ประเทศญี่ปุ่นเผยสถิติปลอดภัยไร้คดีที่สุดในรอบ 30 ปี เคล็ดลับอยู่ที่การสร้างรายได้ให้ประชาชน

ในขณะที่พวกเราชาวไทยหลายคนกำลังเผชิญภาวะ ‘กลืนไม่เข้า คายไม่ออก’ ยากจะสรรหาคำสรรพนามไหนมาใช้ชื่นชมนักการเมืองรวมถึงเจ้าหน้าที่บ้านเรา กับการพยายามอำนวยความสะดวกให้คนมีสตางค์อย่างออกนอกหน้า เรียกได้ว่าไม่แคร์ส่งแคร์สื่ออะไรกันอีกเลย เราจึงอยากให้ทุกคนเคลียร์หัวให้สดชื่นมากขึ้น ด้วยข่าวที่น่าชื่นชมของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในปีนี้นับเป็นปีที่มีตัวเลขคดีอาชญากรรมต่ำที่สุดในรอบ 30 ปี โดยมีเคล็ดลับที่ประเทศไทยน่าจะนำมาปรับใช้ได้หลายอย่าง อยู่ที่ว่าเจ้าหน้าที่บ้านเราเค้าจะให้ความสำคัญประชาชนคนธรรมดาอย่างพวกเรามากแค่ไหน

ตัวเลขจาก Japan’s National Policy Agency, Statistics Bureau เผยให้เห็นสถิติคดีอาชญากรรมในปี 2017 ซึ่งรายงานว่ามีทั้งหมด 915,024 ครั้ง อย่าเพิ่งตกใจไปว่าไม่เห็นจะต่ำตรงไหน เพราะตัวเลขนี้เค้ารวมหมดทุกคดี เช่นคดีขโมยของ ทะเลาะวิวาทด้วย ซึ่งนับว่าน้อยมากที่สุดตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกเลยก็ว่าได้ โดยกราฟจากสถิติแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับตัวเลขสถิติที่ดีขึ้น เมื่อคนตกงานมีน้อย ทุกคนมีรายได้ที่มั่นคง จึงไม่มีความจำเป็นต้องก่อคดีอีกต่อไป

และนอกจากคดีลักเล็กขโมยน้อย คดีกลุ่มอื่น ๆ เช่น ฆาตกรรม, ข่มขืน ก็ยังทรงตัวอยู่ในระดับราวหนึ่งพันเคสเกือบทั้งหมด (แต่คดีที่มีผลกับปากท้อง น่าจะเป็นคดีขโมยหรือฉ้อโกงมากที่สุดนั่นเอง)

นอกจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่ดีขึ้นแล้ว National Police Agency ของญี่ปุ่นบอกว่าการร่วมมือกันระหว่างเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครในชุมชน รวมถึงการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่ใช้งานได้จริง ไม่ใช่แค่กล้อง Mock Up เหมือนบ้านเรา โดยติดขู่ให้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ ก็มีส่วนในการทำให้คดีอาชญากรรมลดลงมาก ที่เจ๋งกว่านั้น สถิติการฆ่าตัวตายของคนญี่ปุ่นปี 2017 ก็ลดลงอยู่ในระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 1991 ด้วย เรียกว่าเศรษฐกิจดี พื้นฐานดี ทุกอย่างก็ดีตามไปด้วยนั่นเอง

ความน่ารักของคนญี่ปุ่นทำให้เกิดบรรยากาศความรู้สึกปลอดภัย ซึ่งกราฟไต่ไปสูงสุดในปี 2017 หน่วยงาน Japan Cabinet Office, Tokyo Metropolitan Police Dept ได้ทำ Survey เรื่อง Sense of Safety โดยสถิติบอกไว้ว่า คนญี่ปุ่นกว่า 80% รู้สึกปลอดภัย อุ่นใจในทุกจังหวะการใช้ชีวิต

แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะโรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป Mr. Masayuki Kiriu, professor of social psychology at Toyo University เผยว่า รูปแบบของการก่ออาชญากรรมในญี่ปุ่นนั้นต่างออกไปจากเดิม รูปแบบของคดีที่พุ่งสูงเป็นก้าวกระโดดจากปี 2016 คือการหลอกลวงคนแก่ (Grandparents Scam) ที่โจรจะโทรไปหาคนเฒ่าคนแก่ แล้วอ้างตัวว่าเป็นลูกหลาน กำลังเดือดร้อน ต้องการใช้เงินด่วน เชื่อว่าคนที่อ่านการ์ตูนญี่ปุ่นเป็นประจำน่าจะคุ้นเคยผ่านตากันบ้างอยู่แล้ว ซึ่งการหลอกลวงแบบนี้มีความเสี่ยงต่ำกว่าการปล้นหรือลักขโมยหลายเท่า แต่ก็ไม่ถือว่าเยอะมากอะไร แค่ราว 8,000 คดี เทียบไม่ได้กับการ Scam Call ในบ้านเราที่หลอกกันเป็นเรื่องเป็นราวรายวัน

จริง ๆ แล้วเหตุผลที่ทำให้ประเทศไร้คดี หรือทำให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยนั้นก็ไม่ยากเกินจะจินตนาการ แต่ที่น่าแปลกใจกว่า คงเป็นคำถามที่เราสงสัยเหลือเกินว่า “ทำไมพวกพี่นักการเมืองเค้าไม่ลงมือทำสิ่งดี ๆ ให้ประเทศชาติบ้าง”

Reference:
http://ris.toyo.ac.jp/profile/en.1500ead950115d80dc22fe21eeb64e6c.html
https://www.bloomberg.com/news/articles/2018-02-21/crime-hits-postwar-low-in-japan-as-joblessness-declines
https://www.aarp.org/money/scams-fraud/info-2016/how-to-beat-grandparent-scam.html