สิ่งสำคัญที่ต้องคิดให้ดี ก่อนตัดสินใจประเดิมรอยสักแรกบนร่างกาย

หลายครั้งที่เราเขียนบทความเกี่ยวกับรอยสัก ไม่ว่าจะเป็น ความหมายที่ซ่อนไว้ จนไปถึงเรื่องความเป็นมาของวัฒนธรรม-ศิลปะบนร่างกายชนิดนี้ อย่างที่เราพูดอยู่เสมอว่า สังคมในทุกวันนี้ มีมุมมองในเรื่องของรอยสักเปลี่ยนไปจากเดิมอยู่มากเลยทีเดียว คนส่วนใหญ่เริ่มจะเข้าใจ และไม่ได้มองว่า การสักเป็นเรื่องที่เลวร้ายอย่างในอดีตที่ผ่านมา ดังนั้น ทั้งจำนวนร้านสัก และผู้ใช้บริการ จึงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ  จนบางใครมันดูกลายเป็นเรื่องง่ายที่ใครสักคน จะตัดสินใจเดินหน้าเข้าหาร้านสักได้อย่างรวดเร็ว

แต่ด้วยการตัดสินใจแบบง่ายๆ และรวดเร็วนี่แหละ ที่ทำให้หลายคนต้องเจอกับประสบการณ์ไม่ดีที่ติดตัวไปตลอดชีวิต เพราะขึ้นชื่อว่า รอยสัก มันก็ต้องเป็นอะไรที่อยู่ติดตัวเราไปจนตายอยู่แล้ว วันนี้เราจึงนำเอาขั้นตอนการปฎิบัติ และเรื่องที่ควรรู้ ก่อนที่คุณคิดจะเดินเข้าไปนั่งอยู่บนเก้าอี้ของร้านสักมาให้ได้ดูกันว่า คุณควรจะเตรียมตัวอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาในภายหลัง อีกทั้งยังมั่นใจได้เลยว่า คุณจะได้รอยสักที่ดีมีคุณภาพที่สุดให้กับตัวคุณเองอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังมีแพลนจะไปสักอยู่พอดีล่ะก็ สิ่งที่เราจะนำเสนอต่อไปนี้ จะมีประโยชน์กับคุณอย่างแน่นอน

1. Pick the right spot.

เลือกร้านที่คุณคิดว่าดีที่สุดให้กับตัวเอง งานสักถือเป็นงานบริการอย่างนึง ดังนั้น การบริการ และการปฎิบัติตัวของช่างสัก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณสามารถนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจว่า ร้านนี้ใช่สำหรับคุณรึเปล่า ถ้าคุณรู้สึกว่า มันยังไม่ถูกใจ อย่างเพิ่งรีบร้อน ยังมีร้านสักอีกมากมายที่คุณสามารถเข้าไปพูดคุย ดูผลงาน ดูสถานที่ก่อนตัดสินใจทำมัน และถ้าหากคุณเป็นคนที่ค่อนข้างขี้เกียจ ทุกวันนี้ร้าน และช่างสักส่วนใหญ่ก็มักจะมี Portfolio ใน Instagram หรือ Facebook มาให้ได้ชมฝีไม้ลายมือ และสไตล์การสักกันก่อน ถ้าถูกใจแล้วค่อยติดต่อกันอีกทีก็ยังได้ ดังนั้น อย่าใจร้อน หรืออย่าคิดว่า ไปสักร้านไหนก็ได้ งานออกมาก็คงเหมือนกันหมดเป็นอันขาด

2. Look for an artist who shares your aesthetic sensibilities.

สมมุติว่า คุณชอบ และอยากได้รอยสักที่ดูมีความเก่าคลาสสิคออกแนวเรโทรๆ คุณจะต้องมองหาร้าน และช่างสักที่ถนัดงานสไตล์ Old School เป็นพิเศษเอาไว้ก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ใช่เพราะว่า ร้านอื่น หรือช่างสักคนอื่นๆ ที่ไม่ถนัดงานแนวนี้ จะไม่สามารถสักมันให้กับคุณได้ เพียงแต่ว่า งานที่ออกมาอาจจะดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเมื่อเทียบกับช่างที่มีความถนัด และอินกับสไตล์นี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วเท่านั้นเอง ดังนั้นการหาช่างที่มีสไตล์ตรงกับสิ่งที่คุณต้องการ จึงเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างนึงที่คุณควรใส่ใจ และห้ามมองข้ามเป็นอันขาด ถึงแม้อาจจะต้องใช้เวลาเสาะหามากขึ้นหน่อย แต่ว่าชัวร์กว่าแน่นอน

3. Treat your ink as an investment.

เรื่องของราคาก็เป็นอีกสิ่งนึงที่ควรคิดถึงเอาไว้ สำหรับค่าใช้จ่ายในการสักนั้น อาจจะมีทั้งแบบการตีราคาจเป็นงานๆ ไปจ่ายรวดเดียวจบ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นงานที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก และสามารถจบได้ภายในครั้งเดียว ส่วนอีกแบบนึงก็คือ คิดตามชั่วโมงในการสัก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานที่มีขนาดใหญ่ ใช้เวลาเป็น 10 ชั่วโมง และไม่สามารถทำให้เสร็จได้ภายในครั้งเดียว นอกจากนี้ร้านสักดังๆ หรือช่างสักที่ฝีมือดีมีผลงานส่วนใหญ่ ก็นิยมใช้การคิดราคาเป็นรายชั่วโมงเช่นเดียวกัน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หลายคนชอบต่อรองขอลดราคา นั่นเป็นสิ่งที่เราอยากจะขอเตือนเอาไว้เลยว่า ไม่ควรจะทำมันสักเท่าไหร่ เพราะการต่อราคาในบางครั้ง สำหรับช่างบางคน มันก็อาจจะส่งผลไปถึงกระทบต่ออารมณ์ในการทำงาน จนคุณอาจจะได้รับรอยสักที่ไม่ดีเท่าที่ควรได้ ดังนั้น เราจึงอยากให้คุณโฟกัสกับฝีมือ และคุณภาพฝีมือของช่างซะมากกว่า

4. Go to a pro.

จริงๆ แล้ว เรื่องนี้อาจจะไม่ต้องพูดถึงก็ได้ เพราะเราเชื่อว่า คงจะไม่มีใครอยากให้คนสักไม่เป็นมาสักให้อย่างแน่นอน แต่ที่ต้องพูดนั่นก็เพราะว่า มันก็ยังมีคนอยู่ประเภทนึง ที่ยอมให้เพื่อนที่เพิ่งหัดสัก แต่ร้อนวิชามาลองผิดลองถูกกันแบบไม่กลัวเละเทะ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ผลที่ได้นอกจาก อาจจะออกมาไม่เหมือนกับที่คุยกันไว้ตอนแรก มันยังทำให้คุณเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้อย่างง่ายดายอีกด้วย จำเอาไว้ว่า ร้านสักที่ดี และสะอาดปราศจากเชื้อโรคนั้น มักจะมีกลิ่นเหมือนกับโรงพยาบาลอบอวลอยู่เสมอ

5. Choose your ink wisely.

การเลือกตำแหน่งในการสัก ก็เป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจให้ถูกต้องเช่นเดียวกัน เพราะเมื่อคุณสักมันแล้ว มันก็จะติดอยู่ตรงนั้นไปตลอด จนคุณตายไปแล้วมันก็ยังคงอยู่ ถ้าหากร่างไม่ถูกเผาไปซะก่อน ดังนั้น ถ้าหากคุณไม่มั่นใจว่า ตำแหน่งที่คุณจะสักนั้นดี หรือไม่ แนะนำให้ลองปรึกษากับช่างสักก่อนจะดีที่สุด เพราะด้วยประสบการณ์ และความชำนาญจากการที่คลุกคลีอยู่กับมันทุกๆ วัน ช่างสักเหล่านี้ต้องเคยเห็นรอยสักผ่านตามาแทบจะทุกตำแหน่งบนร่างกายอยู่แล้ว ดังนั้น ปรึกษาให้ดี อย่างตัดสินใจเพียงคนเดียว ลองคุยหาตำแหน่งที่คุณเองก็พอใจ ตัวช่างก็รู้สึกว่า ดูเหมาะสมจะดีกว่า

6. Consider your career.

คำนึงถึงการใช้ชีวิตให้ดี ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทำงานที่ต้องการความน่าเชื่อถือ ทำงานรับราชการ เป็นครู หรือเป็นหมอ คุณไม่ควรที่จะเลือกสักในตำแหน่งนอกร่มผ้าอย่างเด็ดขาด แต่ถ้าหากคุณเป็นคนที่ทำงานอยู่ในสายอาชีพที่ค่อนข้างอิสระ คุณก็อาจจะไม่ต้องคำนึงถึงการปกปิดที่เข้มงวดมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม ต้องคิดให้ดีจริงๆ และคิดเผื่อยาวๆ ไปในอนาคตเสมอ เพราะไม่แน่วันนึง คุณอาจจะต้องเปลี่ยนอาชีพกระทันหัน มันจะทำให้มีปัญหา และเสียโอกาสในการทำงานไปอย่างน่าเสียดาย

7. When in doubt, opt for the classics.

คุณอาจสงสัยว่า รูปที่จะสักมันไว้บนร่างกาย มันโอเคจริงรึเปล่า? ให้คุณลองย้อนกลับไปถามตัวเองก่อนว่า คุณชอบมันจริงหรือไม่ ถ้าหากว่าคุณชอบมัน ทุกอย่างก้ไม่มีปัญหา คุณไม่จำเป็นจะต้องแคร์สายตาคนรอบข้างแต่อย่างใด คุณอาจจะสักรูปโลโก้ของร้านอาหาร หรืออะไรก็ตาม ถ้าคุณพอใจ และมันมีความหมายกับคุณมากพอ ที่จะจารึกมันไว้บนเรือนร่าง อันนั้นก็ถือเป็นความชอบส่วนตัวใครจะมาว่าคุณได้กันล่ะ

8. Charm your artist.

การสักคุณต้องเตรียมใจที่จะเจ็บตัวไปให้พร้อม ช่างสักบางคนอาจจะตั้งใจก้มหน้าก้มตาสักคุณไปเรื่อยๆ ในขณะที่คุณพยายามที่จะพูดคุยกับเค้า และบ่นถึงความเจ็บปวดที่คุณกำลังเผชิญ แต่จงอย่าลืมว่าช่างสักก็กำลังทำงาน เค้าไม่สนใจหรอกว่า คุณบ่นเจ็บกี่ครั้ง เค้าก็จะไม่หยุดจนกว่างานของเค้าจะสำเร็จเช่นกัน ดังนั้นลองเปลี่ยนเป็นการพูดคุย แทนการบ่นน่าจะดีกว่า การพูดคุยอาจจะทำให้คุณลดความเจ็บปวดลงได้ แถมยังเป็นการทำความรู้จักกันระหว่างคุณกับตัวช่างให้มากยิ่งขึ้น คุณควรผ่อนคลาย พูดคุยสลับกับการปล่อยให้ช่างสักได้เดินเข็มไปอย่างเงียบๆ มีสมาธิ และไม่สมควรอย่างยิ่ง หากใครที่คิดจะพาเพื่อน พาแฟน พาคนเยอะแยะมากมายไปให้กำลังใจ เพราะนอกจากจะทำให้เกิดเสียงดังวุ่นวาย รบกวนการทำงาน และทำให้ช่างเสียสมาธิแล้ว การพาคนไปเยอะๆ นั้น ไม่ได้ช่วยแชร์ ความเจ็บของคุณให้น้อยลงได้แต่อย่างใด

9. Eat, hydrate, shower and use the can.

ก่อนที่คุณจะต้องไปนั่งๆ นอนๆ รับการเจาะทะลวงผิวหนังจากเข็มที่เต็มไปด้วยน้ำหมึกอย่างต่อเนื่องนาน 1-2 ชั่วโมง ก่อนที่จะมีโอกาสได้พักเบรคให้ได้หายใจหายคอ ซึ่งช่างสักเองก็จะได้ยืดเส้นยืดสายให้หายเมื่อย คุณควรจะเตรียมตัวมาให้พร้อมสมบูรณ์ อาบน้ำทำความสะอาดผิวมาให้ดี รักษาสุขภาพผิวให้ชุ่มชื้น เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย ไม่ใช่ว่า สักๆ อยู่ขอลุกไปทำนู่นที นั่นที ทั้งหมดนี้คือ สิ่งที่คุณต้องทำนอกจากการพยายามนั่งนิ่งๆ ต้องอดทนความเจ็บปวดให้ได้ยาวนานที่สุด เพราะการสะดุ้ง หรือขยับเขยื้อนตัวบ่อยๆ อาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดในการสักได้

10. Think of tattooists as a more manly kind of hairdresser.

ช่างสักทุกคนสามารถทำอะไรได้อีกหลายอย่างในแต่ละวัน แต่พวกเค้าเลือกที่จะก้มหน้าก้มตา ใช้เวลาเฉลี่ย 8 ชั่วโมงต่อวัน ในการเดินเข็มสักบนร่างกายคนอื่นๆ พวกเค้าไม่ได้อะไร รอยสักอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต คุณไม่ต้องจ่ายเงินให้กับช่างในปีต่อๆ ไป เพื่อให้มันยังคงติดอยู่บนร่างกายคุณ ดังนั้น เราควรที่จะเคารพ และสุภาพกับผู้ที่ประกอบอาชีพช่างสักทุกคนด้วยเช่นกัน

มีหลายคนที่ดูถูกอาชีพช่างสัก คิดว่าใครก็ทำได้ จึงทำให้ลูกค้าบางคน พูดจากับช่างสักด้วยถ้อยคำที่ไม่น่าฟัง รวมไปถึงการแสดงออกความไม่เคารพ แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาชีพช่างสักนี้ ต้องใช้ความสามารถไม่ต่างจาก อาชีพอื่นๆ ที่ต้องยกย่องเลยแม้แต่น้อย มันต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างยาวนาน และประสบการณ์ที่สั่งสมมามากมายจนคุณคิดไม่ถึง กว่าที่พวกเค้าจะนำมันมาเป็นอาชีพได้ เปลี่ยนความคิดของคุณให้เข้าใจซะใหม่ ก่อนที่จะเดินเข้าร้านสัก จะดีกว่า

ทั้งหมดนี้คือ สิ่งที่ทุกคนควรรู้ไว้ ก่อนที่จะโทรจองคิวช่างสักด้วยซ้ำไป แต่หลายๆ คน กลับไม่เคยคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ พูดง่ายๆ ว่า อยากทำก็ทำเลย ผลสุดท้ายเลยอาจจะออกมาไม่เป็นอย่างที่หวัง ไม่ว่าจะเป็นวิธีการเลือก ร้านที่ปลอดภัย การเลือกช่างให้เหมาะสมกับงานที่เราต้องการ ทุกอย่างมันมีรายละเอียดมากกว่า แค่การนัดคิว และเดินไปนั่งบนเก้าอี้ให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้ มาลงเข็มบนร่างกายคุณ เพราะฉะนั้น ลองคิดตามที่เราบอกดูสักนิด รับรองชีวิตจะไม่รัดทดอย่างแน่นอน

SOURCE