ผลการศึกษาเผย ความรู้สึกของผู้หญิง กับยุคสมัยที่ “ผู้ชายบ้ากล้าม” จะใหญ่แค่ไหนก็ไม่ใช่คำตอบ!!

นิตยาสารผู้ชายสมัยนี้ เปิดดูกี่ทีก็หนีไม่พ้นเรื่องวิธีออกกำลังให้ได้หุ่นกำยำ ราวกับรูปปั้นหนุ่มกรีกโบราณ แต่ในโลกความจริง เป้าหมายของการพยายามจะมีมัดกล้ามแบบนั้น มันเพื่ออะไรกันแน่? ผู้ชายบางคนก็ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ บางคนเพื่อมัดกล้าม และการกีฬา หรือบางคนก็แค่เพียง อยากจะรักษาทรงให้ไม่อ้วนอวบ ซึ่งส่งผลมาจากอายุที่มากขึ้น สวนทางกับระบบเผาผลาญที่ลดลงก็ตาม ทั้งหมดล้วนเป็นเหตุผลที่ดีทั้งนั้น หากแต่ผู้ชายบางคนกลับหมกมุ่นกับการปั้นหุ่นจนเสียสุขภาพ โดยการใช้เสตียรอยด์ ด้วยความหวังเพียงแค่ จะได้รูปร่างที่น่าพอใจ โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงผลข้างเคียงในภายหลัง การใช้สเตียรอยด์กลายเป็นสิ่งที่แพร่หลายในคนธรรมดา ที่ฝันอยากจะดูไม่ธรรมดา แต่อยากมีกล้ามที่ใหญ่โตก็เพียงเพื่อ อยากให้ตัวเองกลายเป็นที่สนใจของสาวๆ เท่านั้น ถ้าหากใครที่กำลังมีความคิดแบบนี้อยู่ วันนี้เราอาจจะต้องบอกกับคุณว่า เสียเวลาเปล่าว

Huge muscles are not as attractive to women as you may think

“มัดกล้ามที่ล่ำบึ้กนั้น อาจจะไม่ได้ดึงดูดสายตาของสาวๆ ได้อย่างที่คุณคิด” ถึงแม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าการดูหุ่นล่ำๆ นั้น จะทำให้ผู้หญิงชายตามองมากยิ่งขึ้น แต่มันเป็นเพียงแค่โบนัสอาหารตาของพวกเธอเท่านั้น เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ในชีวิตที่เรารู้จัก ส่วนมากจะโฟกัสที่ บุคลิกภาพ อารมณ์ขัน การวางตัว ความมั่นใจ และความทะเยอทะยานในการใช้ชีวิต มากกว่าการมองว่า ผู้ชายคนไหนมีกล้ามหน้าท้องเรียงตัวสวย กล้ามแขนเป๊ะปังอลังการ

เมื่อหลายปีก่อน มีจิตแพทย์ปฏิบัติการทางชีวภาพจิตเวช ได้ทำการทดสอบด้วยระบบคอมพิวเตอร์ กับนักศึกษาหลายคน จากหลายประเทศเช่น อเมริกา ฝรั่งเศส และออสเตรีย โดยการให้ผู้ชายเลือก รูปแบบของไขมัน และกล้ามเนื้อเตรียมไว้ที่แตกต่างกัน 10 แบบ เพื่อให้พวกเค้าสร้างรูปร่างที่คิดว่า สาวๆ จะพึงพอใจมากที่สุด จากการทดสอบพบว่า ผู้ชายจะจัดรูปแบบกล้ามเนื้อมากเกินกว่าที่สาวๆ ชอบแทบจะทุกคน นอกจากนี้แล้ว เมื่อทำการเปรียบเทียบผู้ชายฝั่งเอเชีย กับผู้ชายจากชาติตะวันตก พบว่า ผู้ชายจากชาติฝั่งตะวันตกประเมินค่าความล่ำของกล้ามเนื้อไว้เกินกว่าที่ควรจะเป็น พวกเค้ามีความเชื่อผิดๆ ว่า ตนเองจะต้องมีกล้ามเนื้อที่ใหญ่โต ถึงจะดูดี และมีสาวกรี๊ด แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันสวนทางจากรูปร่างที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ จะรู้สึกหลงใหล และพอใจอยู่มากโขเลยทีเดียว

การทดสอบที่ว่านี้ เป็นการให้ผู้ชายหลายคนจากหลายเชื้อชาติ เลือกรูปร่างตัวเองที่คิดว่า จะสามารถดึงดูดใจบรรดาผู้หญิงได้ดีที่สุด ผลปรากฏว่า ผู้ชายจากชาติตะวันตกเลือกรูปร่างที่มีกล้ามเนื้อมากเกินกว่าค่ามาตรฐานของมนุษย์โอเว่อร์ไปราวๆ 20-30 ปอนด์ ในขณะที่ผู้ชายชาวเอเชีย กลับไม่ค่อยสนใจในความใหญ่ของกล้ามเนื้อมากนัก ผลปรากฏว่า ความต้องการ และความพอใจจริงๆ ของผู้หญิงส่วนใหญ่ กลับเป็นหุ่นแบบมาตรฐาน ที่ไม่จำเป็นต้องมีกล้ามเนื้อมากมายอะไรทั้งนั้น ที่สามารถดึงดูดใจได้มากกว่า และชนะคะแนนไปในที่สุด แต่ทำไมผลลัพธ์ถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ? หตุผลนึงที่หนุ่มเอเชียไม่หมกมุ่นว่า หุ่นล้ำกล้ามใหญ่มีความสำคัญ และดึงดูดผู้หญิงได้มากเท่ากับผุ้ชายจากชาติตะวันตก นั่นก็เพราะว่า ในฝั่งเอเชีย ผู้หญิงกับผู้ชายมีความทัดเทียมกันมากกว่าชาติตะวันตก และผู้หญิงก็รับรู้ได้ว่า ผู้ชายที่คิดว่ากล้ามใหญ่นั้น มีไว้เพื่อแสดงถึงความเหนือกว่า ในด้านพละกำลังต่อพวกเธอ

นาย Harrison Pope เจ้าของผลวิจัยนี้กล่าวว่า “สมัยนี้สาวๆ ทำได้เกือบทุกอย่างที่ผู้ชายทำได้ เว้นเสียแต่จะเป็นการเล่นเวทท่า Bench Press ด้วยน้ำหนัก 315 ปอนด์ เราควรจะยกเลิกความคิดที่ว่า การมีหุ่นล่ำคือ ทางออกของความเป็นชาย และหวังว่าผู้ชายจะเห็นช่องทาง ที่จะแสดงความเป็นชายด้วยการกระทำอื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่การอวดพลังในการยกน้ำหนักของบาร์เบล แต่ควรไปใช้เวลาหมกมุ่นกับตัวเองให้มีประสิทธิภาพในด้านอื่นๆ มากยิ่งขึ้น ไม่ใช่มัวแต่ก้มหน้าก้มตา ดูกล้ามซิกส์แพคของตัวเอง ยกของหนัก ส่องกระจกซ้ำๆ ไปวันๆ

Avoid being a dupe of the media

อย่าพยายามลอกเลียนแบบสื่อต่างๆ แน่นอนว่า หนึ่งในเหตุผลที่ผู้ชายอยากจะสร้างหุ่นล่ำ ได้รับอิทธิพลมาจากสื่อต่างๆ ที่โหมประโคมโหมกระหน่ำเสนอภาพลักษณ์ผู้ชายที่มาพร้อมมัดกล้ามเนื้อให้เห็นกันอยู่ตลอดเวลามากจนเกินไปในสมัยนี้ อย่างวงการสื่อสิ่งพิมพ์นั้น ในช่วงปี 1950 จะมีรูปผู้ชายถอดเสื้อเพียงแค่ 3% ในขณะที่สมัยนี้ มีมากขึ้นถึง 35% ผู้ชายอย่างเราๆ จึงอาจจะคิดว่า นี่คือสิ่งที่ดี และโดดเด่น แต่จริงๆ แล้ว มีการคาดคะเนว่า กว่า 45% ของผู้ชายชาวตะวันตก ไม่พอใจกับรูปร่างของตัวเอง เพิ่มมากขึ้นจาก 15% เมื่อประมาณ 25 ปีก่อน ทั้งๆ ที่ปัญหาจริงๆ ไม่ได้อยู่ที่จำนวนรูปผู้ชายในมัดกล้ามที่ปรากฏเพิ่มขึ้นในสื่อ

แต่มันเพราะ มาตรฐานรูปร่างในระดับซูเปอร์แมน ที่สื่อเหล่านั้นได้ถ่ายทอดออกมาต่างหาก ที่ทำให้คนเข้าใจผิดว่า มัดกล้ามที่ใหญ่เกินระดับคนปกติธรรมดา เป็นเรื่องทั่วไป ย้อนแย้งกันในโลกแห่งความจริง ที่ผู้ชายทั่วๆ ไป ไม่ได้มีพันธุกรรมรูปร่างเหมือนนายแบบในนิตยาสาร ไม่ใช่นักเพาะกาย ไม่จำเป็นจะต้องมีรูปร่างแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย ทั้งหมดนี้ยังไม่รวมถึง รูปที่ผ่านการรีทัช ปรับขนาดให้ดูเป๊ะสมส่วนราวกับรูปปั้นอีกด้วย ด้วยภาพติดตาเหล่านี้ ทำให้ผู้ชายหลายต่อหลายคน รู้สึกหงุดหงิด และไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ อีกทั้งยังรู้สึกท้อแท้ที่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการปั้นหุ่นจนเกิดความหมกมุ่นมากเกินไป จนไม่ใส่ใจ การกระทำอื่นๆ ที่ไม่ควรมองข้ามในชีวิต

เมื่อค่านิยมของสังคมเปลี่ยนไป กลายเป็นคนที่มีรูปร่างไม่ดี คือ คนที่มีรูปร่างกายปกติ แต่คนที่มีรูปร่างดี คือ ต้องเพอร์เฟ็คในระดับนายแบบตามป้ายโฆษณาเป็นอย่างน้อยเท่านั้น โลกได้ลืมไปแล้วว่า ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าฮ็อตที่สุดในโลก และเป็นผู้ชายในฝันของผู้หญิงทุกคนอย่าง Humphrey Bogart, James Dean, Cary Grant ล้วนแล้วแต่มีหุ่นที่สุดแสนจะธรรมดา ไม่ได้มีกล้ามเนื้อที่อลังการงานสร้างแต่อย่างใด

Obsessing about your physique gets in the way of your life

ถ้าหากคุณลองสังเกตดูคนรอบๆ เวลาที่คุณเข้าไปทานอาหารในร้าน ในขณะที่คนส่วนใหญ่ กำลังจะยัดความอร่อยเข้าไปในปาก เพื่อซึบซับรสชาติของมื้อค่ำ คุณอาจจะได้พบเห็น ผู้ชายคนนึง ผู้ซึ่งมีกล้ามไบเซป กับหนอกกล้ามเนื้อต้นคอที่แน่นโหนก และดูแข็งแรงราวกับว่า ทุกส่วนที่งอกออกมาจากเสื้อยืดตัวนั้น คือ ท่อนซุง กำลังนั่งกินอาหารหที่ดูแห้งๆ แบบโนแป้ง โนพร็อพ และไม่แม้แต่จะชำเลืองสายตาไปยังอาหารอื่นๆ ที่ดูน่ารับประทานแม้แต่ครั้งเดียว มันเป็นภาพที่น่าเศร้า และทำให้สะเทือนใจเกินที่จะมนุษย์คนนึงจะต้องพบเจอ เพราะการจะสร้างหุ่นล่ำหุ่นลีน ให้ได้เช่นเดียวกับนายแบบในนิตยาสาร และทำตามคำแนะนำของกูรูผู้คลั่งไคล้กล้ามเนื้อเท่านั้น

ผู้ชายเหล่านี้ยังจะต้องจัดตารางชีวิตอย่างเคร่งครัด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตัวเองวางไว้ ต้องใช้เวลานับสิบชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการใช้แรงงานยกของหนัก แบกหิน แบกเหล็กอยู่ในยิมซ้ำแล้วซ้ำอีก ต้องพกพาทัพเปอร์แวร์ที่ข้างในนั้น มีแตอกไก่ กับบรอคโคลี่ต้มติดตัวไปไหนมาไหนทุกวัน เพื่อที่จะได้มีอาหารคลีนที่ไม่อร่อยรับประทานตลอดทุกๆ 3 ชั่วโมง หนักไปกว่านั้น บางคนถึงกับแบกอาหารพวกนี้ ไปงานปาร์ตี้ งานสังสรรค์ที่เต็มไปด้วยอาหารอันโอชะด้วยซ้ำ หรือไม่อย่างงั้น ก็เลือดที่จะขังตัวเอง ไม่ออกไปสังสรรค์มันซะเลย เพราะจะได้ไม่มีอะไรมารบกวนการไดเอทอันทรงคุณค่า

และเพียงเพื่อการเจริญเติมโตของกล้ามเนื้อที่ปูดบวมราวกับมีเนื้องอกอยู่ในนั้น ผู้ชายในสมัยนี้ ยอมเสียสละไม่ไปเที่ยวพักผ่อนพักร้อนทั้งๆ ที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งปี ยอมทะเลาะกับแฟนเพราะไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ ด้วยสาเหตุเพียงแค่ จะได้ไม่พลาดตารางการออกกำลังกายหุ่นนายแบบที่วางไว้ มันช่างรู้สึกน่าเสียดาย และน่าเศร้า ที่มนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่รักในความอิสระเสรี ต้องมาอยู่ในกรอบเล็กๆ ราวกับนกที่อยู่ในกรง

You lose focus on why exercise is truly important

การออกกำลังกายนั้นมีคุณประโยชน์มากอนันต์ก็จริงอยู่ มันช่วยเพิ่มพลังสมอง ช่วยทำให้ปอด และหัวใจแข็งแรง อีกทั้งยังห่างไกลจากโรคอัลไซเมอร์ ช่วยลดเครียด และช่วยสลัดความหดหู่ออกไปได้ แต่หากเป้าหมายของการออกกำลังกายของคุณ ส่งผลให้สิ่งดีๆ ที่ได้ กลับกลายเป็นการทารุณร่างกาย และสุขภาพตัวเองแทน จากการพยายามเพิ่มขนาดต้นแขนขึ้น 1 นิ้ว หรือลดไขมันลงสักอีก 1 เปอร์เซนต์แล้วล่ะก็ วันนึงคุณอาจจะต้องรู้สึกผิดหวัง และสูญเสียสุขภาพที่ดีไปฟรีๆ เมื่อคุณเริ่มท้อ และรู้สึกว่า ทำไมทำอะไรตั้งเยอะแยะ แต่ไม่เห็นผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นเหมือนอย่างที่คิด คุณอาจจะล้มเลิกสิ่งที่ทำมาทั้งหมดอย่างบ้าคลั่งไปได้ง่ายๆ ภายในชั่วความรู้สึกเดียวเท่านั้น หัวใจสำคัญที่จะทำให้การออกกำลังกายนั้นติดเป็นนิสัยที่ดีของเราไปชั่วชีวิต คือ การหาแรงจูงใจที่ลึกไปกว่าแค่รูปลักษณ์ภายนอกอย่างเช่น เรื่องของสุขภาพที่ดี ไม่ให้มีอาการเจ็บป่วย อยากมีชีวิตที่ยืนยาว และแข็งแรงโดยที่ไม่ต้องมานอนรักษาตัวเองในโรงพยาบาล จากอาการป่วยในตอนสูงอายุ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการออกกำลังกายที่หนักหน่วง เพียงเพราะความต้องการในเรื่องของขนาดความใหญ่ ความคมชัดของริ้วกล้าม ที่เป็นความเชื่อต่อๆ จากปากสู่ปาก ที่อาจจะไม่เป็นความจริง

ดังนั้น แทนที่เราจะมุ่งมั่นกับการสร้างซิกแพกส์ให้ล่ำปูดนูนเหมือนขนมปังแพ ลองเปลี่ยนมาโฟกัสกับการฟิตทั่วร่างอย่างมีประสิทธิภาพจะดีกว่ามั้ย กล้ามเนื้อที่ใหญ่โต และหุ้นที่ลีนเป๊ะไร้ไขมันนั้น จะสำคัญได้ยังไง ถ้ามันไม่ช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันคุณคล่องแคล่วขึ้น เราจะยกเวทหนัก 400 ปอนด์ไปเพื่ออะไร? มันจะช่วยคุณให้รอดชีวิตไปได้ หากว่าวันนึงมีรถหล่นลงมาทับได้งั้นหรือ? ถ้าการมีกล้ามเนื้อระดับ Mr. Olympia ทำให้รถที่วิ่งมาชนคุณ กระจุยแหลกสลายไป โดยที่กระดูกของคุณปลอดภัยจากการห่อหุ้มโดยกล้ามเนื้อมันโตแล้วล่ะก็ ถือว่าคุ้มค่าจงลงมือทำให้ไว แต่ถ้าจะทำเพื่อจะให้เข้าตาสาว อยากโดดเด่นเป็นที่ยอมรับ จนถึงขนาดปักเข็มฉีดสเตียรอยด์ทั้งที่คุณ​ ไม่ใช่นายแบบ นักเพาะกาย นักกีฬา ซึ่งเป็นอาชีพแล้วล่ะก็ ผลที่ได้ไม่คุ้มเสียอย่างแน่นอน จริงๆคน  แล้วเราควรมีหลังที่แข็งแรงเพื่อจะได้เล่นกับลูกๆ ได้ มีหัวใจที่แข็งแรงก็เพียงจะได้อยู่กับคนที่เรารักไปยันแก่เฒ่าเท่านั้น การสร้างกล้ามเนื้อให้มีขนาดพอดีแต่แข็งแรง สำหรับการดำเนินชีวิตอย่างมั่นคงก็เพียงพอแล้ว ดังนั้น ผู้ชายที่ทุ่มเททุกอย่างในชีวิตไปกับก้อนเนื้อที่มีชื่อว่า กล้าม ลองเงยหน้าออกจากแผงซิกแพคของคุณ แล้วหันมาออกกำลังกายง่ายๆ สม่ำเสมอ แล้วเอาเวลาไปพัฒนาในด้านอื่นๆ ที่จะช่วยให้คุณเป็นคนที่ครบเครื่องมากยิ่งขึ้น รับรองว่าจะต้องดีกว่า เป็นผู้ชายที่มีดีที่กำลังอย่างแน่นอน

SOURCE