะสุดฮา หรือซาบซึ่งกันแน่ ? ควรจะพูดถึงเจ้าบ่าวอย่างเดียว หรือควรกล่าวถึงเจ้าสาวด้วย ? ต้องร่ายยาวแค่ไหน ? ต้องเมาก่อนมั้ย ? และเรื่องที่จะเล่ามันจะทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่หัวใจจะวายหรือเปล่า ? คำตอบของคำถามเหล่านี้ ทีมงาน UNLOCKMEN ขอนำมาฝากหนุ่ม ๆ กัน จากคำแนะนำของ Kye Harman อดีตคนวงการบันเทิงที่ผันตัวมาเป็น Managing Director ของ Simply The Best Man
ทุกครั้งที่เราเข้าสังคม ไม่ว่าจะเป็นการพบปะผู้คนใหม่ ๆ ตามงานอีเวนต์ เจอเพื่อนของเพื่อนในปาร์ตี้ หรือมีตติ้งครั้งแรกกับกลุ่มคนหน้าใหม่ ก็จะมีการแนะนำตัวกันตามปกติ มีกล่าวทักทาย ยกมือไหว้ ไม่ก็เชกแฮนด์กัน ช่างเป็นภาพการเริ่มต้นของมิตรภาพใหม่ที่แสนราบรื่น ทว่าความชื่นมื่นก็มักจะจบลง เมื่อเราดันลืมชื่อของคนคนนั้นในทันที ! พอเจอปัญหาลืมชื่อแบบนี้ สิ่งที่พอจะทำได้ก็คือการแอบถามคนรอบข้างแถวนั้น ไม่ก็ต้องถามชื่อคนนั้นอีกที ซึ่งมันดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ที่แย่ที่สุดคือการจำชื่อผิด แล้วมั่นใจทักไปแบบเต็ม ๆ หน้าแตกกันแบบเข้ม ๆ เลยทีเดียว แล้วมันมักจะเป็นแบบนี้อยู่ค่อนข้างบ่อยเหมือนกัน ซึ่งผลเสียที่ตามมาอาจจะมีมากกว่าที่คิด ทั้งสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ หรือเริ่มต้นมิตรภาพไม่สวย เป็นต้น ลองคิดดู พอคุณกับเขามาเจอกันอีกที เขาเรียกชื่อคุณถูก แต่คุณกลับจำชื่อเขาไม่ได้ เรียกชื่อเขาไม่ถูก ก็คงจะทำให้คนตรงหน้าเซ็งพอควร ทำไมเราถึงชอบลืมชื่อคนที่เจอกันครั้งแรกในทันที ? เรื่องนี้ Charan Ranganath ผู้อำนวยการโปรแกรมความจำและความสามารถของสมอง แห่ง University of California มีคำตอบ ทำไมเราถึงลืม คำอธิบายที่ง่ายที่สุดก็คือ เราอาจไม่ได้สนใจและไม่ได้ใส่ใจ เลยไม่จดจำ อย่างที่ Ranganath บอกไว้ว่า “คนทั่วไปมักจะจำสิ่งที่ดึงดูดใจให้เรียนรู้ได้ดีกว่า บางครั้งมันก็มีแรงจูงใจให้เราต้องจำชื่อคนคนนั้นให้ได้ แต่ในบางครั้งเราก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องให้ความสำคัญก็ได้”
“พอทราบอายุขวัญตา น้องเอยพี่มา นั่งทำตาปริบๆ” อยู่ ๆ เพลงนี้ก็ดังเป็นเดจาวูในหู พอเราได้ยินว่า LAZADA ประกาศวันเกิดปีที่ 6 ยังจำได้ลาง ๆ ว่าเพิ่งจะจัดแคมเปญวันคนโสด 11.11 ฉายช่องปลายปีไปอย่างยิ่งใหญ่ โผล่มาอีกทีอายุ 6 ขวบ เสียแล้ว แถมหน้าฟีดตอนนี้ยังเต็มไปด้วยโปรโมชั่นส่วนลดมากมาย คอยไล่สะกดจิตให้เราต้องซื้อจากสื่อหลายช่องทาง ขณะที่คนอื่นกำลังคิดว่าบ่ายนี้กูจะซื้ออะไรดี แต่สาย BIZ อย่างเรากดเข้าเว็บฯ ดูไปเรื่อย ๆ แล้วเห็นทริคทางธุรกิจว่า เฮ้ย! ที่เขาฟาดฟันมาจนแข็งแกร่งในสาย E-commerce ขนาดนี้ มันไม่ได้มาเพราะถูกหวย แต่เพราะทิปส์เสริมกลยุทธ์ดี ๆ ที่เขาใช้ต่างหาก UNLOCKMEN คนไหนเป็นสาย BIZ มีเพจ มีธุรกิจออนไลน์ ลองเอากิมมิค 6 เรื่องนี้ไปเพิ่มในธุรกิจของคุณดู แล้วจะรู้ว่าเรื่องพวกนี้มันไม่ได้เล็กน้อยอย่างที่คิดจริง ๆ 6 TIPS เทรนใหม่ครองใจลูกค้าโซเชียล 1. CHATBOT สุดไฉไล ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
“The art and science of asking questions is the source of all knowledge. – ศาสตร์และศิลป์ของการถามคำถามคือต้นกำเนิดของแหล่งความรู้” คำกล่าวของ Thomas Berger นักประพันธ์ชื่อดังชาวอเมริกันผู้ล่วงลับ เคยถามตัวเองไหมครับ ว่าเวลาที่เราเข้าสังคมทำไมถึงไม่ค่อยมีใครอยากคุยกับเราต่อเลย ทั้ง ๆ ที่เราก็เปิดฉากสนทนาด้วยการถามไถ่ด้วยความใส่ใจ เรื่องอัธยาศัยก็ระดับผู้ชาย friendly แต่ก็ยังโดนเบือนหน้าหนี บ้างก็โดนด่า(ในใจ) ไม่ก็โดน ‘สะบัดมือใส่’ หรือว่าเราพูดอะไรผิดไปวะ !? เรื่องการเข้าสังคมและสนทนากับผู้อื่นถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนครับ บางครั้งเราก็ไม่รู้ตัวว่าประโยคคำถามของเราอาจทำให้ใครเขารู้สึกแหม่ง ๆ หรือเขินอายได้เหมือนกัน เอาอย่างนี้ครับ เริ่มต้นด้วยการสำรวจว่าเราชอบถามคำถามแบบนี้หรือเปล่า และถ้าพบว่าเออหวะ เรา(แม่ง)ชอบถามแบบนี้ด้วยความเคยชิน ทีมงาน UNLOCKMEN ก็มีแนวทางการถามที่ต้องการคำตอบเดียวกัน แต่ฟังแล้วสมูธกว่าเยอะมาแนะนำกันด้วย เข้าใจครับว่าการอยากรู้เรื่องชาวบ้านมันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ แต่มันก็ต้องมีศิลปะกันหน่อย “ไปเที่ยวมาเหรอ ? น่าสนุกนะครับ” ส่วนใหญ่เวลาที่เราได้ยินคนบอกว่าไปไหนมา เรามักจะคิดไปเองก่อนว่าเขาไปเที่ยวและต้องสนุกแน่ ๆ ตั้งสติก่อน เพราะอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
กลายเป็นชีวิตประจำวันและความเคยชินของทุกคนไปแล้วสำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อการทำงานและความบันเทิง แค่คลิกเดียวก็สามารถพาเราเข้าไปส่องรูปสาวบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก แชทดีลทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ดูคลิปเป็นล้านใน YouTube หรือเพลินกับซีรี่ส์จนถึงเช้า แหม่ อะไรมันจะสะดวกและฆ่าเวลาได้ดีขนาดนี้ ผลการสำรวจของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA (เอ็ตด้า) เมื่อปี 2560 บอกเราว่า คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ยในวันทำงานหรือวันเรียนหนังสือ 6 ชั่วโมง 30 นาทีต่อวัน วันหยุด 6 ชั่วโมง 48 นาทีต่อวัน หรือประมาณ 1 ใน 4 ของวัน โดยชาว Gen Y หรือกลุ่มคนที่เติบโตมากับคอมพิวเตอร์ในยุคที่อินเทอร์เน็ตแพร่หลายแล้ว (เกิดระหว่าง พ.ศ. 2523 – 2543) เป็นกลุ่มที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากกว่า 7 ชั่วโมงต่อวัน ตัวเลขที่ออกมาบอกอะไร ? ง่าย ๆ เลย เราไม่ค่อยรู้ตัวหรอกว่าเราวาร์ปเข้าไปอยู่บนโลกออนไลน์นานแค่ไหนต่อวัน เพราะมันโคตรจะเพลิน มองอีกมุมมันก็อาจจะฆ่าเวลาดี ๆ ของหนุ่ม ๆ อย่างเราได้เช่นกัน แถมถ้าติดโลกโซเชียลมากเกินไปอาจทำให้เราขาดแรงจูงใจในการทำกิจกรรมบนโลกความจริง ทั้งการเข้าสังคม, ฟิตร่างกาย,
คำหนึ่งคำบางทีก็มีหลายความหมาย เราเข้าใจอย่างหนึ่ง แต่ เอ๊ะ! ทำไมคนอื่นเข้าใจอีกอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ว่าจะนักการเมืองเอย ทหารเอย ตำรวจเอย ราชการประจำเอย ชอบมีคำเดิม ๆ แต่ให้ความหมายใหม่ ๆ แบบไร้เดียงสามาให้ผู้ชายอย่างเราได้เลียนแบบ เอ้ย เรียนรู้ได้ไม่เว้นแต่ละวัน จริง ๆ แล้วพวกเขาไร้เดียงสาขนาดนั้นไหม ทำไมความหมายง่าย ๆ ที่คนทั้งโลกรู้ แต่เขาไม่เข้าใจ วันนี้ UNLOCKMEN จะพามาดูคำพูดสไตล์เจ้าหน้าที่รัฐไทย ว่ามีความโดดเด่น ยูนีค (ทำเป็น)ไร้เดียงสา หรือว่าย้อนแย้งกันแค่ไหน หากกลัวเสียเวลาอนุญาตให้ยกนาฬิกาที่ยืมเพื่อนมาดูเวลาตลอดการอ่านได้ (ถ้า UNLOCKMEN โดนปิดหายไปก็ขอให้ไปเยี่ยมกันด้วย คิดถึง) “ค่าอาบน้ำ” สไตล์ สน.วังทองหลาง ปกติก็เห็นอาบน้ำเองกันได้ แต่ถ้าวันไหนนึกครึ้มอกครึ้มใจพี่ ๆ เจ้าหน้าที่อาจจะเหนื่อยเหน็ดจนมือไม้หมดเรี่ยวแรง โดยวันที่ 13 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา สถานบริการอาบอบนวด “วิคตอเรียซีเครท” ย่านถนนพระราม 9 ก็พบใบเสร็จลดราคา “ค่าอาบน้ำ” 100%
แนะนำร้านอาหารสุดอร่อยก็มีไปแล้ว แนะนำร้านอาหารตามดาราชายคนดังที่อื่นก็มีไปแล้ว แต่เพื่อชาว UNLOCKMEN ทั้งที UNLOCKMEN จะพาไปกินอาหารธรรมดา ๆ เหมือนที่อื่นไม่ได้ นี่จึงเป็นการแนะนำอาหารครั้งแรกที่เราจะพาไปดูกันว่านายกรัฐมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี เขาไปกินอาหารร้านไหน แล้วชอบกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า จะหรูหรา ไฮโซ อย่างที่เราคิดไว้ไหมว่าคนเป็นผู้นำประเทศต้องกินอะไรระดับสุดยอดของประเทศ หรือจริง ๆ แล้วก็ข้าวแกงข้างทางเหมือนเรา ๆ นี่เอง มา…มาสัมผัส 5 ร้านอาหารที่ 5 ผู้นำของไทยไปกิน แล้วเชิญไปกินตามแบบเท่ ๆ แล้วบอกคนข้าง ๆ ได้เลยว่านี่พามากินร้านที่นายกฯ ชอบกินเลยนะ! พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา: ร้านเนื้อตุ๋นนางเลิ้ง เริ่มกันที่นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศไทย พลเอก ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของประเทศไทย สำหรับอาหารจานโปรดของนายกฯ ตู่นั้นได้แก่อาหารโคตรง่าย สุดธรรมดาสามัญ จนถึงขั้นที่หลายคนบอกว่าเป็นเมนูสิ้นคิด อย่าง ข้าวกะเพราเนื้อไข่ดาว แต่นายกตู่ฯ ของเราก็ไม่ได้กินข้าวกะเพราเนื้อทุกวันแต่อย่างใด อีกอย่างที่เป็นของโปรดสุดรักของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และยังคงเป็นเมนูเนื้อคือก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น โดยบางทีขณะประชุมสภา ก็จะสั่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้าเก่าแก่จากนางเลิ้งมา