เงยหน้าขึ้นมาคุยกัน : 5 วิธีที่จะช่วยให้เราพักการใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์

กลายเป็นชีวิตประจำวันและความเคยชินของทุกคนไปแล้วสำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อการทำงานและความบันเทิง แค่คลิกเดียวก็สามารถพาเราเข้าไปส่องรูปสาวบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก แชทดีลทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ดูคลิปเป็นล้านใน YouTube หรือเพลินกับซีรี่ส์จนถึงเช้า แหม่ อะไรมันจะสะดวกและฆ่าเวลาได้ดีขนาดนี้

ผลการสำรวจของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA (เอ็ตด้า) เมื่อปี 2560 บอกเราว่า คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ยในวันทำงานหรือวันเรียนหนังสือ 6 ชั่วโมง 30 นาทีต่อวัน วันหยุด 6 ชั่วโมง 48 นาทีต่อวัน หรือประมาณ 1 ใน 4 ของวัน โดยชาว Gen Y หรือกลุ่มคนที่เติบโตมากับคอมพิวเตอร์ในยุคที่อินเทอร์เน็ตแพร่หลายแล้ว (เกิดระหว่าง พ.ศ. 2523 – 2543) เป็นกลุ่มที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากกว่า 7 ชั่วโมงต่อวัน

ตัวเลขที่ออกมาบอกอะไร ? ง่าย ๆ เลย เราไม่ค่อยรู้ตัวหรอกว่าเราวาร์ปเข้าไปอยู่บนโลกออนไลน์นานแค่ไหนต่อวัน เพราะมันโคตรจะเพลิน มองอีกมุมมันก็อาจจะฆ่าเวลาดี ๆ ของหนุ่ม ๆ อย่างเราได้เช่นกัน แถมถ้าติดโลกโซเชียลมากเกินไปอาจทำให้เราขาดแรงจูงใจในการทำกิจกรรมบนโลกความจริง ทั้งการเข้าสังคม, ฟิตร่างกาย, ทำงาน และการพัฒนาตัวเอง หากดำดิ่งมากเกินไปอาจทำให้เกิดความเครียด, ซึมเศร้า และวิตกกังวลได้ ก่อนที่จะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี ทีมงาน UNLOCKMEN มีวิธีที่จะช่วยให้พวกเราถอนตัวจากทัวร์บนโลกออนไลน์มาฝากกัน 

กำหนดช่วงเวลาที่ใช้อินเทอร์เน็ตแค่เรื่องงาน

เอาหละ ลองเริ่มจากการกำหนดไปเลยว่าเราจะใช้อินเทอร์เน็ตแค่เรื่องงานในช่วงเวลานี้ เช่น 9:00 น. – 12:00 น. และ 13:00 น. – 18:00 น. แหนะ โหดเกินใช่ไหม ? ถ้าอย่างนั้นลองเปลี่ยนมาเป็นใช้เฉพาะเรื่องงานอย่างต่ำ 20 – 30 นาที ค่อยแวบไปเลื่อนดู feed ใน Facebook สักที สลับกับยืดเส้นยืดสาย ดื่มน้ำ หาอะไรลงท้องบ้างก็ดี ถ้าอยากลองทำจริง ๆ เราแนะนำให้ใช้แอพจับเวลาเป็นตัวช่วยไปเลย

หันหลังให้กับเว็บไซต์

สุดสัปดาห์นี้หาสักวันนึงออกไปข้างนอก ออกไปแฮงเอาต์กับเพื่อน ไม่ก็เข้าสวนสาธารณะไปนั่งอ่านหนังสือแบบศิลป์ ๆ พบปะผู้คนใหม่ ๆ แทนที่จะนั่งท่องเว็บไซต์อยู่บ้าน การย้ายก้นตัวเองออกมาจากหน้าจอจะช่วยสร้างพลังบวกให้กับร่างกายและจิตใจ เติมเต็มความรู้สึก แถมยังลดอาการเสพติดโลกออนไลน์ได้แบบเนียน ๆ เล่าให้เห็นภาพก็คงจะเปรียบเปรยได้กับการเอาตัวเองที่เดินวนอยู่แต่ในสมองของตนเองออกไปเดินเล่นในโลกกว้าง นั่นไง เริ่ม “อยากออกไปมองฟ้าและน้ำที่กว้างใหญ่” แล้วใช่ไหม (ท่อนหนึ่งจากเพลง See Scape ศิลปิน Scrubb)

ใช้แอพช่วย

เวลามีทางเลือก เรามักจะเลือกทางที่สบายกว่า เช่น เวลาสัญญาณนาฬิกาปลุกในสมาร์ทโฟนดัง ปุ่มแรกที่กดคือ snooze เวลาตั้งใจจะออกกำลังกายก็ชอบคิดว่า “พรุ่งนี้ก็ได้” เพราะฉะนั้นจำกัดทางเลือกตัวเองไปเลย ลองใช้แอพที่ช่วยจำกัดการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กหรือกิจกรรมออนไลน์ของคุณได้ชั่วคราว เช่น Freedom, Concentrate, LeechBlock, FocusWriter และ FocusBooster แอพเหล่านี้สามารถช่วยคุณได้ ส่วนคุณก็สามารถช่วยตัวเองได้โดยนำโทรศัพท์มือถือไปวางไว้ไกล ๆ ตอนกำลังทำงาน

หักห้ามใจ

เชื่อว่าหลายคนเป็น การอยู่ห่างจากโลกออนไลน์มันช่างเหมือนกับการต่อสู้กับสิ่งยั่วยุอื่น ๆ เหมือนกับการข่มใจเลิกสูบบุหรี่ เลิกเหล้าเบียร์ งดของมัน อาบน้ำเย็นแทนน้ำร้อน แน่นอนว่าแรก ๆ มันจะยากหน่อย แต่พอค่อย ๆ ปรับแบบไม่หักดิบเดี๋ยวก็ได้ผล ลองตัดขาดจากโลกออนไลน์แค่วันละ 30 นาที ทำทุกวันเดี๋ยวความรู้สึกจะปรับได้ตามธรรมชาติเอง 

สร้างชีวิตใหม่แบบออฟไลน์

Brain Tracy กูรูด้านการพัฒนาตนเองแนะนำแบบ minimal ว่า หนทางที่จะกำกัดด้านลบก็คือสร้างด้านบวก ถ้าคุณต้องการลดการเสพติดโลกออนไลน์ ก็แค่หากิจกรรมปลุกจิตวิญญาณทำในโลกของความจริง เช่น ถ่ายภาพ,  ปีนเขา, ปลูกป่า, เที่ยวสไตล์แอดเวนเจอร์, เล่นกีฬา, เขียนหนังสือ หรือเข้าคอร์สฝึกทักษะที่ตัวเองอยากเติมให้เต็ม แต่ต้องเป็นกิจกรรมที่คุณชอบมันนะ จะได้ไม่เบื่อซะก่อน

ทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสีย อินเทอร์เน็ตก็เช่นกัน ลองบาลานซ์ชีวิตในโลกความจริงและออนไลน์ให้พอดีตามวิธีที่แนะนำดูครับ น่าจะช่วยให้เราเงยหน้าขึ้นมาคุยกันได้มากขึ้น หลังจบประโยคนี้แล้วออกไปใช้ชีวิตจริงกันดีกว่า ลุยเลย !    

SOURCE 1 / SOURCE 2