Entertainment

CONVERSATION WITH ‘TRASHER BKK’ นักจัดปาร์ตี้อารมณ์ดีมีแนวคิด ความมันส์ระดับคลั่งสำหรับคนทุกเพศทุกวัย

By: UNLOCKMEN Team January 29, 2018

ไม่ว่าจะเป็นสายปาร์ตี้หรือไม่ปาร์ตี้แค่ไหน เสพติดไนท์ไลฟ์หรือเป็นสไตล์อยู่ติดบ้าน ก็รับรองเลยว่าชื่อของ “Trasher Bangkok” เจ้าแม่อีเวนท์ปาร์ตี้ระดับประเทศต้องเคยผ่านหูผู้ชายอย่างเรามาบ้างแน่นอน ด้วย Theme ปาร์ตี้สุดบ้าคลั่งชนิดว่าเป็นเจ้าแรก ๆ ที่หาญกล้าบ้าบิ่นครีเอท Theme ขึ้นมา แถมเพลงป๊อปคุ้นหูที่เปิดในปาร์ตี้แบบที่ผู้ชายก็เต้นได้ ผู้หญิงเต้นดี หรือผู้มีความหลากหลายทางเพศอื่น ๆ ก็เต้นกระจายได้อย่างไม่ต้องปราณีคนรอบข้างกันไปเลยยิ่งทำให้ปาร์ตี้ของ “Trasher Bangkok”เป็นที่ติดตาตรึงใจใครต่อใครหลาย ๆ คนมากว่า 10 ปี

แต่ UNLOCKMEN ก็อดสงสัยไม่ได้หรอกว่าตัวตนของพวกเขามีแต่การปาร์ตี้เท่านั้นหรือ? หรือปาร์ตี้มันเป็นได้แค่เพียงความสนุกสนานให้กับผู้คนแค่นั้นไหม? ปาร์ตี้ให้อะไรกับผู้คนได้มากกว่านั้นหรือเปล่า? พวกเขาอิ่มตัวแค่ไหนกับการจัดปาร์ตี้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา แล้วมีอะไรที่พวกเขายังไม่ได้ทำและอยาก UNLOCK ตัวเองอีกบ้าง? สารพัดข้อสงสัยนำพาเรามาสู่การนั่งพูดคุยกับพวกเขาในครั้งนี้ที่เรารับรองเลยว่าคุณจะเต็มอิ่มและลงลึกกับตัวตนของ “Trasher Bangkok” มากอย่างที่ไม่เคยมีที่ไหนให้ได้มาก่อนแน่นอน

UNLOCKMEN: UNLOCKMEN ขอเริ่มที่ ที่มาที่ไปก่อน จุดเริ่มต้นการจัดปาร์ตี้ของเรามันมีที่มาจากการที่เพศหลากหลายไม่มีพื้นที่ให้แสดงออกเป็นของตัวเองหรือเปล่า?

Trasher: จริง ๆ แล้วปาร์ตี้เราเกิดขึ้นเพราะความรักในเพลงป๊อป ถ้าไปที่จุดเริ่มต้นเลยคือเราอยากเต้นกับเพลงป๊อปที่เราโตกันมายุคเก้าศูนย์ บริทนีย์ สเปียร์ แบล็คสตรีทบอย แต่ว่าพอยิ่งทำไปนาน ๆ ภาพชัดของความเป็นปาร์ตี้เพศที่สามมันมาเรื่อย ๆ มันเลยเป็นพื้นที่ที่เอาคนอย่างกลุ่ม LGBT หรือกลุ่มคนที่ต้องการพื้นที่ในการแสดงความคิดสร้างสรรค์เพื่อที่จะแต่งตัว เพื่อที่จะเต้น

มันเลยไม่น่าเกี่ยวกับการถูกแบ่งแยก หรือไม่มีเวที แต่มันน่าจะเป็นปาร์ตี้หรือพื้นที่ที่ให้คนมารวมกันได้ ให้คนมาปลดปล่อยกันได้

จริง ๆ เพลงป๊อป หรือสัดส่วนผู้หญิงกับเกย์หรือว่าตุ๊ดอะไรอย่างนี้มันจะเป็นเพลงที่ผู้หญิง ตุ๊ด เกย์ชอบฟังมากกว่า พอทาร์เก็ตมันเป็นอย่างนี้แล้ว มันเลยเป็นที่ที่คนกลุ่มนี้จะมาอยู่รวมกันแล้วก็เต้น

แล้วถ้าพูดถึงว่ามันโดนแบ่งแยก คือเราว่าแต่ละเพศมันมีซีนของตัวเองอยู่แล้ว ผู้ชายก็ฟังเพลงแบบหนึ่งก็ไปเที่ยวที่แบบหนึ่ง เกย์ก็ฟังเพลงแบบหนึ่งก็ไปเที่ยวที่แบบหนึ่ง ผู้หญิงก็ฟังเพลงอีกแบบหนึ่งก็ไปเที่ยวที่อีกแบบหนึ่ง แต่ Trasher เราเอาคนมารวมกัน มันเลยเป็นประเด็นที่ว่ามันไม่ได้แยก แต่มันคือเอาหลาย ๆ ซีนมารวมกัน แล้วมันแฮปปี้ผู้หญิงก็ไม่ต้องรู้สึกเกร็งที่ต้องมาเที่ยวแล้วรู้สึกว่าตัวเองต้องสวยตลอดเวลา

เอาจริงเรารู้สึกว่าที่ Trasher ดึงดูดผู้หญิงเพราะอย่างนี้เลย อย่างงานล่าสุด ผู้หญิงสวยเยอะมาก แล้วเขารู้สึกว่าเขามา Trasher แล้วเขาไม่ต้องเก๊ก ไม่ต้องแอ๊บ ไม่ต้องจิก จะเต้นบ้าบอขนาดไหนก็ได้ เพราะเขารู้สึกว่าเขาปลอดภัย

UNLOCKMEN: ถึงเราจะมองว่าเราไม่ได้เริ่มจากการที่มีการกีดกันแล้วเปิดพื้นที่ให้กับเพศหลากหลาย แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่ามีคนมองว่า Trasher ว่าได้เข้ามาเปิดพื้นที่ให้กับความหลากหลาย จริง ๆ เรารู้สึกยังไงที่คนมองว่าเรามาเปิดพื้นที่ให้พวกเขาแบบนี้ บางคนถึงกับมองว่าเราเป็นผู้นำทางความคิดเลยนะ

Trasher: โหหห (โห พร้อมกันเสียงดัง) รู้สึกมงฯ ลงมาก เราว่ามันเริ่มต้นจากการที่เริ่มต้นกลุ่มเรามันเกิดมาจากผู้หญิงและ LGBT และเราเป็นตุ๊ดเป็นเกย์ เลยคิดว่าเรื่องที่เราอินมันก็ควรเอามาพูด มาดิสคัสกันด้วย อย่างในเพจ เรามีประเด็นปัญหาอะไร เรารู้สึกว่าคนมาปาร์ตี้เรามันไม่ได้แค่มาปาร์ตี้เราแล้วจบน่ะ เราคิดว่ามันคือการสร้างคอมมูนิตี้ของคนที่ชอบอะไรเหมือนกัน คิดอะไรเหมือนกัน อย่างในที่นี้มันก็มีคาแรคเตอร์ของความเป็น LGBT ความเป็นตุ๊ดเนี่ยและ มันก็เลยมีปัญหาที่เราเจอเหมือนกัน อย่างการถูกกีดกั้นไม่ให้เข้าห้องน้ำ เราก็เอามาแชร์กันในเพจแล้วมันก็เกิดกระแสตอบรับว่า เฮ้ย มันมีคนเป็นแบบนี้เหมือนกันนะ หรือแม้แต่เรื่องความสัมพันธ์ในชีวิต เราพูดถึงการแต่งงานของเพศเดียวกัน หรืออย่างที่เราทำแคมเปญช่วยน้องคาร์เมน ที่มีกรณีคู่เกย์ 2 คนที่มาอุ้มบุญแล้วพยายามช่วยพาน้องกลับบ้าน

มันก็เป็นเหมือนกับกระแสสังคมที่เราสามารถซัพพอร์ตประเด็นได้ อีกเรื่องก็คือประเด็นการเหยียดสีผิว ที่คนมองว่าคนไทยไม่สวย เราจะเล่นประเด็นนี้บ่อยมาก เพราะเราเห็นว่าโฆษณาไทยชอบบอกว่าต้องขาวถึงจะสวย ประเด็นส่วนใหญ่ที่เราอินหรือว่าเราเจอ เราเอามาแชร์กับทุกคน มันเลยทำให้แบบ โห พวกพี่เป็นผู้นำสังคม

เราว่ามันคุยแล้วเหมือนเป็นเพื่อนสาว มันก็เลยเจ๊าะแจ๊ะ ๆ คนก็เลยคิดว่านี่แหละ เฮ้ยย ศาสดากะเทยหรือเปล่าวะ? (หัวเราะ)

ซึ่งเราก็ไม่ใช่อย่างนั้นนะ เราไม่สามารถเป็นคนที่บอกเขาว่าอะไรถูกอะไรผิด แต่เราเป็นที่แสดงความคิดเห็น และอยากเป็นพื้นที่ที่เรามาดิสคัสกันได้ด้วยเหตุและผล

หลัง ๆ เราจะเห็นหลาย ๆ สื่อเล่นประเด็นเกย์ขึ้นมา แต่เราเกิดมาจากความที่อินอะไรเหมือนกัน ชอบอะไรเหมือนกัน เราเลยเหมือนเอามาพูด มาปรึกษากันตรง ๆ มาแสดงความคิดเห็นเหมือนเพื่อน ไม่ใช่การประดิษฐ์ ไม่ใช่การเอามาเล่นให้เป็นกระแสสังคม แต่เป็นการคุยกันปกติ ทำให้มันเป็นเรื่องธรรมดา

อันหนึ่งที่เราจำได้และประทับใจมากคือการแชร์ประสบการณ์เรื่องการไปตรวจเลือด เพราะเรารู้สึกว่าตอนไปตรวจเลือดเราตื่นเต้นมาก เรากลัวมาก คนไทยเวลาไปตรวจเลือดมันกลัว มันอาย ปรากฏว่าพอเราไปแชร์ ๆ เรื่องนี้ มันมีคนอีกกว่า 500 คนที่พร้อมมาแชร์ประสบการณ์ ทั้งเกย์ ทั้งผู้หญิง เขาก็มาแชร์ให้ฟัง ทั้งการลุ้น การฟังผล เราได้รับคำชมจากนักวิชาการที่เขาบอกว่าเขามาอ่านกระทู้นี้ ขนาดเขาไปสำรวจ เขายังไม่เคยได้อินไซด์ขนาดนี้มาก่อน

UNLOCKMEN: ดู Trasher มีหลายประเด็นที่จุดมันขึ้นมาพูดคุยกันในสังคม แล้วประเด็นไหนที่ภูมิใจกับมันมากที่สุด

Trasher: เราว่าสองเรื่องที่เราคิดว่าประสบความสำเร็จคือเรื่องน้องคาร์เมนที่เราเป็นคนจุดประเด็นนี้ขึ้นมาในเพจ แล้วเราก็ได้ช่วยน้อง ได้พาไปออกรายการ ได้ให้คุณพ่อพูดในมุมของเขา และทำให้คนไทยเปิดใจเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกของคนเพศเดียวกัน จนไปถึงการจัดปาร์ตี้เพื่อระดมทุนที่เราได้เจอทุกคนที่มาร่วมด้วยช่วยกัน เรียกว่าไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามเขาก็มาช่วย จากปกติที่ปาร์ตี้ถูกมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ มันแค่เป็นเรื่องสนุก แค่คนมากินเหล้า เต้น แต่ครั้งนั้นมันทำให้เห็นว่าวิธีการช่วยคนได้มันมีอีกเยอะ

ส่วนเรื่องที่สองน่าจะเป็นเรื่อง HIV ที่เรารณรงค์ให้คนไปตรวจเลือดและการรณรงค์ให้มองผู้ติดเชื้อว่าเป็นคนหนึ่งที่ปกติในสังคม เป็นการเปลี่ยนทัศนคติของคนในสังคมในเรื่องนี้ ทั้งการที่เราโพสต์ลงเพจบ่อย ๆ หรือการที่เราทำซีรีส์ขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนทัศนคติต่อผู้ติดเชื้อ HIV

ตั้งแต่ประเด็นเรื่องคาร์เมน ก็จะเห็นว่าจริง ๆ มันมีประเด็นที่ตามมาอีก เช่น คุณวู้ดดี้ออกมาเปิดเผยตัวว่าเป็นเกย์ มันก็จะมีเรื่องที่เกย์ออกมาคัมเอาท์แล้วประกาศว่าฉันก็แต่งงานนะ ทุกครั้งที่เราเห็นประเด็นแบบนี้

หรือกระทั่งประเด็นเกี่ยวกับสื่อเอง เช่นประเด็นละครวาย ละครเกย์ทำให้คนเป็นเกย์มากขึ้นหรือเปล่า นี่ก็เป็นอีกสิ่งที่เรายืนหยัดเลยว่าคนเป็นเกย์มันก็เป็นเกย์ มันไม่ต้องดูละครแล้วถึงเป็นเกย์ เราอยากให้คน UNLOCK ตรงนี้ เลิกคิดแบบนี้

มันไม่ได้เป็นหวัดนะ (หัวเราะ) คนเราเป็นตุ๊ดก็คือเป็นตุ๊ด ไม่ได้เป็นหวัด ถึงจะติดกันได้

เราดีใจอีกอย่างหนึ่ง วันหนึ่งเราไปปาร์ตี้เกย์เซอร์วิส ซึ่งมันเป็นปาร์ตี้ของเกย์กล้าม ซึ่งมันมีซีนสำหรับเกย์แบบนี้ แต่ไม่มีที่ให้สำหรับเกย์ประเภทความคิดสร้างสรรค์ยอดเยี่ยม เพราะ Trasher ไม่เหมารวมว่าเกย์ต้องกล้ามใหญ่ ต้องหน้าตาดี ต้องใส่กางเกงใน พื้นที่ของเรามันมีให้ทั้งเกย์อ้วน เกย์ผอม เกย์กล้ามก็มี เรามีทุกแบบทุกไซส์ทุกอย่าง ที่อยากแสดงอารมณ์ อยากแสดงความคิดสร้างสรรค์ จริง ๆ แล้ว Trasher มันเป็นพื้นที่ใหญ่มากสำหรับคนกลุ่มนี้

UNLOCKMEN: ถ้าบอกว่าเป็นพื้นที่สำหรับเกย์มีความคิดสร้างสรรค์ เกย์ที่ความไม่มีความคิดสร้างสรรค์ล่ะ เกย์บ้าน ๆ เรียบ ๆ Trasher มีพื้นที่ให้เขาไหม?

Trasher: ความคิดสร้างสรรค์ในที่นี้ของเราก็มีส่วนที่หมายถึงคนแต่งตัวแรง ๆ จ๋า ๆ แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นพื้นที่ของเกย์ทำงานออฟฟิศ เป็นพื้นที่ปลดปล่อยสำหรับเขา เป็นพื้นที่ที่เขาเข้ามาแล้วจะไม่ถูกตัดสิน มันจะมีบางคนที่กลัวการไปบาร์เกย์ที่ต้องคอยกังวลว่าจะมีคนรู้ไหมว่าเขามาในที่แบบนี้ แต่ Trasher มันเป็นพื้นที่ตรงกลาง ที่เกย์ก็ได้ ไม่เกย์ก็ได้ ใครก็ได้ เพราะมันไม่มีใครสนใจใคร เพราะอย่างที่บอกว่าเมื่อมันไม่แบ่งแยกเพศ มันจึงไม่ถูกเหมารวมว่าดูสิ ดูสิ คนนี้เป็นเกย์นะ คนนั้นเป็นอย่างนั้นนะ เพราะทุกคนสาวหมดไง (หัวเราะดัง) คนมันหลากหลายอาชีพมาก นักวิชาการ ทนาย สจ๊วต นักแสดง นักศึกษา

UNLOCKMEN: ตั้งแต่ทำปาร์ตี้มารู้สึกว่า Theme ไหนชอบที่สุด หรือมีผลตอบรับดีที่สุด

Trasher: จริง ๆ ก็หลากหลาย ชอบ Theme แต่งงาน นานมากแล้ว เป็นงานแรก ๆ ตั้งแต่สมัยอยู่โซนิกส์ Theme ชื่อโชคดีชะนีมีผัว เป็นงานเพลงไทยที่รู้สึกว่า เฮ้ย เรามาลองจัดงานแต่งงานให้เจนนี่ไหม เราก็เลยจัดงานแต่งงานให้เจนนี่อย่างจริงจัง มีเค้ก มีงาน มีเจ้าบ่าว มีประธานมาให้โอวาท ตอนนั้นเราเชิญโอบาม่าปลอมมาให้ มีการถ่ายรูปแบล็คดร็อปกับครอบครัว ทุกอย่างเหมือนงานแต่งงานจริง ๆ มีคนมาให้ของขวัญด้วย

แล้วก็ปาร์ตี้อกหัก เพราะชอบความที่คนคนหนึ่งอกหักแล้วอยากแชร์กับเพื่อน อยากเปิดเพลงอกหัก เพลงเศร้าฟังกัน

แล้วเราก็เริ่มจากความรู้สึกที่ว่าใครจะอิน?  ถ้าคนมา 200 คนก็แฮปปี้แล้ว แต่ปรากฏว่างานแรกก็ 500 แล้วทุกวันนี้ก็กลายเป็นเหมือนปาร์ตี้ประจำปีที่คนมาเยอะที่สุด 3,000-4,000 คน ภาพที่คุณเห็นมันเลยเป็นภาพที่อาจจะมีคนไปนั่งร้องไห้ แล้วอีก 5 นาทีต่อมาก็ลุกขึ้นมาเต้นโอเคนะคะ เพราะว่าโอเคแล้ว (หัวเราะ)

เราชอบความรู้สึกนี้มาก ความรู็สึกที่ว่า “เฮ้ย เพื่อน กูอยากให้มึงมาอยู่ตรงนี้มาก”

UNLOCKMEN:ที่เล่ามาก็ดูมีคนมีความสุขกับมันมากเลย เราอยากรู้ว่า…

Trasher: มีคนไม่มีความสุขบ้างมั้ยหรอ? (หัวเราะดัง) ซึ่งมีนะ มี มี เราตามอ่านคอมเมนต์ตลอด

UNLOCKMEN: ไม่สิ เราอยากถามว่ามีโมเมนท์ไหนที่คนจัดรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขที่สุด

Trasher: บางทีเราเตรียมงานกันเดือนสองเดือน แต่บางที่เราก็ฉุกละหุกเตรียมงานกันแค่อาทิตย์สองอาทิตย์ แต่โมเมนท์ที่เปิดเพลงแล้วคนเฮ เราจะขนลุก เพราะเราไม่คิดว่าคนจะมาอินกับสิ่งที่เราทำขนาดนี้ ยิ่งงานอกหัก พูดไปก็เหมือนโรคจิต แต่เราแฮปปี้มากเวลาเห็นคนร้องไห้ในงาน เพราะเหมือนเราเข้าถึงอารมณ์เขา หรือเวลาคนเฮ คนเต้น กรีดร้อง บ้าบอกันในงาน หรือคนทำของพังเราก็จะตกใจบ้าง แต่ก็จะ เออ สนุกดีว่ะ

โมเมนต์หนึ่งวันหลังจากงานเพราะจะมีคนตั้งสเตตัสประมาณว่า ร่างแตก ตีนระเบิด เมื่อยมาก ฉันจะไม่เมาแบบนี้อีกแล้ว (เสียงสูง) เมื่อคืนกลับบ้านยังไง มันจะมีอะไรแบบนี้ให้เราได้มานั่งไล่อ่าน อ่านแล้วมันตลก สนุกดี มันคือความสุขที่เขาได้จากเราไป

หรืออย่างเรา เราเป็นดีเจ เป็นคนเอนเตอร์เทน แล้วจริง ๆ ลึก ๆ เราเป็นคนไม่มั่นใจนะ เราอยากได้คนที่ไฮป์แล้วต้องไฮป์ด้วย แบบ เฮ้ย ปรบมือ พอทุกคนทำตาม ทุกคนทำด้วยกัน ร้องท่อนนั้นท่อนนี้ด้วยกัน ทุกคนทำตามมมันมั่นใจ มันต้องทำ สนุก

หรือบาง theme บาง theme ที่ไม่คิดว่าน่าจะจัด หรือมีคนน้อยมาก ๆ ไม่มีคนมาแน่ ๆ แล้วคนมา

UNLOCKMEN: Trasher ดูมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก ๆ เวลามีลูกค้าเข้ามาร่วมงานกับเรา เรามีวิธีดีลกับความต้องการสุดเหวี่ยงของตัวเองกับความต้องการลูกค้ายังไงบ้าง? เคยเจอปัญหาบ้างไหม? จัดการปัญหาอย่างไร?

Trasher: ปัญหามันมีแน่นอนอยู่แล้ว และบางสปอนเซอร์เรามองว่าเขามีคาแรคเตอร์ของเขา มีเพศของเขาด้วย บางอันเป็นเพศนี้ บางอันเพศหญิง บางอันเป็นเพศชาย บางอันก็เปิดกว้าง ดังนั้นการที่จะให้เขามาสปอนเซอร์มันก็ต้องเจอกันคนละครึ่งทางประมาณหนึ่ง เขามักเข้าใจว่า LGBT เยอะ แต่ถ้าเป็นแบรนด์ผู้ชายเราก็จะพยายามโน้มน้าวเขาแหละว่าบาง Theme สัดส่วนของผู้ชายมันเท่า ๆ กันเลย สุดท้ายเราก็เลือกที่จะไม่รับงานที่ไม่เป็นตัวเราเลย ที่ไม่สามารถจะเบลนด์ตัวเราเข้าไปได้เลย

UNLOCKMEN: คิดยังไงกับการตัดสินคนและการแบ่งแยกกีดกันต่าง ๆ ในไทย

Trasher: สิ่งที่อยากทำตอนนี้คือเรื่องการแต่งงานของเพศเดียวกันเพราะมันเรื่องระดับโลกแต่เราคงไม่ได้ไปเปลี่ยนกฏหมายเราอยากที่จะเปลี่ยนทัศนคติของคนในสังคมก่อน และอีกอันหนึ่งที่อยากทำคือ เวลาที่มีเรื่องเกย์ อยู่ด้วยกันแล้วจะมีความคิดเห็นที่ว่าเรื่องแบบนี้มันไม่ยังยืน และ ก็อยากที่จะเปลี่ยนความคิดของสังคมเกย์ด้วย ที่ชอบคิดว่ามันต้องเป็นแค่ความสัมพันธ์แบบคืนเดียวเท่านั้น ซึ่งมันไม่จริงไง เพราะ รักแท้สำหรับเรื่อนนี้มันก็เกิดขึ้นได้ หรือ เวลาที่เกย์เลิกกันแล้ว สังคมก็จะมองว่าเพราะเป็นเกย์ไงเลยเลิกกัน ทั้งที่จริง ๆ แล้ว ชาย หญิงก็เลิกกันได้

โดยรวม ๆ ก็อยากจะเปลี่ยนทัศนคติของสังคมในเรื่องนี้ แต่ถ้าเป็นเรื่องของการแบ่งแยกคือ ตอนนั้นไปเข้าหญิงผู้หญิงที่สระว่ายน้ำ แล้วโดนแม่บ้านไล่ให้ไปเข้าห้องน้ำชาย ก็เลยรู้สึกแบบว่ากูต้องเข้าห้องแบบไหนว่ะ เพราะบางที่เราก็มองเป็นเรื่องปกติและไม่ได้คิดมากสำหรับเราบางทีก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ และ ก็คนยุคใหม่อาจจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ดีกว่า แต่สำหรับคนยุคกลางและคนยุคเก่าก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ที่จะเปลี่ยนทัศนคติเขา

UNLOCKMEN:งั้นกลับมาที่เรื่องปาร์ตี้มีธีมไหนที่โคตรท้าทายและอยากปลดล็อคตัวเองเพื่อทำให้ได้

Trasher: เราอยากจัดเทรชเชอร์ให้เป็นคอนเสิร์ตปาร์ตี้ที่แบบถ้าใครไม่มาแล้วจะต้องเสียดายไปตลอดชีวิต มันคือการเอาศิลปินที่เราชอบมา โดยเริ่มจากเพลงไทยและมันได้ผล แต่ถ้าเป็นเพลงเมืองนอกได้ด้วยก็ดี และศิลปินที่อยากให้มามาก ๆ คือ The Moffatts เพราะว่าเป็นศิลปินที่ทำให้เราอยากฟังเพลงสากล และ อยากทำปาร์ตี้ตามสถานที่แปลกๆ แต่มันยากสำหรับเมืองไทย ยากเพราะ หนึ่งคือเรื่องแอร์ ห้องน้ำ  (พูดแทรก) แต่จริงๆมันเป็นเพราะคนแบบเทชเชอร์ค่อนข้างดิบๆ เลยหาที่จัดยากเช่นไป ตำส้มตำหน้าปาร์ตี้ หรือ ไปฉี่ตามบันไดเลื่อน จนเวทีพัง หรือ ไปตามบนที่ ที่คนปกติไม่เต้น คือจริงๆ ตอนนี้อยากได้ฮอ ใหญ่ๆ ในการจัดงาน

และตอนนี้เรามีปาร์ตี้ SIS ที่เล็กกว่าและเป็นเพลงที่เก่ากว่า คือตอนนี้ปาร์ตี้เทรชเชอร์มันเป็นปาร์ตี้เพลง pop มันจะโตไปตามเจนเนอเรชั่น เพราะบางที่เด็กยุคใหม่ก็ไม่เคยฟังเพลงยุคเรา

เลยต้องมีปาร์ตี้แบบนี้สำหรับคนยุคแรกๆ ที่มาปาร์ตี้กับเทรชเชอร์ เพราะบางที่คนอายุ 30 -35 ก็ไม่อยากจะมาผ่าฝูงกับเด็กแล้ว เพื่อดึงคนประเภทเดียวกันเข้าด้วยกัน

ปาร์ตี้ในสายตาและตัวตนของ Trasher Bangkok จึงไม่ใช่แค่ปาร์ตี้เพื่อความสนุกสนาน แม้พวกเขาจะยืนยันว่าความสนุกสนานและความบ้าคลั่งสุดเหวี่ยงยังเป็นหัวใจที่ทำให้พวกเขามีความสุขและขับเคลื่อน Trasher Bangkok ต่อไป แต่แคมเปญดี ๆ มากมาย และการยกประเด็นขึ้นมาให้เป็นที่ถกเถียงกันในวงกว้างของสังคม ไปถึงการขับเคลื่อนประเด็นเหล่านั้นไปสู่การแก้ปัญหาได้จริงผ่านปาร์ตี้ก็กลายเป็นอีกสิ่งที่ UNLOCKMEN เชื่อว่านี่คืออีกแรงขับเคลื่อนที่ทำให้ Trasher Bangkok ไปได้ไกลยิ่งกว่าการเป็นเจ้าแม่อีเวนท์ปาร์ตี้ดาษดื่นสามัญธรรมดาที่เราอาจหาได้ง่ายขึ้นในโลกปัจจุบัน แต่ถ้าจะหาคนที่เป็นมากกว่าเจ้าแม่อีเวนท์ปาร์ตี้เราก็ต้องขอยกนิ้วแมน ๆ ให้ Trasher Bangkok ไปเลย

UNLOCKMEN Team
WRITER: UNLOCKMEN Team
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line