World
THE PROFILES: LONE WOLF หรือหมาป่าเดียวดายอาจเป็นแค่หมาป่าจนตรอกที่ไปไม่รอดในสังคม
By: TOIISAN February 18, 2020 175893
การหลบไปทำอะไรตามลำพังบางครั้งบางคราวเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกอยากกินข้าวคนเดียว อยากนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ หรือต่อกันพลา เพราะเราต่างต้องการเวลาส่วนตัวกันทั้งนั้น แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่การกระทำบางสิ่งด้วยตัวคนเดียวส่งผลกระทบร้ายแรงต่อผู้อื่น เมื่อนั้นโลกจะเรียกคุณว่า ‘lone wolf’
ปัจจุบันเรามักพบเจอกับความรุนแรงและการก่อการร้ายในสังคมอยู่บ่อยครั้ง บ้างอาจเป็นทีมหรือลัทธิความเชื่อสุดโต่งก็ร่วมกันวางแผนก่อเหตุสะเทือนขวัญและก็มีหลายครั้งที่เหตุร้ายเกิดขึ้นจากฝีมือคนคนเดียว ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ UNLOCKMEN เริ่มขุดคุ้ยถึงที่มาของคำว่า ‘lone wolf’ ที่เห็นบ่อยครั้งตามหน้าหนังสือพิมพ์ เพื่อหาคำตอบว่าหมาป่าเดียวดายที่ถูกสังคมถีบออกมามีเรื่องราวและความเป็นมาอย่างไร
ความหมายแรกเริ่มของคำว่า ‘lone wolf’ หรือ ‘หมาป่าเดียวดาย’ ไม่ได้ถูกมองแง่ลบเหมือนปัจจุบัน แต่เป็นคำจำกัดความสำหรับเรียก ‘คนที่ชอบทำอะไรคนเดียว’ ไม่ว่าจะกินข้าวคนเดียว ไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวก็สามารถเรียกว่า lone wolf ได้ทั้งนั้น
เมื่อลองสืบหาต้นตอของคำคำนี้จริง ๆ พบว่า lone wolf อ้างอิงมาจากลักษณะนิสัยของหมาป่าที่อยู่กันเป็นกลุ่มก้อนไม่ต่างจากมนุษย์ และเกือบทุกกลุ่มก็มักมีหมาป่าบางตัวที่ถูกขับออกจากฝูง ทำให้นิสัยของหมาป่าเดียวดายส่วนใหญ่ที่ถูกขับ มักชอบลงมือทำอะไรเสี่ยง ๆ เพราะไม่มีทางเลือกมากนัก ถ้าเทียบกับคนสามารถเห็นได้ชัดกับกรณีคนผิวสีอยู่ท่ามกลางคนขาวทำให้คนผิวสีที่เป็นส่วนน้อยรู้สึกแปลกแยก จึงทำให้ความหมายของ lone wolf ออกไปในเชิงลบมากกว่าบวก
ทว่าเมื่อวันเวลาผ่านไปคำว่าหมาป่าเดียวดายไม่ได้แปลว่าคนที่ชอบทำอะไรคนเดียวอีกต่อไป แต่มันกลายเป็นสัญลักษณ์ของ ‘การก่อการร้ายแบบลุยเดี่ยว’ ให้ความหมายเชิงลบดำมืด โดย lone wolf สามารถเป็นใครก็ได้ในสังคม ดำเนินชีวิตปะปนกับคนทั่วไปตามปกติ ไม่เกี่ยงเพศ ไม่มีอายุมาเกี่ยวข้อง ประกอบอาชีพอะไรก็ได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่ใครคนนั้นตัดสินใจลุกออกมาก่อความรุนแรงต่อสังคมเพื่อมุ่งหวังผลประโยชน์ส่วนตน ไม่ว่าประโยชน์นั้นมีเพื่อทรัพย์สิน หรือแค่ตอบสนองความพึงพอใจส่วนตัว จากการก่อความรุนแรงที่ลงมือแค่ตัวคนเดียว ไม่ขึ้นตรงต่อลัทธิหรือองค์กรใด เราจะเรียกเขาหรือเธอคนนั้นว่า lone wolf
แล้วถ้าสมาชิก IS หรือกลุ่มลัทธินีโอนาซีคนหนึ่งออกมาวางระเบิดสถานที่ราชการจะเรียกเขาว่าอะไร ? สื่อทั่วโลกไม่เรียกคนทำตามคำสั่งขององค์กรแม้จะทำภารกิจคนเดียวว่า lone wolf ต่อให้ผู้ก่อเหตุจะเห็นด้วยกับการก่อความรุนแรงแบบเต็มใจก็ตาม แต่เรียกว่า ‘sleeper cell’ แทน เพราะคำว่าหมาป่าเดียวดายใช้กับคนที่ทำทุกอย่างคนเดียวตั้งแต่การวางแผน เลือกจุดก่อเหตุ ไปจนถึงการกราดยิงหรือวางระเบิดที่ทำให้มีคนจำนวนมากได้รับบาดเจ็บ
เมื่อหมาป่าเดียวดายลุกขึ้นมาก่อเหตุสร้างความรุนแรงในสังคม ทำให้คนส่วนใหญ่เกิดความสงสัยใคร่รู้ถึงสาเหตุของการก่อเหตุว่ามีต้นตอจากอะไร ผลการศึกษาจากงานวิจัยทางการแพทย์ประกอบกับข้อมูลสถิติของเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายมาสอบสวน (กรณีจับตายจะสืบจากคนใกล้ตัว) เผยอีกมุมที่น่าสนใจว่าถึงโฆษณาชวนเชื่อของลัทธิประหลาด กระทั่งความศรัทธาแน่วแน่ในศาสนาจะมีน้ำหนักให้คนเปลี่ยนแปลง แต่ก็ไม่ได้เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้คนคนหนึ่งเปลี่ยนตัวเองเป็นหมาป่าเดียวดาย แต่ต้นเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากความทรงจำแย่ ๆ ของตัวเอง
‘lone wolf ส่วนใหญ่มักอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมแย่ ๆ เขาหรือเธออาจถูกกดขี่ ไม่ได้รับความเป็นธรรม คล้ายกับหมาป่าจนตรอกที่ไม่สามารถทำอะไรได้ ก่อให้เกิดความคับแค้นใจจนต้องหาทางแสดงออกในรูปแบบความรุนแรง’
อย่างไรก็ตามเหตุผลอันน่าเศร้านี้ไม่สามารถใช้กับ lone wolf ทุกคน เพราะบางคนที่ไม่ได้มีความคับแค้นใจต่อสังคมก็สามารถคว้าปืนออกมายิงประชาชนกลางถนนตัวคนเดียวได้โดยมีต้นตอมาจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น การนิยมชมชอบความรุนแรง การคลั่งไคล้อาวุธปืนเป็นส่วนตัว มีพฤติกรรมเลียนแบบจากการเสพสื่อใต้ดินโดยขาดคำแนะนำที่เหมาะสมเพราะชอบอยู่คนเดียว ไม่สุงสิงกับใคร
กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Department of Homeland Security) ของสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นหลังเกิดเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน (เหตุการณ์ 911) เผยแพร่รายงานให้ชาวโลกเห็นว่ารูปแบบการก่อการร้ายด้วยคนคนเดียวยังคงมีให้เห็นอยู่ตลอดเวลา ยกตัวอย่างเหตุการณ์ปี 2009 มีเด็กหนุ่มชาวไนจีเรียซุกระเบิดขึ้นเครื่องบินไปยังสหรัฐฯ แต่โชคดีที่สถานการณ์คลี่คลายโดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเพราะลูกเรือและผู้โดยสารบนเครื่องสามารถจับตัวเด็กหนุ่มผู้ก่อเหตุได้ทันก่อนกดระเบิด
หลังจากเด็กหนุ่มถูกจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ สืบหาสาเหตุว่าทำไมชายไนจีเรียคนนี้ถึงคิดพกระเบิดขึ้นเครื่องมายังสหรัฐฯ จากการสันนิษฐานเบื้องต้นว่าเขาทำไปเพราะความเชื่อทางศาสนา เนื่องจากชายผู้นี้นับถือศาสนาอิสลาม แต่ชายคนนี้ยืนยันหนักแน่นว่าเขาวางแผนทั้งหมดคนเดียว สำนักข่าวหลายเจ้าจึงตีข่าวว่าเขาเป็น lone wolf มากกว่า sleeper cell หรืออีกเหตุการณ์ของชายผิวขาวที่ลงทุนเดินทางจากบัลติมอร์ไปยังนิวยอร์กเพื่อสังหารชายผิวสีโดยเฉพาะ ต่อมา NYPD ได้จับกุมเขาพร้อมตั้งข้อหาก่อเหตุครั้งนี้ว่าเขาเป็นหมาป่าเดียวดายเช่นกัน
นอกจากนี้ทางฝั่งยุโรปก็เกิดเหตุร้ายด้วยฝีมือของคนคนเดียวอยู่บ่อยครั้ง ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ในเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ผู้คนกำลังร่วมเฉลิมฉลองวันชาติแต่กลับมีคนขับรถบรรทุกพุ่งชนชาวบ้านที่ออกมาร่วมเฉลิมฉลองวันสำคัญ หรือเหตุยิงกันกลางสนามบินนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ตประเทศเยอรมนีปี 2011 เมื่อชายชาวแอลเบเนียนคว้าปืนพก 9 มม. ยิงเข้าศีรษะของชาวอเมริกันจนเสียชีวิตคาที่ 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีก 3 ราย
ขนาดประเทศยักษ์ใหญ่อย่างอเมริกาผู้นำโลกเสรี รวมถึงประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกที่มีความพร้อมเรื่องการป้องกันภัยก็ยังไม่สามารถจัดการกับปัญหาก่อการร้ายได้ครอบคลุม คงไม่ต้องพูดถึงประเทศเล็ก ๆ ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างประเทศไทยที่ไม่ได้มีองค์กรจริงจังเพื่อตั้งรับเหล่า lone wolf ที่ออกมาก่อเหตุ ทั้งที่นี่คือภัยเงียบควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดไม่น้อยกว่ากลุ่มก่อการร้ายอื่น ๆ ที่ทำงานกันเป็นทีมเลย
lone wolf ที่ตัดสินใจก่อเหตุด้วยตัวเองไม่ว่าจะมีเหตุผลเรื่องสีผิว ศาสนา การเมือง การถูกเอาเปรียบ ไม่เห็นด้วยกับบางสิ่งในสังคม หรือความเกลียดชังส่วนตัว เมื่อพวกเขาก่อเหตุสำเร็จ คนส่วนใหญ่จะให้ความสนใจเขาอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน สื่อต่างจับจ้อง ระหว่างพิจารณาคดีก็มีนักข่าวจำนวนมากมารอถ่ายรูป และการถูกตีข่าวพร้อมชื่อ-นามสกุล รวมถึงใบหน้าของตัวเองจะทำให้หมาป่าเดียวดายรู้สึกถึงพอใจกับการตกเป็นที่สนใจ
ปี 2019 นายกรัฐมนตรีแห่งนิวซีแลนด์ Jacinda Ardern ได้ขึ้นปราศรัยกลางรัฐสภา หลังเกิดเหตุการณ์กราดยิงกลางที่สาธารณะส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทั่วโลกต่างจับตามองเหตุการณ์นี้ สื่อหลายสำนักอยากรู้ว่าเป็นฝีมือใคร คนก่อเหตุชื่ออะไร มีแรงจูงใจใดบ้างทำให้เขาบุกเข้าไปสังหารคนบริสุทธิ์ แต่นายกรัฐมนตรีกลับกล่าวถึงผู้ก่อเหตุว่าเป็นเพียงชายชาวออสเตรเลียวัย 28 ปี ที่จะถูกดำเนินคดีข้อหาฆ่าคนตายและอื่น ๆ ชายคนนี้ต้องการหลายสิ่งจากการกราดยิง หนึ่งในนั้นคือชื่อเสียงแม้จะเป็นด้านลบก็ตาม และโลกจะไม่มีวันได้ยินเธอเอ่ยถึงชื่อของพวกเขา ผู้ก่อการร้ายจะเป็นเพียงบุคคลไร้ชื่อ พวกเราชาวนิวซีแลนด์จะไม่มีวันมอบทุกสิ่งที่ผู้ก่อการร้ายต้องการแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ ‘ชื่อเสียง’ ก็ตาม
ก่อนที่นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์จะออกมาพูดว่าจะไม่เอ่ยชื่อของผู้ก่อการร้าย สื่อต่างประเทศคุณภาพทั้งหลายก็พร้อมใจเรียกผู้ก่อเหตุว่า lone wolf แทนการเอ่ยชื่อนามสกุลของผู้ก่อการร้ายกันอยู่แล้ว เพราะการให้ค่าคนทำผิดถือเป็นดาบสองคมและทำร้ายจิตใจเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายอย่างไม่น่าให้อภัย
การกระทำของเธอได้รับการกล่าวขานไปทั่วโลก ผู้คนตระหนักว่าการใส่ใจเหล่าผู้ก่อการร้ายและประวัติของหมาป่าเดียวดายมากเกินไปเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งเพราะอาจก่อให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบได้ง่าย หากใครสักคนพกอาวุธออกไปทำร้ายผู้คน สื่อและแสงสปอตไลต์ฉายมายังคนที่ไม่เคยมีตัวตนมาก่อน ถ้าผู้คนยังให้ความสนใจกับกลุ่มคนเหล่านี้ สุดท้ายการก่อเหตุร้ายอาจไม่มีวันหายไปจากสังคมโลก…นั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ UNLOCKMEN ไม่เอ่ยชื่อกรณีตัวอย่างของเหล่า lone wolf ผู้จนตรอกเลยสักคน