กฎ PHYSICS ช่วยยืนยัน!! ‘ยิงปืนขึ้นฟ้า’ โคตรอันตราย เหมือนสุ่มเป้าให้คนตายโดยไม่ทันรู้ตัว

โลกของเราเคยมีประเพณีฉลองบางอย่าง ที่มนุษย์ใช้วิธีการยิงปืนขึ้นฟ้า ประเพณีที่ว่านี้ ถูกทำตาม ๆ กันไปทั่วทุกมุมโลกโดยที่ไม่มีใครเอะใจว่า จะเกิดผลอะไรตามมาจากความคึกคะนองของคนถือปืน กระสุนจะตกลงที่ไหน ใครคือผู้โชคร้ายคนนั้น ประเพณีดังกล่าวเป็นที่นิยมจากหลายประเทศในหลายวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นทางด้านคาบสมุทร Balkans ในแถบตะวันออกกลาง เอเชียกลาง

การยิงปืนขึ้นฟ้า ถ้าโชคดีก็ไม่มีใครเป็นอะไร แต่ถ้าโชคร้าย มันอาจจะกลายเป็นการฆ่าผู้บริสุทธิ์ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ซึ่งก็มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังมีคนดันทุรังทำมันโดยอาศัยเรื่องบูชาความเชื่อบังหน้าความคึกคะนอง เหมือนกลัวคนไม่รู้ว่า ‘กูมีปืนนะ’ เช่นเดียวกันกับที่เกิดในบ้านเราสด ๆ ร้อน ๆ

กรณี Rock Star รุ่นใหญ่ ขวัญใจใครหลายคน ก็เพิ่งทำตามที่ใจสั่งมา ด้วยการกระหน่ำยิงขึ้นฟ้าเป็นสิบนัด ก่อนเจ้าตัวจะทำการเคลียร์ลำกล้อง ส่องกระสุนลงพื้นเป็นของแถมไปอีก 1 นัด พร้อม Live สดให้ผู้คนได้รับชมถึงความบ้าระห่ำ เป็นหลักฐานในคดีครั้งนี้โดยละม่อม

การกระทำดังกล่าว เราเชื่อว่านอกจากเรา น่าจะมีอีกหลายคนที่ไม่เห็นด้วย และมองว่ามันเป็นการกระทำที่ขาดสติ และไร้ซึ่งความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างหนัก ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น การที่ใครสักคนหนึ่งยิงปืนขึ้นฟ้าอย่างคึกคะนอง ตัวคนยิงเองไม่มีวันรู้หรอกว่า อาจมีใครก็ตามที่อยู่ผิดที่ ผิดเวลา ต้องรับลูกกระสุนที่ตกลงมาจากท้องฟ้าจนโลกมืดดับไป กลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณอย่างไม่ทันตั้งตัว และเมื่อเกิดเหตุแบบนั้น คนทำมักจะลอยนวลไร้ความผิด ไม่รู้แม้แต่ผลกรรมที่ตัวเองได้ก่อเอาไว้

วันนี้ เพื่อเป็นการย้ำเตือนภัยอันตรายของการยิงปืนขึ้นฟ้า ที่ถึงแม้ว่าหลาย ๆ คนจะรู้อยู่แล้วว่ามันอันตราย แต่อาจจะไม่รู้ว่าทำไมกระสุนที่ถูกยิงออกมานั้น ถึงไม่ลอยออกนอกโลก ทำไมมันจึงยังตกลงมาด้วยความแรงถึงขั้นที่ทำให้คนตายได้อีก

กระสุนที่ย้อนตกลงมาหลังจากการยิงปืนขึ้นฟ้านั้น มีความเร็วที่ไม่ต่างกับการถูกจ่อยิงเลย ยกตัวอย่างเช่น ปืน AK-47  ที่หลายคนรู้จัก ด้วยความแรงของมันที่ปล่อยลูกกระสุนออกมาด้วยความเร็ว 2,400 km/h เร็วเป็น 2 เท่าของความเร็วเสียง แม้ลูกกระสุนจะมีน้ำหนักเพียงแค่ 5 กรัม แต่มันมีความรุนแรงเทียบเท่าการปล่อยก้อนหินลงจากความสูงของตึก 30 ชั้น ด้วยความแรงระดับนี้ ถ้าถูกส่งเข้าไปที่พื้นที่จุดเล็ก ๆ แน่นอนว่ามันจะทะลุร่างกายแบบไร้ปัญหา

แล้วการยิงปืน AK-47 ขึ้นฟ้าล่ะ ผลจะเป็นยังไง มีการทดลองยิงปืนขึ้นฟ้าเป็นเส้นตรง ความแรงสามารถส่งกระสุนพุ่งขึ้นไปได้ไกลถึง 3 กิโลเมตรในแนวดิ่งเนื่องจากโลกของเรามีชั้นบรรยากาศและแรงดึงดูด และกระสุนที่ตกลงมาจะด้วยความเร็วราว 241 km/h หรือคิดเป็น 10% ของระยะทาง และเป็นความแรงเพียง 1% จากแรงยิงขึ้นไปเท่านั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่ากระสุนที่ตกลงมาจะได้ค่าแบบนี้เสมอไป เพราะในความเป็นจริง ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่มีผลกับความรุนแรงของกระสุนที่ตกลงมากระแทกร่างกาย

แรงลมที่พัดลูกกระสุนขณะกำลังดำดิ่งแหวกอากาศลงมา สามารถทำให้วิถีกระสุนเปลี่ยนไปได้ไกลถึง 2 ไมล์จากจุดที่ยิง จึงยากจะเดาได้ว่ากระสุนไปตกที่ไหน และมันยังอาจทำให้ลูกกระสุนนั้นหมุน Spin ซึ่งทำให้ช่วยเจาะทะลุผิวหนังได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม รวมถึงวิถีของกระสุนบางชนิด ที่ไม่ได้วิ่งเป็นเส้นตรง แต่ยิงเป็นวิถีโค้ง มันจึงยังมีแรงสะสมที่มากกว่าค่าเฉลี่ย และสุดท้ายคือต้องดูประเภทของกระสุนที่ยิงขึ้นไป เพราะความรุนแรงในการเจาะทะลุร่างกายนั้นมีไม่เท่ากัน

ความเร็วมาตรฐานที่สามารถฉีกผิวหนังของมนุษย์เราให้กระจุยได้นั้น อยู่ที่ 136 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่กระสุนบางชนิดก็ไม่สามารถทำอันตรายเราได้ แม้จะตกลงมาด้วยความเร็วถึง 225 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่ถ้าหากลูกกระสุนนั้นหัวยิ่งแหลมเท่าไหร่ มันยิ่งเจาะทะลุผิวหนังเราได้ง่าย แม้จะตกลงมาด้วยความเร็วน้อยกว่ามาตรฐาน

กระสุนหัวรู (Hollow Point Bullet) แม้จะเจาะทะลุผิวหนังได้ยากกว่ากระสุนหัวแหลม แต่ถ้ามันแรงพอจะทะลุได้ มันจะเป็นกระสุนที่สร้างความรุนแรงได้มากที่สุด กระสุนลูกปรายจาก Shotgun เจาะทะลุผิวได้ที่ความเร็ว 145 ไมล์ต่อชั่วโมง กระสุน .38 Caliber ที่ออกจากกระบอกปืนลูกโม่นั้น ทำอันตรายที่ความเร็ว 130 ไมล์ต่อชั่วโมง ในขณะที่กระสุนขนาด 9mm จะมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 102 ไมล์ต่อชั่วโมง และลูกกระสุนขนาด .30 จะมีความเร็วน้อยที่สุด อยู่ที่ 85 ไมล์ต่อชั่วโมง

นอกจากนี้ยังมีประเภทและบริเวณของผิวหนังที่แตกต่างกัน ก็มีความต้านทานต่อแรงกระสุนแตกต่างกันอีกด้วย โดยส่วนที่ผิวหนังคนเรามีความหนามากที่สุดนั้น เป็นริมฝีปาก ซึ่งหนากว่าผิวหนังบริเวณแก้มอย่างน้อย 50% นอกจากนี้ผิวหนังของเด็กทารก และคนชรา ผิวหนังนั้นจะมีความบางเป็นพิเศษ ซึ่งไม่ต้องสืบให้เสียเวลาว่า ถ้าโดนกระสุนตกจากฟ้าลงมา จะทะลุเข้าไปทำอันตรายถึงชีวิตได้แน่นอน

ถ้าหากคุณจำเป็นจริง ๆ ที่จะต้องยิงปืนขึ้นฟ้า อาจจะด้วยเหตุผลอะไรที่เราก็ยังนึกไม่ออกเหมือนกัน นี่คือวิธีที่จะทำให้เกิดความเดือดร้อนน้อยที่สุดจากการกระทำบ้า ๆ ครั้งนี้

1# ตั้งปืนชี้ขึ้นให้เป็นแนวตั้งตรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนเส้นทางของกระสุนที่จะตกลงมา

2# เลือกใช้กระสุนที่มีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบาที่สุดเท่าที่มี เพื่อลดประสิทธิภาพ และน้ำหนักขณะที่มันตกลงมาสู่พื้นอีกครั้ง

3# ยิงขึ้นไปในที่โล่งห่างไกลผู้คน

4# ไม่ต้องยิง ถามตัวเองก่อนเสมอว่า ‘จะยิงทำไม ไร้สาระ’

สุดท้าย การยิงปืนขึ้นฟ้านั้น ไม่มีอะไรที่จะสามารถบอกได้เลยว่า จะไม่มีใครได้รับอันตรายจากกระสุนที่ถูกยิงออกไปด้วยความสนุกของคุณ ที่เราเห็นในคลิปว่า ยิงเสร็จก็เดินกันสนุกสนานหน้าตาเฉย ก็ตัวคนยิงมันจะไปรู้อะไร ว่าหลังจากนั้นอีกไม่นาน ลูกกระสุนอาจจะไปตกลงหัวกระบาลใครสักคนตายขึ้นมาก็ได้ แต่ฝ่ายที่โดนก็ไม่รู้อยู่ดีว่า กระสุนมาจากไหน

สุดท้ายเราหวังว่าคนที่ทำแบบนี้จะโดนหมายจับเข้าไปกันทั่วหน้า ขอให้เจอของจริง โดนจับคอตกกันให้เข็ดหลาบ จะใจสั่งมาหรืออะไรก็ตาม แต่อย่าสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเลยจะดีที่สุดครับ

SOURCE1, SOURCE2, SOURCE3