“ไม่ลา ไม่เที่ยว จะทำงาน” สถิติเผยคนไทยลาพักร้อนน้อยติดอันดับโลก

การทำงานเป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องพบเจอกันเป็นปกติ และก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ตั้งตาคอยวันหยุดช่วงเทศกาลต่าง ๆ รวมถึงวันลาพักร้อนของตัวเองด้วย แต่ดันผลสำรวจที่น่าตกใจว่าคนไทยลางานน้อยติดอันดับและยกเลิกทริปเที่ยวเป็นอันดับหนึ่งของโลก เหตุการณ์เหล่านี้มันเกิดขึ้นเพราะอะไร ? คนไทยบ้างานหรือว่ามีเหตุผลอื่นที่ทำให้เราไม่อยากลาไปเที่ยว

Mitty

เป็นธรรมเนียมปฏิบัติทุกปีสำหรับเว็บไซต์ Expedia ที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์ทั้งโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน แพ็เกจเที่ยวบินและโรงแรม เช่ารถและกิจกรรมท่องเที่ยว จัดสำรวจพฤติกรรมกลุ่มนักท่องเที่ยวพนักงานประจำทั่วโลกซึ่งปีนี้พบว่า คนกลุ่มนี้รู้สึกไม่อยากลาพักร้อนเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ๆ ถึง 53% โดยมีสาเหตุหลักคือเรื่องงานที่ติดพันจนหาเวลาไปเที่ยวไม่ได้ รวมถึงปริมาณงานจำนวนมหาศาลที่รอต้อนรับเราหลังจากจบทริปที่ทำให้พอนึกถึงก็ยิ่งทำให้ไม่อยากลา รวมถึงเผยสถิติน่าตกใจว่าไทยติดอันดับ 7 ประเทศที่ลาพักร้อนน้อยที่สุดในโลก

นอกจากผลสำรวจการใช้วันลาแล้วทาง Expedia ยังสำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมการเที่ยวของมนุษย์เงินเดือนปี 2018 ว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวไทยมักเลื่อนการจองที่พักหรือยกเลิกทริปกลางคันสูงถึง 75% ด้วยสาเหตุติดงาน มีงานเข้ากะทันหันที่ลาไม่ได้จริง ๆ และด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งของโลกด้านการเททริป ส่วนอันดับสองที่บ้างานจนต้องยกเลิกทริปเที่ยวรองจากไทยคือยูเออี ตามมาด้วยอินเดีย เม็กซิโก เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และฮ่องกงตามลำดับ 

visual ioner

japan times

วลีที่ว่า “คนไทยเป็นคนขี้กังวลและคิดเยอะ” ถือว่าเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริง เพราะวันลาพักร้อนของคนไทยเฉลี่ยที่ 10 วันต่อปี แต่ส่วนใหญ่มักใช้วันลาพักร้อน 8 วัน จากทั้งหมด 10 วัน ด้วยเหตุผลว่าเผื่อวันลาเอาไว้หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน รวมถึงเหตุผลเรื่องงานรัดตัวที่ทำให้หาวันลาดี ๆ ไม่ได้ หรือสาเหตุที่ว่าหากเราลางานคนที่เหลือในที่ทำงานจะต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น และแน่นอนว่าอาการขี้กังวลและขี้เกรงใจทำให้เราใช้วันลาของตัวเองไม่หมดเสียที 

แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนไทยจะทำงานหนักเหมือนหุ่นยนต์เสมอไป เพราะมีหลายคนที่ใช้วันลาได้ครบตามกำหนดของตัวเอง แต่ตอนเที่ยวก็หมั่นเช็กอีเมลงานไปด้วย ซึ่งนักจิตวิทยาได้ออกมาพูดถึงนิสัยเช็กอีเมลในวันลาพักร้อนว่าจะเสี่ยงให้ทำให้เกิดความเครียดมากกว่าเดิม โดยการเช็กเมลตอนเที่ยวมักเกิดกับคนญี่ปุ่นราว 61% ส่วนคนไทยจะอยู่ที่ 30% กลับกันกลุ่มมนุษย์ทำงานยุโรปจะใช้วันหยุดของตัวเองอย่างคุ้มค่าอย่างเช่นชาวเยอรมันจะเช็กเมลเพียง 16% ส่วนชาวเดนมาร์กใช้เวลากับการเปิดเมลอยู่ที่ 8% เท่านั้น 

เรื่องเงินก็มีส่วนทำให้เราไม่อยากไปเที่ยว 

Forbes

เราทุกคนคงรู้สึกได้ว่าเศรษฐกิจช่วงนี้ค่อนข้างฝืดเคือง ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือน คนที่เป็นเจ้านายตัวเอง พ่อค้าแม่ค้าไปจนถึงเกษตรกรต่างรับผลกระทบจากระบบเศรษฐกิจด้วยกันทั้งนั้น ผลสำรวจจากมหาวิทยาลัยรังสิตกล่าวว่าคนไทยร้อยละ 20% ร่ำรวยขึ้น แต่คนส่วนใหญ่อีก 80% กลับจนลง เป็นผลจากการกระจายรายได้ที่น้อยลงและคนไทยที่มีทุนทรัพย์หันไปลงทุนในต่างประเทศกันมากขึ้น ส่งผลให้การท่องเที่ยวลดลงตามไปด้วยเพราะคนส่วนมากต้องเก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นมากกว่าใช้จ่ายกับการท่องเที่ยว 

ไม่ยอมลางานเพราะคิดว่างานขาดเราไม่ได้ 

Japango

ยอมรับเถอะว่าคนทำงานหลายคนมีความคิดว่าไม่อยากลางาน เพราะหากเราหยุดไปงานที่ทำอยู่จะหยุดชะงักและเดือดร้อนกันเป็นวงกว้าง แต่ถ้าลองคิดอย่างถี่ถ้วนว่าหากเปรียบบริษัทเป็นเครื่องจักรและพนักงานเป็นฟันเฟืองที่มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ทุกคนในองค์กรมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่างกัน เมื่อขาดชิ้นส่วนหนึ่งไปบริษัทสามารถหาอะไหล่มาทดแทนได้เสมอ เพราะเขาคงไม่ยอมปล่อยให้ฟันเฟือนตัวเดียวที่หายไปทำให้บริษัทต้องล้มทั้งหมดอย่างแน่นอน

การขยันทำงานเป็นสิ่งที่ดีและการตั้งใจทุ่มเทกับงานเป็นเรื่องที่ควรยกย่อง แต่อย่าลืมหาเวลาให้ร่างกายได้ชาร์จแบตบ้าง และเมื่อพักผ่อนแล้ว กลับมาทำงานให้เต็มที่อีกทีก็ยังไม่สาย 

ดังนั้น เหล่ามนุษย์ผู้ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย อย่าลืมจัดตารางพักผ่อนของตัวเองกันให้ดีและใช้วันลาให้คุ้มค่าที่สุดกันนะครับ เพราะการให้เวลาตัวเองได้ออกไปผจญภัยนอกออฟฟิศบ้างก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้การทำงานของเราดีขึ้นด้วยเช่นกัน

SOURCE : 1 / 2 / 3