HIDDEN GEMS IN THONGLOR : รวมสถานที่เท่ ๆ ในซอยทองหล่อให้คุณได้สัมผัสอรรถรสเติมเต็มความสุขได้ทุกวัน

วินาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักย่านดังอย่างทองหล่อ ย่านที่เต็มไปด้วยไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบผสมผสานกันอยู่อย่างน่าสนใจ ความหลากหลายที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวนี้ได้กลายเป็นเสน่ห์ของทองหล่อที่น่าหลงใหลแบบไม่รู้จบ  ถึงแม้ว่าคุณอาจจะคิดว่ารู้จักซอยทองหล่อกันจนแทบจะพรุนทุกซอกทุกมุมแล้ว  มันก็ยังมีปลายทางใหม่ ๆ ที่น่าสนใจที่คุณอาจไม่เคยเห็นซ่อนอยู่อีกเพียบเช่นกัน  นั่นยังไม่นับร้านใหม่ ๆ  น่าสนใจที่ผุดขึ้นอย่างสม่ำเสมออีกด้วย  ทำให้ทองหล่อกลายเป็นย่านหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่น่าค้นหาอยู่เสมอ

ครั้งนี้  UNLOCKMEN  จึงอยากชวนคุณไปตะลุยตามหาความลับกลางกรุงที่เป็นเสมือน  Hidden Gems ดี ๆ ในย่านที่คุณคิดว่ารู้จักมันจนพรุน … เอาล่ะ ไปลองดูกันเลยว่าทั้งหมดที่เราหยิบขึ้นมา คุณรู้จักกี่ร้าน ?

CHOW Café & Bar

ร้านอาหารผสมบาร์เปิดใหม่แห่งนี้ ชวนให้นึกถึงกลิ่นอายของเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ยุคโมเดิร์นได้ดีทีเดียว แค่ก้าวเข้ามาในร้านคุณก็จะหลงเสน่ห์กับการตกแต่งร้านในสไตล์ Chinese Industrial Loft จีนร่วมสมัย ที่สัมผัสได้ถึงความดิบแต่เท่ บนผนังยังเป็นแหล่งโชว์งานศิลปะซึ่งจะหมุนเวียนเปลี่ยนงานใหม่มาแสดงทุก 2-3 เดือน ด้านอาหารเสิร์ฟตำรับ Asian Fusion Cuisine ที่เน้นอาหารจีนเป็นหลัก ได้เชฟฝีมือเยี่ยมระดับเคยทำงานในร้านติดดาว Michelin Stars มาครีเอทเมนูให้ที่นี่โดยเฉพาะ

ทางด้าน Cocktails Bar ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กันโดยเฉพาะลิสต์เครื่องดื่มที่ดูแลโดย Mixologist ฝีมือเยี่ยม ผู้สร้างสรรค์เครื่องดื่มแก้วอร่อยที่ไม่เหมือนใคร โซนหย่อนใจยอดนิยมอีกโซนเห็นจะเป็นโซนโต๊ะพูลที่ให้เล่นกันสนุก ๆ แต่เสน่ห์ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างน่าหลงใหลสุด ๆ ก็คือการสร้างบรรยากาศอาร์ต ๆ ในกลิ่นอายจีนร่วมสมัยด้วยการฉายภาพยนตร์ของ หว่อง กา ไว ผู้กำกับขี้เหงาชาวจีนที่โด่งดังระดับโลกเคล้าไปพร้อม ๆ กัน

+ Address : 2794/1 ชั้น 1 METROPOLE ถ.สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) / เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพฯ
+ Open : ทุกวัน 18.00-02.00 น.
+ Contact : 02-318-2274
+ Facebook : www.facebook.com/CHOW.Bangkok

Soul Food มหานคร

ถึงแม้จะขึ้นชื่อชัดเจนว่าเป็นร้านอาหารไทย แต่เจ้าของร้านเล็ก ๆ ชวนหลงเสน่ห์คนนี้กลับเป็นชาวต่างชาติที่หลงใหลอาหารไทยเข้าอย่างจัง เจ้าของร้านที่เป็นทั้งเชฟในตัวคนนี้ก็คือ Jarrett Wrisley คอลัมน์นิสต์ที่ฝากฝีไม้ลายมือด้านงานเขียนมาก่อนหน้าจะหลงรักเมืองไทยและอาหารไทยอย่างเข้าเส้น จนทำให้เขาต้องเดินทางทั่วไทยไปเรียนทำอาหาร ฝึกปรือฝีมือจากหลากหลายสำนักเพื่อมาเปิดร้านอาหารของตัวเองขึ้นที่ต้นซอยทองหล่อ

อันที่จริงร้านนี้ไม่ใช่แค่ร้านอาหารไทยธรรมดา ๆ เพราะเจ้าของร้านจงใจทำร้านขึ้นมาในรูปแบบ  Art Gallery Café & Bar ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งอาร์ตที่น่าสนใจในชุมชนอาร์ตย่านปากซอยทองหล่อ  (อยู่ไม่ไกลจาก Thong Lor Art Space Bangkok)  นอกจากอาหารไทยแท้น่าทานแล้ว Cocktails สไตล์ฝรั่งผสมไทยก็เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่แพ้กัน อย่าง “บุญบั้งไฟ” ที่เป็นเครื่องดื่มชูโรงที่หยิบเอาวัฒนธรรมอิสานที่ทุกคนรู้จักมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องดื่มต้องลอง

+ Address : 56/10 ถ.สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ
+ Open : ทุกวัน 17.30-24.00 น.
+ Contact : 0-2714-7708
+ Website :   www.soulfoodmahanakorn.com

Evil Man Blues (EMB)

แค่เปิดประตูก้าวเข้าไปในร้านเราก็เสมือนถูกดูดขึ้นไทม์แมชชีนย้อนเวลาไปสู่ยุค 50s-60s  ซึ่งที่นี่ตกแต่งร้านให้มีบรรยากาศกลิ่นอายแบบ American West Coast Jazz Bars สุดคลาสสิก เล่นแสงนีออนได้อย่างน่าหลงใหล ขึ้นชื่อว่าเป็น Blues & Jazz Bar แน่นอนว่าเครื่องปรุงอารมณ์สุนทรีย์ชั้นยอดจะต้องเป็นดนตรีดี ๆ  ซึ่งที่นี่คัดสรรเพลงย้อนยุคหลากสไตล์มาเปิด

มากไปกว่านั้น ยังมีทีเด็ดที่นักดื่มรักดนตรีจะพลาดไม่ได้  อยู่ที่ค่ำคืนวันพุธ-เสาร์ ที่นี่จะมี  Dan Philips นักร้องฝีมือเยี่ยมจาก  Bangkok Edge Quartet  มาเล่นดนตรีสดให้ฟัง  และที่ขาดไม่ได้สำหรับคุณสมบัติการเป็นบาร์แจ๊สที่ดีก็คือเครื่องดื่มที่ต้องยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ซึ่งที่ EMB ได้ Liam Baer นัก Mixologist ฝีมือดีจากนิวยอร์กที่บินมาคิดสูตร Cocktails เด็ด ๆ ให้สำหรับที่นี่โดยเฉพาะ แต่ที่ห้ามพลาดแนะนำให้ลองก็คือเมนู Self-Adored ซึ่งเป็น Signature Cocktail ของร้าน ทำจาก Bison Grass Vodka ผสมกับ Elderflower Liqueur, Raspberry  และเคล็ดลับเด็ดอีกหลายตัว และหมัดเด็ดของเครื่องดื่มนี้ก็คือ การเสิร์ฟพร้อมรูปโพลารอยด์ของคุณนั่นเอง

+ Address : ชั้น G, 72 Courtyard สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) คลองเตย กรุงเทพฯ
+ Open : ทุกวัน > 18.00-02.00 น.
+ Contact : 0-2392-7740
+ Facebook :  www.facebook.com/EvilManBlues

Rabbit Hole

มองจากภายนอก ใครที่ไม่เคยมา อาจไม่รู้เลยว่า ที่แห่งนี้จะเป็นบาร์สุดหรูที่เปรียบเหมือนหลุมหลบภัยจากโลกภายนอก ซึ่งที่มาของดีไซน์แบบนี้ เกิดจากทางร้านต้องการเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัว ให้ที่นี่เหมือนเป็นโพรงกระต่าย ที่พอเข้ามาแล้วเราจะลืมเวลากลับ เมื่อเปิดประตูเข้าไป ภายในร้านจะให้ความรู้สึกหรูหราจากสีทองและสีแดง ผสมผสานกับความดิบของวัสดุปูนเปื่อย ทำให้เรานึกถึงบาร์ยุโรปเท่ ๆ ที่อยู่ในหนังสักเรื่องหนึ่ง

ร้านนี้ยังมีที่เด็ดเป็นเมนูเครื่องดื่มค็อกเทลที่รังสรรค์โดย สุวิญชา สิงห์สุวรรณ บาร์เทนเดอร์มากฝีมือที่เคยคว้ารางวัลจากการแข่งขัน Barcadi Legacy Cocktail และ Campari Academy Cocktail Competiton สไตล์การทำเครื่องดื่มของ บาร์เทนเดอร์จะเป็นแบบ Spirit-Forward ทำให้เหล้าแต่ละแก้วมีความกลมกล่อมละมุน มีความคราฟ และเหมาะกับคนชอบเครื่องดื่มรสเข้ม

+ Address : 125 สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ
+ Open : อ.-อา. > 19.00-02.00 น.
+ Contact : 098-532-3500
+ Website : rabbitholebkk.com
+ Facebook : www.facebook.com/rabbitholebkk

U.N.C.L.E.

ใครที่เคยรู้จักชื่อเสียงของ U.N.C.L.E. บาร์บรรยากาศเยี่ยมแถวสาทร ซ.12 มาแล้ว ก็ไม่ต้องสงสัยว่านี่คือสาขา 2 และแน่นอนว่าต้องมีทีเด็ดไม่เป็นรองสาขาแรก ชื่อบาร์ชวนคิดนี้ย่อมาจากคำว่า United Nations of Cocktail Lovers Everywhere ฟังดูอลังการงานสร้าง

ตัวบาร์ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของ  72 Courtyard เหนือร้านดังอย่าง Rocket และ Lady Brett ซึ่งเป็นร้านในเครือเจ้าของเดียวกัน กลิ่นอายของบาร์มีความเป็นแนว  Modern Vintage  อยู่หน่อย ๆ แต่ถ้าชอบจิบเครื่องดื่มเคล้าลมเย็นสบาย โซนริมระเบียงของที่นี่คือสวรรค์ส่วนตัวที่โคตรชิลล์เลยล่ะ ทีเด็ดของเครื่องดื่มที่นี่ก็ได้  Philip Stefanescu, Mixologist ชาวสวีเดนคนเดิมมาช่วยดูเลคิดค้นแก้วอร่อยให้ แต่ที่ทองหล่อจะแตกต่างจากที่สาทร โดยจะเน้นเมนูที่ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่เหล้าราคาแพงเหมือนสาขาแรก แต่สาขานี้จะมีการทดลองใช้วัตถุดิบใหม่ ๆ ของไทยมาสร้างสรรค์รสชาติที่แตกต่างไปอีกแบบ เน้นการใช้ผลไม้คั้นสดและ  Homemade Syrup ที่ทำขึ้นเองเพื่อสาขานี้โดยเฉพาะ อย่างเช่น The Big Red ที่ผสมจิน  Iron Balls Gin กับน้ำแตงโมสด ตามด้วย  Campari แล้วก็มะนาว กับ ไซรับชินนาม่อนสูตรโฮมเมด เป็นต้น

+ Address : ชั้น 3, 72 Courtyard สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) คลองเตย กรุงเทพฯ
+ Open : ทุกวัน > 18.00-01.00 น.
+ Contact : 0-2635-0406
+ Website :  www.avunculus.com
+ Facebook  : www.facebook.com/UNCLEcocktailbar

Backstage Bar

เห็นฉากหลังโรงละครที่สวยขนาดนี้ อย่าเพิ่งคิดว่าในทองหล่อจะมีโรงละครระดับ Broadway มาตั้งอยู่ แต่ที่นี่คือ บาร์คอกเทลล์ที่ดีที่สุดในอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย บาร์แห่งนี้เกิดจากการรวมตัวของบาร์เทนเดอร์ระดับเทพของไทย 6 คนที่เคยคว้ารางวัลระดับโลกมาแล้ว และด้วยความที่ตั้งอยู่บริเวณ Lobby ของโรงแรม PlayHaus Thonglor ที่เป็น Boutique Hotel ธีมโรงละคร

บาร์แห่งนี้ก็เลยตกแต่งในธีม Theatre Backstage ห้องแต่งตัวหลังม่านที่น่าแฮงค์เอาท์ ในเมื่อเป็นการรวมตัวของสุดยอดฝีมือทั้งทีมีหรือที่เครื่องดื่มที่นี่จะธรรมดา แค่เห็น Motto ที่ว่า “Nothing is serious behind the curtain, except for cocktails.” เราแทบอยากจะเปิดดูลิสต์ในเมนูทันทีซึ่งที่นี่มีลิสต์ Signature Cocktail คิดค้นขึ้นโดยเซียนทั้ง 6 ถึงกว่า 12 เมนู แต่ที่พิเศษสุดเห็นจะเป็น Custom Cocktail เมนูเฉพาะตัวที่คุณนั่นแหละเป็นคนคิดมันขึ้นเอง โดยบาร์เทนเดอร์จะถามความต้องการและความชอบของคุณเพื่อช่วยครีเอทเมนูเฉพาะตัวนี้ให้ เสร็จแล้วบาร์ก็จะถ่ายรูปคุณคู่กับเมนูนี้ติดไว้ที่ร้านและเขียนสูตรของแต่ละคนไว้เวลากลับมาที่บาร์นี้แล้วอยากดื่มอีกครั้งก็ชี้ที่รูปคุณได้เลย

+ Address : ชั้น 1 PlayHaus Thonglor 205/22-23 สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ
+ Open : ทุกวัน > 18.00-24.00 น.
+ Contact : 0-2712-5747-8
+ Website :  www.playhaushotel.com/back-stage
+ Facebook :  www.facebook.com/backstagecocktailbarbkk

#FindTheLockerRoom

คนที่เคยไปเยือนบาร์แห่งนี้ น่าจะเหนื่อยกับการหาทางเข้ากันทุกคน เพราะทีนี่ คือ บาร์ลับที่ซ่อนอยู่หลังตู้ล็อกเกอร์ในตึกเล็ก ๆ ย่านทองหล่อ และเป็นแหล่งรวมตัวของบาร์เทนเดอร์ชาวเอเชียฝีมือเยี่ยม 4 คน เช่น รณภร คณิวิชาภรณ์ บาร์เทนเดอร์ชาวไทยจาก Backstage Bar และ นิค วู บาร์เทนเดอร์ชาวไต้หวันจาก East End บาร์แห่งนี้จะมาในคอนเซ็ปท์ Speakeasy Bar พร้อมชื่อบาร์ที่เชิญชวนให้คนมาตามหา ภายในจะมีการตั้งโซฟาหนังสุดหรู และเคาน์เตอร์ยาวไว้เป็นที่นั่งดื่มค็อกเทลชิว ๆ ภายใต้บรรยากาศแบบมืดสลัว หม่น ๆ รู้สึกสงบเหมือนได้ตัดขาดจากโลกภายนอก

ค็อกเทลของที่นี่จะมาในคอนเซ็ปท์สุดแนวอย่าง ‘Past-Present-Future’ (อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต) ซึ่งเป็นเมนูค็อกเทล 3 แบบ แต่ละแบบจะมีเบสเป็นเหล้าตัวเดียวกันทั้งหมด โดย Past จะเป็นเมนูคลาสสิกค็อกเทล ส่วน Present จะเป็นเมนูคลาสสิกค็อกเทลที่มีการปรับเปลี่ยนสูตรให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้มากขึ้น และสุดท้าย Future จะเป็นการปรับเมนูค็อกเทลที่มีอยู่แล้วให้กลายเป็นเมนูค็อกเทลแห่งอนาคตตามสไตล์ของบาร์เทนเดอร์ เรียกได้ว่ามีเมนูหลากหลายให้สายค็อกเทลได้เลือกกัน

+ Address : สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ
+ Open : ทุกวัน > 18.00-02.00 น. / พฤ.ส.อา. > 18.00-24.00 น.
+ Contact : 061-524-2689
+ Facebook  : www.facebook.com/FindTheLockerRoom

008 Bar

ขึ้นไปที่ชั้น 11 ของโรงแรม Akyra Thonglor จะเจอกับบาร์แห่งหนึ่งซึ่งมาในคอนเซ็ปท์แหล่งรวมตัวของเหล่าสายลับในสมัยสงครามโลก ซึ่งด้านในจะมีการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและคลาสสิก อย่างเช่น โซฟาหนัง บาร์ไม้ เครื่องพิมพ์ดีดสมัยสงครามโลก ประตูบัวดัดโค้ง ฯลฯ

เมนูค็อกเทลของที่นี่ก็คุมโทนย้อนยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 – 2 เช่นกัน แต่ละเมนูจะคิดสูตรโดย ไพลิน สัจจานิตย์  บาร์เทนเดอร์หญิงผู้เคยคว้ารางวัลระดับโลก และเคยเป็นบาร์เทนเดอร์ประจำของบาร์ชื่อดังอย่าง Versper และ  Zuma เครื่องดื่มของร้านจะเน้นไปที่คลาสสิกค็อกเทล ประกอบไปด้วย Signature Cocktails ทั้งหมด 14 เมนู Prohibition Cocktails เมนูคลาสสิกค็อกเทลที่เกิดขึ้นมาในปี ค.ศ.1920-1945 และStronghold เมนูคลาสสิกค็อกเทลแบบ Spirit Forward เรียกได้ว่าเป็นบาร์ที่ให้กลิ่นอายของความคลาสสิกในทุกอณู เหมือนได้นั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปในอดีต

+ Address :  ชั้น 11, Akyra Thonglor สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ
+ Open : ทุกวัน > 18.00-01.00 น.
+ Contact : 02-392-8959
+ Facebook  : facebook.com/008Bar

Bottoms Up 

ที่แห่งนี้เป็นทั้งร้านอาหารอิตาลีฟิวชั่นและผับ ซึ่งมีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของเมนูอาหารที่รังสรรค์โดยเชฟมากผีมืออย่าง เชฟเคณฑ์ มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ และเมนูเครื่องดื่มที่มีให้เราเลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เบียร์กว่า 50 ชนิด และไวน์นำเข้ากว่า 500 ยี่ห้อ ซึ่งในส่วนของไวน์จะมีบริการเครื่องกดไวน์ซิงคูลเลอร์ด้วย เครื่องนี้จะทำให้เราสามารถเทสไวน์แต่ละยี่ห้อได้ และมั่นใจมากขึ้นว่าไวน์ที่สั่งไปจะถูกปากเราอย่างแน่นอน

บรรยากาศภายในร้าน เราจะสัมผัสได้ถึงความหรูหรา กว้างขวาง และความผ่อนคลายสไตล์ ‘Art Gallery’ ให้เราสามารถดื่มดำกับอาหารเลิศรส และชมความงามของภาพวาดแบบ Hand Made ที่อยู่ตามมุมต่าง ๆ ของร้านไปพร้อม ๆ กันได้  และตั้งแต่เวลา 3 ทุ่มครึ่งเป็นต้นไป ทางร้านจะมีดนตรีสดด้วย เรียกได้ว่าเป็นร้านที่ กิน ดื่ม เที่ยว ครบจบในที่เดียว

+ Address : 888 สุขุมวิท 55 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพ 10110
+ Open : จ.-ส. > 16.00-02.00 น.
+ Contact : 02-365+0840, / 081-890-9119
+ Facebook : www.facebook.com/bottomsupthonglor

Black Amber Barber Shop

จะบอกว่านี่คือร้านตัดผมก็ไม่เชิงนักเพราะร้านนี้ผสมผสาน  Social Club และ Selection Shop สำหรับสุภาพบุรุษไว้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นแหล่งแฮงค์เอาท์ที่มาในรูปแบบ  The Modern Classic Gentlemen Lifestyle  มีอะไรให้เลือกทำอีกหลายอย่างนอกจากการมาตัดผม เจ้าของคลับสุภาพบุรุษนี้ก็คือ คุณขวัญ-ชวิน นันทเทิม (ผู้ที่อยู่เบื้องหลังบาร์ดัง The Circus Bangkok  ที่ถือว่าเป็น  Absinthe Bar  แห่งแรกในไทยเลยก็ว่าได้)   ที่หยิบเอาบรรยากาศร้านตัดผมชายแบบไทย ๆ มาผสมผสานกับกลิ่นอายร้านตัดผมสุภาพบุรุษที่ประณีตในแบบตะวันตก

นอกจากทรงผมยอดฮิตสตรีทวินเทจในสไตล์  Rockabilly Pompadour แล้ว ความพิเศษอื่น ๆ ที่พิถีพิถันไม่แพ้กันก็คือพวกบรรดาเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่เสิร์ฟในร้าน มีตั้งแต่ชา กาแฟ ไปจนถึงวิสกี้ เสิร์ฟ แถมยังสูบซิการ์ในร้านได้ด้วย ทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ตกแต่งทรงผมแบรนด์ดี ๆ หลายยี่ห้อจำหน่าย ไปจนถึงความใส่ใจเรื่องเก้าอี้ตัดผมที่เลือกใช้ Takara Belmont แบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นผสมเยอรมันซึ่งเป็นผู้ผลิตเก้าอี้ตัดผมคุณภาพพรีเมี่ยมที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก

+ Address : สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) (อยู่ในซอยระหว่าง ซ.5 และ ซ.7) คลองเตย กรุงเทพฯ
+ Open : ทุกวัน > 12.00-21.00 น.
+ Contact :  Barber Shop 081-869-9393 / Social Club 92-276-2772
+ Facebook :  www.facebook.com/blackamberbarber

LITTLES

หากเข้าไปในบาร์แห่งนี้ เราอาจไม่รู้สึกว่า มันเหมือนเป็บบาร์ แต่รู้สึกเหมือนเป็นอาร์ตแกลอรี่มากกว่า เพราะดีไซน์ภายในค่อนข้างแหกขนบของบาร์ปกติพอสมควร ด้วยการแต่งร้านเป็นสีขาวโพลนทั้งร้าน ซึ่งการตกแต่งแบบนี้ เกิดขึ้นจาก เจ้าของร้าน (ธีรวัฒน์ มงคลทรัพย์) คิดว่า อยากเอาทั้งอาร์ตแกเลอรี่และบาร์เทนเดอร์มารวมกันในที่เดียว ที่แห่งนี้จึงกลายเป็นพิ้นที่สำหรับการดื่มค็อกเทลชิว ๆ และการจัดแสดงงานศิลปะได้ด้วย นอกจากนี้ในร้านยังมีกิมมิคที่เพิ่มความสนุกสนานในการดื่มมากขึ้น คือ การแขวนผ้าใบสีขาวไว้บนกำแพง เพื่อให้นักดื่มจินตนาการเอาเองว่าอยากดูภาพอะไรระหว่างจิบค็อกเทล

แต่ที่พิเศษไปกว่านั้น คือ เครื่องดื่มค็อกเทลของร้านซึ่งได้บาร์เทนเดอร์ฝีมือดีอย่าง วัชระ วโรดม แชมป์  Mekhong Thai Spirits Cocktails 2018 มาช่วยรังสรรค์เมนูให้ และเป็นเฮดบาร์เทนเดอร์ของร้านด้วย  ถือว่าเป็นร้านที่เข้าคอนเซ็ปท์ Less is more และสร้างประสบการณ์การดื่มสุดพิเศษในพื้นที่ขนาดกะทัดรัด

+ Address : Ten Thonglor  ซ.ทองหล่อ 10 คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ
+ Open : ทุกวัน 18.00-20.00 น.
+ Contact : 06-2646-5519
+ Facebook : facebook.com/littlesthailand

RAMS Handcrafted

หนึ่งในร้านเด็ดที่ตั้งอยู่ใน  Black Amber Barber Social Club ก็คือ Flagship Store ของแฟชั่นสำหรับสุภาพบุรุษแบรนด์นี้  ที่ของทุกชิ้นผลิตด้วยช่างฝีมืออย่างประณีต  เริ่มตั้งแต่สูทไปจนถึงเชิ๊ตที่ผสมผสานการตัดเย็บพิถีพิถันในรูปแบบเก่ากับดีไซน์สมัยใหม่ไม่ตกเทรนด์ได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ก็ยังมี Accessory สำหรับสุภาพบุรุษจำหน่ายด้วย ตั้งแต่ Pocket Square แล้วก็ Bow Tie ที่ตัดจากผ้าอังกฤษและอิตาลี, Brass Buttons กระดุมทองเหลือง พิมพ์ลายที่ทำด้วยมือแทบทุกกระบวนการ, ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างมีชื่อของที่นี่ซึ่งก็คือบรรดาเข็มกลัดติดสูทเท่ ๆ ที่ออกแบบเฉพาะตัว ที่มีตั้งแต่ Signature Pin, Flower Pins และ Royal Hunting Collection Pins ที่จะทำให้สูทดูมีสไตล์และโดดเด่นขึ้นอีกเป็นกอง

+ Address : Black Amber Barber Social Club สุขุมวิท 55 ทองหล่อ ซ.6  คลองเตย กรุงเทพฯ
+ Open : ศ.-อา. > 16.00-21.00 น.
+ Contact : 097-952-2651
+ Facebook :  www.facebook.com/RAMShandcrafted

8MUSIQUE

ถ้าซาวด์เช็คกันจริง ๆ แล้ว  ในยุคที่กระแสดิจิตอลกำลังมาแรงสุด ๆ กระแสวินเทจก็กลับมาฮิตสุด ๆ ไม่แพ้กัน เทรนด์การฟังเพลงจากแผ่น Vinyl หรือ CD กลับมาฮิตอีกครั้ง  แต่ว่าร้านขายแผ่นเสียงดี ๆ กลับผุดขึ้นตามไม่มากนัก โดยเฉพาะคนขายที่มีความรู้เรื่องเพลง และดนตรีแบบในยุคก่อนอย่างลึกซึ้งก็หายากเต็มที  และสิ่งที่หายากนี้กลับซ่อนอยู่ในทองหล่อ  เพราะเจ้าของร้านนี้ก็คือ คุณป๋อง ที่ผูกพันกับเสียงเพลงหลากแนวดนตรีมาตั้งแต่วัยเด็ก สะสมความรู้เรื่องเพลงมาเรื่อยทั้งชีวิต จนถูกยกย่องว่าเป็นเซียนเพลงเก่าคนหนึ่งเลยทีเดียว แถมยังเคยมีประสบการณ์เปิดร้านขายแผ่นเสียงมานับ 10 ปี

สำหรับร้านนี้เน้นดนตรีในยุค 60s-90s มีแนวดนตรีหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ Rock, Jazzy, Bossa, Funky, Soul, House, Downtempo, Indie, Brit Pop, Electronic เป็นต้น เน้นศิลปินสากลเป็นหลักทั้งพวกที่อยู่ในกระแสหลักและนอกกระแส ของแถมพิเศษที่น่าจะมีคุณค่าไม่เหมือนใคร หาได้เฉพาะที่นี่ ก็คือการสนทนาเรื่องเพลงระหว่างกัน ที่รับรองว่าคุณจะได้รับความรู้ดี ๆ อีกเพียบ ได้รับความประทับใจที่ไม่เหมือนร้านไหน ๆ เลยทีเดียว

+ Address : ชั้น LG, Eight Thonglor ซ.ทองหล่อ 8 ถ.สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ
+ Open : ทุกวัน 10.00-21.30 น. / ศ.-ส. 10.00-22.00 น.
+ Contact : 0-2713-8366
+ Facebook :  www.facebook.com/8-Musique-311579032282608

HOLY@NDME

ยุคนี้เรื่องของเล่นไม่ใช่แค่เรื่องเล่น ๆ และไม่ใช่แค่เรื่องของเด็กเล่นเท่านั้น หนึ่งใน  Toy Shop ที่ดูเหมือนจะเป็น  Hobby Shop สำหรับผู้ใหญ่มากกว่าก็คือร้านเล็ก ๆ นี้ ที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านทองหล่อ ซึ่งเป็นร้านของเล่น ของสะสม ที่ตกแต่งจัดโชว์สินค้าได้น่าซื้อทีเดียว

ร้านนี้ดังในหมู่นักสะสมพอสมควร มีของเล่นใหม่ ๆ ไปจนถึงของสะสม Limited Edition หายากมาขายอยู่เสมอ (และเปิด Pre Order ของเจ๋ง ๆ อยู่เป็นประจำ) โดยเฉพาะ Collection โดน ๆ ของ BE@RBRICK ที่ร้านนี้มีหลากหลายซีรี่ และไม่เคยตกเทรนด์ นอกจากนี้ก็ยังมี Character Toys เจ๋ง ๆ ที่สร้างสรรค์โดยฝีมือคนไทย (ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ที่โด่งดังในระดับสากลอยู่หลายตัว) จำหน่ายอีกด้วย ซึ่งต้องขอบอกว่าของดีของหายากมักหมดเร็วมากด้วยเช่นกัน

+ Address : ชั้น 1 953 Art Mall 124 ซ.สุขุมวิท 53 (สามารถเข้าทาง ซ.ทองหล่อ 9 ได้) คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ
+ Open : อ.-อา. > 11.00-21.00 น. (หยุดวันจันทร์)
+ Contact : 061-454-4339
Facebook :  www.facebook.com/Holyandme

คงต้องยอมรับว่า เสน่ห์ของทองหล่อคือการเป็นย่านที่ไม่เคยอยู่นิ่ง ไม่แม้แต่เดินช้า ๆ แต่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างกระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลา วิถีชีวิตคนเมืองในย่านนี้จึงมีสีสันอยู่เสมอ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปจนทำให้ย่านนี้น่าหลงเสน่ห์ขึ้นเรื่อย ๆ ก็คือการค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงสู่ย่าน Premium Lifestyle ที่ใส่ใจในคุณภาพ และความมีระดับเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เรียกว่าถ้าจะมีธุรกิจใหม่ ๆ จากต่างประเทศเข้ามาในไทย ก็มักจะมาเริ่มต้นที่ย่านทองหล่อเสมอ เราจึงได้เห็นร้านอาหารที่มีเชฟระดับโลกมาประจำการมากมาย เราอาจจะเห็นแหล่งแฮงค์เอาท์ที่พิถีพิถันใส่ใจในการสร้างสรรค์รายละเอียดที่ไม่เหมือนใคร