Life

ศิลปะแห่งการ SPEECH ของเพื่อนเจ้าบ่าวในงานแต่งงาน ที่จะทำให้ทั้งคู่สมรสและผู้ร่วมยินดีประทับใจ

By: PEERAWIT August 20, 2018

พอเข้าสู่ครึ่งหลังของปี ก็ดูเหมือนกับว่าเป็นฤกษ์ดีที่คู่รักจะลั่นระฆังวิวาห์กัน และก็มีหลายคนที่จะต้องไปร่วมงานแต่งงานเพื่อแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว ไม่ว่าจะเป็นงานมงคลของคนในครอบครัว มิตรสหาย เจ้านาย หรือเพื่อนร่วมงานก็ตาม ยิ่งถ้าได้รับหน้าที่เป็น “เพื่อนเจ้าบ่าว” ด้วยแล้ว ยิ่งรู้สึกมีเกียรติ แต่มันก็มีความท้าทายอยู่ไม่เบา

ความท้าทายที่ว่านี้ไม่ได้มีเฉพาะแค่การซักซ้อมพิธีการ การแต่งตัว และการดูแลตัวเองเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงการ speech หรือการกล่าวคำอวยพรคู่บ่าวสาวด้วย ซึ่งขั้นตอนนี้มีความหมายเป็นอย่างยิ่ง อันที่จริงเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่มีรูปแบบตายตัว แต่ก็นะ เพื่อนซี้หรือญาติพี่น้องคนสนิทของคุณแต่งงานทั้งที มันก็ต้องมีศิลปะแห่งการ speech กันหน่อย งานจะได้ไม่กร่อยตอนที่คุณขึ้นกล่าว

คำถามก็คือ เราจะกล่าวให้มันเจ๋งได้อย่างไร ?  มันควรจะสุดฮา หรือซาบซึ่งกันแน่ ?  ควรจะพูดถึงเจ้าบ่าวอย่างเดียว หรือควรกล่าวถึงเจ้าสาวด้วย ?  ต้องร่ายยาวแค่ไหน ?  ต้องเมาก่อนมั้ย ?  และเรื่องที่จะเล่ามันจะทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่หัวใจจะวายหรือเปล่า ?  คำตอบของคำถามเหล่านี้ ทีมงาน UNLOCKMEN ขอนำมาฝากหนุ่ม ๆ กัน จากคำแนะนำของ Kye Harman อดีตคนวงการบันเทิงที่ผันตัวมาเป็น Managing Director ของ Simply The Best Man Ltd ที่เชี่ยวชาญเรื่องการ speech และการเตรียมตัวของเพื่อนเจ้าบ่าวเพื่องานสำคัญ

เบื้องต้น Harman แนะนำแบบกระชับว่า พยายามให้ speech ของคุณมีความยาวที่เหมาะสมและจริงใจ อาจผสมผสานอารมณ์ขันเข้าไปให้ถูกจังหวะและสุภาพ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องฟังดูสนุก ลื่นไหล สะกดทุกคนให้สนใจฟัง ที่สำคัญ ตัวเพื่อนเจ้าบ่าวเองก็ต้องดูผ่อนคลาย และเอ็นจอยกับการกล่าวอวยพร” ลองดูวิธีการเหล่านี้ที่จะช่วยให้คุณทำหน้าที่เพื่อนเจ้าบ่าวได้สมบูรณ์ขึ้น

กล่าวให้กระชับและจับใจ

ไม่ว่างานแต่งนั้นจะเรียบง่าย หรือยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็มักจะใช้เวลาค่อนข้างนาน ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าและสาว รวมถึงครอบครัวและทีมงานต้องยิ้มทั้งเหงื่อแน่นอน แถมบางขั้นตอนของพิธีการอาจทำให้แขกรู้สึกไม่ค่อยสนใจให้ความร่วมมือก็ได้ ยิ่งงานใหญ่ ๆ ยิ่งอาจไม่ทั่วถึง ไม่ก็อาจเป็นเพราะอาหารและเครื่องดื่มตรงหน้ามันช่างเย้ายวนใจนัก จาก insight เหล่านี้ ทางที่ดีก็ควรจะกล่าวให้กระชับและจับใจ ให้กลายเป็นหนึ่งในไฮไลท์แห่งงานแต่งที่ยาวนาน

โดยความยาวที่เหมาะสมให้การ speech จะอยู่ที่ราว ๆ 7 นาที ซึ่งพอเพียงกับการกล่าวถ้อยคำสุดจริงใจ สลับกับการยิงมุกให้ถูกจังหวะ อำเจ้าบ่าวให้เขิน (ใจเย็น ๆ  ไว้หน้าเพื่อนคุณหน่อยนะ)  เล่าเรื่องราวที่ผ่านมาด้วยกัน (ตั้งสติ อย่าเอา “เรื่องนั้น” มาเล่า เดี๋ยวบ้านเค้าแตก) พร้อมเตือนตัวเองว่านี่คือการ speech ไม่ใช่การ stand-up comedy  ลองฝึกการควบคุมเวลาและจังหวะที่หน้ากระจก พูดให้เต็มเสียง ชัดถ้อยชัดคำ ไม่ตะโกน และเว้นจังหวะให้ผู้ฟังแสดงออกทางความรู้สึก มีสเปซให้ฮา มีช่องว่างให้ซึ้ง ถึงจะตรึงใจ

ซ้อมให้ชิน

การซ้อมคือกุญแจสำคัญ ถ้าคุณคิดว่าการกล่าวอย่างไรและนานแค่ไหนนั้นเป็นเรื่องที่น่ากลัวแล้ว สิ่งที่เป็นฝันร้ายเลยก็คือการลืมกล่าวในสิ่งที่ควรจะพูด ไม่ก็จู่ ๆ ก็ยืนเงียบเดดแอร์ หรือจังหวะจะโคนผิดเพี้ยนทำเอาฮากริบ ผู้ฟังไม่ทราบว่าซึ้ง รวมถึงตื่นเต้นจนตัวสั่นเสียงสั่น เพราะฉะนั้นควรจะเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด

เพื่อการกล่าวที่ไหลลื่น เราต้องฝึกซ้อมให้คล่องจนเข้าใจจริง พูดออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ อาจลองกล่าวให้ผู้อื่นฟังแล้วขอคอมเมนต์มาเพื่อปรับแก้และปรับปรุง ส่วนสคริปต์ในมืออาจจะพิมพ์หรือเขียนลงบนการ์ดที่ขนาดเหมาะมือแทนที่จะใช้กระดาษ A4  เวลากล่าวให้ควบคุมลมหายใจให้ดี ถ้าคอนโทรลได้เยี่ยมก็จะทำให้ตื่นเต้นน้อยลงไปเยอะ

ตั้งใจหน่อย อย่าปล่อยเซอร์

ภาพจาก i’m a tjlc mess – Tumblr

หลังจากซ้อมมาดีแล้ว เตรียมบทพูดแล้ว ให้ทบทวนอีกครั้งว่าสิ่งที่เรากำลังจะพูดมันเหมาะสมและถูกที่ถูกทางแล้วใช่มั้ย กรองอีกครั้งว่าเรื่องราวที่เตรียมมาควรพูดใช่หรือไม่ ทางการแค่ไหน มุกที่เตรียมไว้มันจะเวิร์กหรือเปล่า และก็อย่าลืมว่าการเป็น best man นั้นไม่โดดเดี่ยว เรายังมีเพื่อนเจ้าบ่าวคนอื่น ๆ รวมถึงเพื่อนเจ้าสาวอีกด้วย การกล่าวในบางตอนอาจกล่าวแทนผู้อื่นตามความเหมาะสม

ในฐานะที่เป็น best man เราควรจะเป็นตัวแทนในการกล่าวขอบคุณ และมอบของขวัญแสดงความยินดีต่อคู่บ่าวสาว อาจรวมถึงการอ่านข้อความอวรพรจากผู้ที่ไม่สามารถมาร่วมงานได้ ที่สำคัญที่สุด อย่าสบถ หยาบคาย หรือติดเรทจนเกินงาม อย่าลืมว่าภายในงานมีแขกแทบจะทุกเพศทุกวัย

อย่าเมาแอ๋

เป็นเรื่องปกติ เวลาที่เรารู้สึกตื่นเต้น เรามักจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยความเร่งที่มากกว่าปกติ แถมภายในงานยังมีเสิร์ฟไม่อั้น ทำเอาเมาได้ง่าย ๆ  สุดท้ายอาจทำให้สติไม่เต็มร้อย ไอ้ที่ซ้อมมาพังหมด พูดอะไรไม่รู้เรื่อง ไม่ก็หลุดทั้งพฤติกรรมและการกระทำที่ดูไม่ค่อยเข้าท่าออกไป เพราะฉะนั้นทางที่ดีควรจะดื่มแค่น้ำเย็น ซึ่งผลวิจัยบอกว่าช่วยลดความตื่นเต้นได้ แต่ถ้าจะดื่มเครื่องดื่มให้พอลื่น อาจเป็นแชมเปญสักแก้วแล้วพอเลย

ข้อควรระวังอีกอย่างหนึ่งก็คือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้คุณปากคอแห้งขณะกล่าว มันทำให้คุณตื่นเต้นน้อยลงก็จริง แต่มันก็ทำให้คุณมั่นใจในตัวเองมากเกินไป อดใจไว้ หลังจากกล่าวเสร็จค่อยไปกระดกชนหมดกันให้เต็มที่ อาฟเตอร์ปาร์ตี้ยังรออยู่

เปิดด้วยประโยคโดนใจ

ภาพจาก Wired

การเริ่มต้น speech ที่ดี ควรจะมีประโยคที่ดึงดูดผู้ฟังได้ แนะนำให้เป็นประโยคชวนขำอย่างสร้างสรรค์ก็ดี แขกในงานจะได้หันเหความสนใจจากอาหารหลากหลายมาสู่ชายที่กำลังกล่าวเช่นคุณ อาจศึกษาจากการอ่านหนังสือเยอะ ๆ หรือดูบทพูดของเพื่อนเจ้าบ่าวในภาพยนตร์หรือซีรีส์ แล้วนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับงานมงคลในบ้านเรา พอเริ่มต้นพูดได้ดีแล้ว คุณจะรู้สึกผ่อนคลายขึ้น ประโยคที่ตามมาก็จะไหลลื่น

แม้ว่าภาษาจะทางการแค่ไหนก็ควรจะใช้โทนเสียงที่สร้างบรรยากาศที่เป็นมิตร จะได้ดูไม่จริงจังเกิน บางคนอาจจะใช้การฉายสไลด์ประกอบการพูดก็ได้ แต่บอกไว้เลยว่า อย่าเอาภาพตอนปาร์ตี้สละโสดมาประกอบการ speech เด็ดขาด เพราะเจ้าบ่าวอาจเดือดร้อน (ฮา)

จบให้สวย

เมื่อเปิดฉากกล่าวอย่างสวยงาม ร่ายประโยคที่หลายหลายน่าฟัง รวบตึงด้วยบทสรุปคม ๆ แล้ว ก็ต้องปิดด้วยความประทับใจ สูตรสำเร็จก็คือการเชิญให้ทุกคนยืนขึ้นดื่มพร้อม ๆ กันเพื่อเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ถือเป็นการปิดท้ายที่เรียบง่ายและยิ่งใหญ่ แถมไม่ต้องทำอย่างโดดเดี่ยว แต่ก็ต้องดูจังหวะให้ดี สังเกตดูว่าแขกทุกคนในงานมีแก้วพร้อมเครื่องดื่มแล้วในมือหรือยัง ถ้าทุกคนพร้อมก็ค่อยให้สัญญาณดื่มพร้อม ๆ กัน

หาตัวช่วย

ถ้ารู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อมเท่าที่ควร อย่าไปอายถ้าจะต้องหาตัวช่วย อาจขอให้เพื่อนของคุณที่เขียนเก่ง ๆ ช่วยร่าง speech ให้ ไม่ก็หาแนวทางการวางโครงเรื่องในโลกออกไลน์ หากรู้สึกตื่นเต้นจนเครียด ก็หากิจกรรมผ่อนคลายความเครียดซะ แต่เชื่อเถอะว่า เมื่อถึงเวลาจริง ๆ  ทุกอย่างจะออกมาโอเคเพราะความยินดีที่คุณมีต่อเพื่อน สิ่งที่ตั้งใจเตรียมตัวมามันจะเห็นผลแน่นอน

เชื่อว่าวิธีการกล่าว speech ที่เรานำมาแชร์ให้ลองนำไปใช้กันน่าจะช่วยให้หนุ่ม ๆ มีความมั่นใจมากขึ้นในการทำหน้าที่เพื่อนเจ้าบ่าว รวมถึงการกล่าวสุนทรพจน์ในโอกาสอื่น ๆ ด้วย นอกจากการเตรียมคำพูดดี ๆ แล้ว อย่าลืมดูแลตัวเองและการแต่งกายให้ยอดเยี่ยมด้วย แม้ว่างานนี้คุณจะไม่สามารถหล่อหน้าเด้งเกินเจ้าบ่าวได้ แต่ก็เท่น่าดูในสายตาเพื่อนเจ้าสาวได้เหมือนกัน

SOURCE

PEERAWIT
WRITER: PEERAWIT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line