FASHION
ครั้งแรกในไทย เอาใจสาวกแบรนด์นาฬิกาจากสวิส ในงาน The Art of Swiss Timepiece เปิดตัวสุดยอดนาฬิกา
By: LIT June 23, 2017 66405
ผู้ชายกับนาฬิกาข้อมือดี ๆ เหมือนจะเป็นสิ่งที่ขาดกันไม่ได้ นาฬิกาข้อมือถือเป็นไอเท็มที่ช่วยเสริมบุคลิกของชายหนุ่มอย่างเราให้ดูเท่มากขึ้นได้ด้วย วันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN จึงมีงาน The Art of Swiss Timepiece ครั้งแรกในประเทศไทยที่ได้เลือกสุดยอดแห่งนาฬิกา แบรนด์สวิสฯรุ่นล่าสุดส่งตรงจากงาน Baselworld 2017 มาเสนอ บอกเลยว่าสาวกที่ชื่นชอบนาฬิกา ไม่ควรพลาด
ครั้งแรกกับการจัดแสดงสุดยอดนาฬิกา เพื่อเป็นการตอกย้ำคุณค่าและความงดงามในการประดิษฐ์เรือนเวลาจากสวิสเซอร์แลนด์ รวมไปถึงนวัตกรรมเชิงกลไกและเชิงศิลปะ ความเป็นผู้นำด้วยนาฬิกาสวิสเมดแบรนด์ดังที่มาจัดแสดงในบรรยากาศสุดเอ็กคลูซีฟ และยังเป็นครั้งแรกในการจัดแสดงสุดยอดเรือนเวลาที่เปิดตัวในงานนาฬิการะดับโลก Baselworld 2017 (บาเซิลเวิลด์ 2017) จัดมาให้สาวกคนไทยได้ยลโฉมเป็นครั้งแรก ยกขบวนโดยแบรนด์สวิสฯชั้นนำ อย่าง Longines (ลองจินส์), Rado (ราโด), Mido (มิโด), Tissot (ทิสโซต์), Hamilton (แฮมิลตัน) และ CK (ซีเค)
มาจัดแสดงในงาน The Art of Swiss Timepiece (เดอะ อาร์ต ออฟ สวิส ไทม์พีซ) สาวกจะได้พบกับสินค้านาฬิการุ่นไฮไลท์แห่งปี อาทิ Longines Conquest Roland Garros , Rado HyperChrome Match Point , Mido Baroncelli Heritage , TISSOT BALLADE AUTOMATIC , Hamilton Khaki Navy Scuba , Calvin Klein boost
Calvin Klein boost เรือนเวลาที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งสมชายชาตรี มีเสน่ห์ดึงดูดจากการจับคู่กันอย่างลงตัวของสเตนเลส สตีลและ Black PVD เพิ่มความสมบูรณ์แบบด้วยสายหนังสีดำ ตอกย้ำถึงพลังและความมีชีวิตชีวา กันน้ำได้ 30 เมตร ตัวเรือนสเตนเลส สตีล และ สเตนเลส สตีลเคลือบ Black PVD ขัดมัน หน้าปัดสีเงินสลับสีเทา สายหนังสีดำ และตัวเรือนสเตนเลส สตีลเคลือบ PVD pink gold และ Black PVD ขัดมัน หน้าปัดสีดำสลับสีเทา สายหนังสีดำ
ราคา 9,300 บาท
Calvin Klein minimal การกลับมาอีกครั้งของนาฬิการุ่นคลาสสิค จากแรงบันดาลใจของเรือนเวลาวินเทจ Calvin Klein minimal นำเสนอนาฬิกาสำหรับคุณสุภาพบุรุษ ด้วยหน้าปัดที่ออกแบบอย่างเรียบง่ายแต่ให้ความสวยงามสมบูรณ์แบบ นาฬิกา Calvin Klein minimal รุ่นใหม่นี้ มีให้เลือกด้วยกัน 3 สี ได้แก่ PVD สีเทา, ดำ, และน้ำตาล เข้าคู่กันได้ดีกับสายสเตนเลส สตีลถักตาข่ายสีเดียวกัน กันน้ำได้ 30 เมตร ราคา 9,700 บาท
Tissot Ballade นาฬิกาคลาสสิก ด้วยการออกแบบที่หรูหรา มีให้เลือกทั้งสำหรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่มีการนำเทคโนโลยีของ ซิลิคอน บาลานซ์สปริง (Silicon Balance Spring) มาเพื่อช่วยในการต้านแรงแม่เหล็ก ทำให้เครื่องมีความเสถียร และช่วยให้เกิดความเที่ยงตรงแม่นยำของนาฬิกามากยิ่งขึ้น พร้อมยังขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติที่สำรองพลังงานได้ยาวนานถึง 80 ชั่วโมง (Powermatic 80) ทั้งนี้ยังได้ผ่านประกาศนียบัตรรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ของ COSC (Contrôle official Suisse desChronomètres) อีกด้วย หน้าปัดสลักลวดลาย คลูส์เดอปารีส์ (Clous de Paris) บนหน้าปัด เพื่อเพิ่มความสวยงาม ราคา 34,200 – 40,100 บาท
นาฬิกา Baroncelli Heritage รุ่นใหม่ออกแบบมาเป็นคู่สำหรับชายและหญิงโดยเฉพาะให้มีเส้นสายที่บางเบาและบริสุทธิ์ หน้าปัดสีขาวลายเกรนดูมีราคาบรรจุอยู่ในตัวเรือนสเตนเลสสตีลที่ทำสีทูโทนด้วยการเคลือบสีชมพูบางส่วนโดยกระบวนการพีวีดี ความบางเป็นพิเศษของตัวเรือนนี้ทำให้ Baroncelli Heritage เป็นนาฬิกาที่บางและเบาที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด สายนาฬิกาสตีลขัดเงาก็มีการทำสีทูโทนด้วยการเคลือบสีชมพูบางส่วนโดยกระบวนการพีวีดีเช่นกัน และสวมใส่สบาย โอบรับกับข้อมือจนเป็นเหมือนกับผิวหนังอีกชั้นหนึ่งของร่างกาย นาฬิกาทั้งสองรุ่นนี้ใช้เครื่องแบบขึ้นลานอัตโนมัติจึงบ่งบอกถึงความเป็นเลิศในการประดิษฐ์นาฬิกาแบบดั้งเดิมของ Mido ได้เป็นอย่างดี ดีไซน์ที่สง่างามแบบไม่ฟุ้งเฟ้อของนาฬิกา Baroncelli ทั้งสองรุ่นนี้จะต้องเป็นที่ชื่นชอบของคู่รักที่ต้องการเรือนเวลาสุดคลาสสิกสักคู่หนึ่งเพื่อเป็นเครื่องหมายแทนความสัมพันธ์อันหวานซึ้งของตน ราคา 41,300 บาท
ODC X-03 คือผลงานสร้างสรรค์ลำดับที่สาม ต่อจากนาฬิการุ่น X-01 และ X-02 ซึ่งเปิดตัวในปี 2006 และ 2009 ตามลำดับ ที่มีต้นกำเนิดมาจากภาพยนตร์เรื่อง 2001: A Space Odyssey ของ สแตนลีย์ คูบริก (Stanley Kubrick) กล่าวได้ว่าทั้งสามเรือนนั้นต่างได้รับแรงบันดาลใจจากหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทรงอิทธิพลและยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เพื่อเป็นการตอกย้ำเจตนารมณ์ต่อจาก X-02 ทำให้นาฬิการุ่น ODC X-03 ทำงานด้วยกลไกขึ้นลานที่แตกต่างกันสามกลไก (กลไกอัตโนมัติหนึ่งกลไก และกลไกระบบควอตซ์สองกลไก) ภายใต้ตัวเรือนทรงหกเหลี่ยมขนาด 49 X 52 มม. ที่แข็งแรงทนทานขนาด ผลิตจากวัสดุไทเทเนียม และเคลือบผิวแบบ PVD สีสเปซแบล็ค ราคา 133,500 บาท
RADO นาฬิกาในคอลเลคชั่น HyperChrome ของ Rado ก็เป็นที่คุ้นตากันในเรื่องของความสปอร์ตและความมีชั้นเชิงอยู่แล้ว แต่ในครั้งนี้ Rado ยังได้ยกระดับความสปอร์ตไปอีกขีดขั้นหนึ่งด้วยการแกะสลักสเกลแทคคิมิเตอร์ลงบนขอบตัวเรือนแบบขัดเงาโดยตรง นอกจากนี้ ความเงางามดุจโลหะที่ไม่เหมือนใครของวัสดุพลาสมาไฮเทคเซรามิกยังทำให้เจ้าของสามารถสวมนาฬิกาเรือนนี้ตรงจากสนามเทนนิสไปงานเลี้ยงอาหารค่ำหรือแม้แต่อีเวนท์พรมแดงได้ทันที โดยไม่ต้องเปลี่ยนเรือนเวลาคู่กายแต่อย่างใด ราคา 167,600 บาท
นอกจากนั้นยังไม่พอ ในงานยังมีโปรโมชั่นสุดพิเศษผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน และของรางวัลมากมาย เฉพาะภายในงานเท่านั้น
พบกับกิจกรรมงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็น Paper cutting และ Portrait Painting จากศิลปินชื่อดัง ลิ้มรสกาแฟและไอศครีมชั้นนำของสวิสฯ พร้อมกันนี้ยังจะได้พบกับ Watch Maker มืออาชีพ มาบริการตรวจเช็คนาฬิกาให้กับผู้เข้าชมงานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย
ความพิเศษสุดทั้งหมดนี้อยู่ในงาน The Art of Swiss Timepiece ที่จัดขึ้น ณ ชั้น M สยามพารากอน ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2560