DESIGN

UNLOCKMEN X ARTIST 01 : โครงกระดูก ดนตรีพังก์ และเสื้อหนังของ FATMIKE ศิลปินที่เล่าทุกสิ่งอย่างที่อยากทำในชีวิตผ่านภาพวาดของตัวเอง

By: GEESUCH February 11, 2023

“Punk is musical freedom. It’s saying, doing and playing what you want.”

– Kurt Cobain (Nirvana)

ไม่มี Quotes ไหนจะใช้อธิบายตัวตนของศิลปินในโปรเจกต์ UNLOCKMEN X Artist ได้ดีไปกว่าคำพูดสุดยิ่งใหญ่ตลอดกาล ของ Kurt Cobain ฟรอนต์แมนผู้ล่วงลับจากวง Nirvana หนึ่งในวง Grunge Rock ที่ดีที่สุดในโลก เพราะศิลปินที่ชื่อว่า FATMIKE (บิว-ศุภฤกษ์ แซ่โง้ว) ของเรา ได้รับอิทธิพลมาจากเสียงเพลงและศิลปะของวัฒนธรรม Punk Rock มาแบบเต็ม ๆ ก่อนจะใช้มันขับเคลื่อนตัวคาแรคเตอร์โครงกระดูกให้มีชีวิตอย่างตามใจตัวถึงสุดขีด รวมถึงตัวเขาเองให้มีชีวิตอย่างมีไฟในทุกวัน 

“โปรเจกต์ UNLOCKMEN X Artist คืออะไร ?” 

มันคือโปรเจกต์ที่ UNLOCKMEN จับมือกับศิลปินโคตรเจ๋งที่เราคลั่งไคล้โดยส่วนตัว มาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก ซึ่งศิลปินที่เราเลือกมาไม่ใช่แค่งานเจ๋งเท่านั้นนะ มุมมองที่พวกเขาที่มีต่อโลกของศิลปะนั้นก็โคตรเจ๋งด้วย แล้วเราก็จะสร้าง Artwork ร่วมกัน เกิดเป็น Merchandise ที่เดียวในโลก ที่คนรักในศิลปะและชาว UNLOCKMEN พลาดไม่ได้เลย !    

ในขณะที่เรากำลังเขียนบทความนี้อยู่ ชื่อของ FATMIKE อาจจะยังไม่ใช่ชื่อของศิลปินที่ทุกคนคุ้นเคยนัก แต่ก็ไม่เป็นอะไรเลย เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเสียงเพลงจากวงพังก์อย่าง Neck Deep , NOFX ยังคงดังสนั่นในห้องทำงานของเขา ในขณะที่ FATMIKE เองกำลังตั้งใจสร้างงานด้วยไฟแพชชั่นที่เปี่ยมล้นในทุกวัน

UNLOCKMEN ขอพาทุกคนไปรู้จักตัวตนของ FATMIKE ผ่านงานศิลปะ 10 ชิ้น ที่ประกอบร่างให้เขาเป็นเขาอย่างทุกวันนี้พร้อม ๆ กันเลย   


Art Piece No.1 หนังสือกระปู๋สีชมพูที่เปลี่ยนชีวิต 

อ่านจนถึงบรรทัดนี้ทุกคนคงได้เห็น Artwork หัวกะโหลกของ FATMIKE กันมาบ้างแล้ว ขอสปอยล์ล่วงหน้าก่อนเลยว่า สิ่งที่ทำให้เขาเริ่มวาดรูปนั้นมาจาก ‘หนังสือ’ แถมยังเป็นหนังสือไทยที่เป็นบันทึกการเดินทางอีกต่างหาก ต่อให้เพ่งมองภาพหัวกะโหลกขาว-ดำของเขาอีกนานแค่ไหน เราเชื่อเลยว่าไม่มีใครสามารถเดาออกได้แน่ ๆ ว่าเป็นเล่มไหน

UNLOCKMEN: ช่วยเล่าย้อนความทรงจำกลับไปหน่อย ถึงงานศิลปะชิ้นแรกที่ทำให้ตัดสินใจเริ่มทำ FATMIKE  

FATMIKE: ตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัยมีศิลปินคนหนึ่งท่ีติดตาเราเลย คือพี่ ‘ต๊อด Sahred Toy’ เขาเป็นคนท่ีวาดกระปู๋ วาดหน้าอก วาดสิ่งต่าง ๆ ที่คนทั่วไปเรียกว่าลามกให้ออกมาน่ารัก แล้วคนก็เสพงานของเขาด้วย พอเห็นแบบนี้เราก็อยากรู้ว่าใครวาด สไตล์คือแบบใส่สีสันเยอะ ๆ ก็ได้ แล้ววาดไม่ต้องเป๊ะมาก เน้นสี เน้นเรื่องราวท่ีมันกระแทกใจ มี Symbol อย่างกระจู๋เข้ามา แต่คนดันบอกว่า “อุ้ย น่ารัก” ได้เฉยเลย 

จากวันนั้นเราก็ตามงานเขามาเรื่อย ๆ จนเขาออกหนังสือก็ไปซื้อมาอ่าน มันคือบันทึกประสบการณ์ที่พี่ต๊อดไปเท่ียวญี่ปุ่น แล้วพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับญี่ปุ่น ช่ือว่า ‘TOKYO DIARY โตเกียว จุด จุด’ (สำนักพิมพ์ Salmon House) เป็นเล่มที่แปลกดีนะ มันเหมือนได้อ่านหนังสือท่องเท่ียวและเป็นหนังสือภาพประกอบด้วย เขาวาดให้คนที่ไม่ได้รักการท่องเที่ยวอ่านได้ ผมชอบทั้งเนื้อหาแล้วก็งาน Illustration ในเล่มเลย เพราะผมวาดคนจริงแต่ไม่เหมือนคนจริง วาดคนแล้วมันเบี้ยว ๆ อะ เราเลยรู้สึกว่าพี่ต๊อดเฟี๊ยวมาก สามารถวาดคนแบบแขนมือบวมอะไรก็ได้เลยแต่คนก็ยังชอบ เลยเป็นแนวทางมาให้ตลอดว่าไมต้องเป๊ะ แต่ขอให้มีสตอรี่หรืออะไรบางอย่างท่ีอิมแพค อาจจะเป็น Character Design หรืออะไรก็ตาม จะสีท่ีเลือกใช้ ให้เป็นแนวทางที่ชัดเจนของเราคนก็จะจำง่ายข้ึน


Art Piece No.2 ทำความรู้จักกับ FATMIKE วัยรุ่นโครงกระดูก

โครงกระดูกที่ชื่อว่า FATMIKE เป็น Character Design ที่มี Story เบื้องหลังแบบที่ตัดไม่ขาดจากตัวตนจริงของผู้วาดมันอย่างคุณบิว และเป็นอะไรที่ไปไกลยิ่งกว่าภาพวาด เพราะเมื่อได้คุยกันถึงเรื่องนี้ เราเริ่มรู้สึกแล้วว่า FATMIKE ไม่ใช่คนที่ไม่มีตัวตนอีกต่อไป 

UNLOCKMEN:  อยากรู้จักตัวตนของ FATMIKE ว่าทำไมต้องเป็นหัวกะโหลก แล้วมีที่มาที่ไปยังไง

FATMIKE: FATMIKE มันคือผมนี่แหละ เป็นวิญญาณของคนที่ตายไปแล้วเข้าสิงอยู่ในโครงกระดูก จนกลายเป็นมันมีชีวิตขึ้นมา มันเป็นเหมือนตัวแทนวิญญาณของผม คือความชอบของผม ชอบฟังเพลง ชอบดนตรีพังก์ เลยให้เป็นนักดนตรีใส่เสื้อหนัง จริง ๆ เป็นเพราะว่าเราอยากเป็นแบบนี้ แต่ FATMIKE มึงเป็นให้กูแล้ว

UNLOCKMEN: เหมือน FATMIKE เป็นตัวแทนของสิ่งที่คุณวิวอยากเป็น

FATMIKE: ใช่ มันคือการรวมสิ่งที่เราอยากทำแต่เราอาจจะทำไม่ได้ในชีวิตจริง เราใส่มันไว้หมดที่ FATMIKE มันคือจิตวิญญาณของผม แทนตัวของผมเลย อะไรที่ผมทำไม่ได้ หรือเป็นไม่ได้ ผมก็จะใส่ในตัวมัน ให้มันทำแทน ให้มันเป็นนักดนตรีแทน ใจเราอยากเป็นแต่เราเล่นไม่ได้ เล่นได้ 5 คอร์ดอย่างนี้ ก็ให้มันทำให้ อยากใส่เสื้อหนังออกจากบ้าน แต่ทำยากมาก ก็ให้ FATMIKE ใส่แทน จริง ๆ ผมชอบดนตรี Pop Punk แต่ Pop Punk อาจจะแต่งตัวไม่ได้ชัดเจนขนาดนั้น ก็เลยยก Punk แบบดั้งเดิมมาแล้วกัน ให้ใส่เสื้อหนังไปเลย หรือผมเล่นสเก็ตบอร์ดไม่เก่ง แต่อยากเล่น ชอบนะ FATMIKE เล่นให้หน่อย ประมาณนี้

UNLOCKMEN: แล้วทำไมต้องเป็นหัวกะโหลก

FATMIKE: เพราะว่าดนตรีที่เราชอบแต่ละอันจะมี Artwork ที่หนักหน่วงหน่อย แล้วก็มีภาพของกะโหลกเยอะมาก ๆ ดิบเถื่อนไปเลย หัวกะโหลกมาจากความชอบใน artwork ดนตรีพังก์เหล่านั้น 

UNLOCKMEN: ตัว FATMIKE มีเบื้องหลัง Story เป็นของตัวเองมั้ย

FATMIKE: ตีว่ามันคือวัยรุ่นอายุเท่าผม ประมาณ 30 กว่า ๆ 20 ปลาย ๆ พอจะรู้เรื่องราวของโลกที่ผ่านมาบางอย่างแล้ว และ ไม่ได้แคร์อะไร กวนส้นตีน ใช้ชีวิตเละเทะแต่ไม่ได้เละเทะมาก เพราะมันเป็นคนดีคนหนึ่ง ผมอยากให้มันเป็นคนดีที่น่ารักกับคนอื่นนะ แต่รูปลักษณ์มันอาจจะไม่ใช่ ไม่อยากให้คนดูมันที่ภายนอก อยากให้ดู Action จริง ๆ ของมัน ว่ามันน่ารักอย่างไร มันปั่นแต่ก็ไม่ได้เกเกร แล้วก็มีวงดนตรีพังก์วงหนึ่ง ชื่อว่า HMYS (Hi! Mike You’re Suck.) แปลว่า “เฮ้ย ไมค์ มึงห่วยว่ะ!” 

UNLOCKMEN: อยากให้โลกหรือคนทั่วไปที่มองงานศิลปะ รู้สึกอย่างไรเวลามอง FATMIKE 

FATMIKE: อยากให้โลกเห็น FATMIKE ในมุมที่สร้างสีสัน สร้างรอยยิ้มให้กับผู้คน อย่าไปมองแค่ Artwork เดียว ที่ไม่ใช้สี หรือใช้ความรุนแรงเป็นหลัก ไม่ได้อยากให้มองอย่างนั้น ให้มองที่ความสนุกที่มีอยู่ตลอดเวลา เหมือน Pop Punk ที่สนุกสนาน แก่แค่ไหน เด็กยังไง ก็สนุกได้ Freshy ตลอดเวลา


Art Piece No.3 สติกเกอร์ เวทีแรกที่ประกาศการมีอยู่ของ FATMIKE

การมีอยู่ของวัฒนธรรมบอมบ์สติกเกอร์ในทางศิลปะ คือความหลงใหล และก้าวแรกในการแสดงงานแบบ Art Exhibition ของคุณบิว ที่แกลเลอรี่ของเขาคือทุกที่ว่างทุกพื้นที่บนโลกนี้

UNLOCKMEN: อยากให้ช่วยพูดถึงศิลปะชิ้นที่แสดงออกถึงความหลงใหลในศิลปะของคุณบิวหน่อย

FATMIKE: ตอนเริ่มแรกที่วาด FATMIKE แล้วผมยังไม่รู้จะทำ Merchandise ออกมาเป็นอะไร ผมก็ทำสติกเกอร์ก่อนเลย เพราะว่ามันคือสิ่งที่ผมคิดว่ามันเท่นะ มันเป็นอะไรที่ยิบย่อย ผมชอบอะไรที่มันเล็ก ๆ พวกสติกเกอร์ที่แถมจากอะไหล่ของสเกตบอร์ด แถมมาจาก artwork ดนตรี โลโก้วง ผมชอบอะไรแบบนี้ เลยเพิ่มให้มันดูมีความเป็นของเล่นยุโรปหน่อย เป็นของเล่นฝรั่ง ตอนทำขึ้นมาก็ไม่ได้จะขายใครนะแต่ก็มีคนอยากได้ เราก็เริ่มทำจำนวนมากขึ้น มีชุดแรก ชุดสอง ชุดสามตามมา คนก็ยังชอบก็เลยทำไปเรื่อย ๆ สนุกดี มันเหมือนเอางานเราไปแปะง่าย ๆ ตรงไหนก็ได้กระจายไปทุกที่ ป้ายรถเมล์ ฯลฯ เราอยากวางงานของเราตรงไหนก็ได้ ทุกที่เป็นแกลเลอรี่ของเราหมด แค่นี้ก็รู้สึกดีแล้วจริง ๆ

UNLOCKMEN: เหมือนสติกเกอร์เป็นจุดเริ่มต้นให้เรามี art collection ของตัวเองย่อม ๆ

FATMIKE: ใช่ครับ อิทธิพลของการบอมบ์มันมีผลต่อวงการศิลปะมากนะผมว่า พวก Artist ดัง ๆ อย่าง Alex Face นี่ก็พ่นกราฟิตี้บนกำแพงใหญ่ ๆ กันเลย ผมยังไม่ถึงขนาดนั้น ก็แค่เป็นสติกเกอร์แปะก่อน เดี๋ยวมีโอกาสผมจะทำแบบนั้นบ้าง


Art Piece No.4 ศิลปะที่ชื่อว่า FATMIKE ในวันที่ท้อ 

เคยทำในสิ่งที่ตัวเองชอบทุกวันแล้ววันนึงรู้สึกท้อกันบ้างมั้ยครับ น่าจะเป็นคำถามที่คนทำงานสร้างสรรค์อย่างศิลปะเจอตลอดเวลา และเราอยากให้ทุกคนได้อ่านความคิดของ FATMIKE ในส่วนนี้มาก ๆ 

UNLOCKMEN: มีศิลปะชิ้นไหนที่เป็นแรงในวันที่ท้อแท้ของ FATMIKE บ้าง

FATMIKE: มันคือทุกงานของ FATMIKE ยกตัวอย่างเหตุการณ์ สมมุติเราตื่นมาเล่นมือถือในตอนเช้า เข้าไปดูเพจของตัวเอง เข้าไปดูความเคลื่อนไหวการลงผลงานของ FATMIKE แล้วมองไม่เห็น ก็จะคุยกับตัวเองว่า “เอ้อ ไม่ได้วาดนานแล้วนะ” / “เพราะอะไรถึงหายไปเนี่ย” / “เป็นอะไรหรือเปล่า” / “กลับมาได้แล้ว” อะไรประมาณน้ี บางคร้ังดูงานของตัวเองไปมาก็หายท้อข้ึนมา มันเห็นถึงความตั้งใจของตัวเรา แล้วจะท้อทำไม เราสร้างมาแล้วจะหยุดแค่น้ีเหรอ ไม่ได้ ต้องไปต่อ

UNLOCKMEN: มีงานของศิลปินคนอื่นอีกไหมที่สร้างแรงให้ หรือแค่แค่ได้ดูงานของ FATMIKE อย่างเดียวก็ช่วยได้แล้วในวันท่ีท้อ

FATMIKE: ใช่ จริง ๆ แค่ได้วาดอะไรเกี่ยวกับมันก็รู้สึกดีแล้ว แค่ได้เห็นตัวมันเปลี่ยนอิริยาบทก็รู้สึกดีแล้ว มันเหมือน FATMIKE ใช้ชีวิตประจำวันไปกับเรา ถ้าเราหยุดมันก็ตาย เป็นวิญญาณเร่ร่อนข้างศาลไปเรื่อย ๆ


Art Piece No.5 ขอให้สุดท้ายแล้วได้เป็นส่วนหนึ่งของ Punk Rock 

ความฝันสูงสุดในการทำงานศิลปะของศิลปินของแต่ละคนก็ต่างกันออกไป แต่ของ FATMIKE คือดนตรีพังก์ตั้งแต่ต้น และจนวันสดท้าย

UNLOCKMEN: ความฝันสูงสุดในการทำ FATMIKE อยู่ที่เป้าไหน

FATMIKE: มันคือการได้ทำอะไรเกี่ยวกับวงดนตรี เพราะว่าเสพแต่ดนตรี และ Artwork เยอะมากมาโดยตลอด เห็นลายเสื้อ ลายปกซีดี แล้วอยากจะวาดให้สักวง จนได้ไปเจอกับวงชื่อ Self-Strength ที่เป็น Pop Punk รุ่นใหม่ของไทย ซึ่งเขาทำดนตรีกันเองและขายเองด้วย เราก็ติดต่อไปเลยว่าทำ artwork ให้วง

UNLOCKMEN: Self-Strength คือเสื้อวงที่ป๋าเต็ดใส่ลงในเพจ

FATMIKE: ใช่ครับ คือรู้สึกดีมากเลย ป๋าเต็ดใส่เสื้อวงที่ผมทำนะ ยังเอาไปอวดแม่อยู่เลยว่า “แม่ นี่ป๋าเต็ดนะ !”

UNLOCKMEN: ถ้าให้เลือกวงไหนก็ได้สักวงในโลกนี้ อยากทำ Artwork ให้วงอะไรที่สุด

FATMIKE: Neck Deep ผมถูกจริตเขา ผมชอบเขาทุกอย่างเลย ทั้ง Performance ของวงดนตรี หรือ Artwork ของวงก็เป็นสไตล์ผมหมดเลยนะ หัวกะโหลก เบี้ยว ๆ เละ ๆ มันจะดูเด็ก ๆ แต่มันไม่เด็กน่ะ งานของ Neck Deep มัน relate กับงานของ FATMIKE ที่เราทำ งานเขาสนุก artwork สนุก เพลงสนุก วงสนุกและดูเท่ FATMIKE ก็อยากจะเป็นแบบนั้น แนวทางคล้าย ๆ กัน อยากให้ไม่ดิบจนเกินไป อยากให้มีความ Pop ในตัวงานด้วย


Art Piece No.6 อุดมการณ์ที่มีความสนุกเป็นแกนสำคัญ

อุดมการณ์ในการทำ FATMIKE ของคุณบิวคืออะไร เป็นคำถามที่เราอยากจะถามตั้งแต่ก่อนพบกัน ครั้งแรกที่ได้เห็นงานเสียกสีการเมืองของเขา ที่ดูแล้วสนุกเกินกว่าจะเศร้าใจ แต่ก็ยังคงได้ฟังก์ชั่นของการเป็นภาพสะท้อนของสังคมไปด้วยในเวลาเดียวกัน

FATMIKE: อยากให้งานมันออกมาสนุก มีเหน็บแนมในเรื่องราวชีวิตประจาวันบ้าง ล้อเลียนบ้าง ล้อเลียนคนดัง ล้อเลียนนักการเมือง เสียดสีบ้าง ให้มันเป็นเรื่องราวที่คนอินได้ง่าย ๆ ณ วินาทีนั้น คนที่อินกับเรื่องราวนั้นแต่ไม่ได้อินกับเราเขาก็อาจจะเสพของเราไปด้วยก็ได้ เขาอาจจะอินกับนักการเมืองคนนั้นแต่ไม่ได้อินกับเราก็ได้ เขาก็อาจจะตามมาดูหรือตามมาด่าก็ได้ มันก็คือความสนุก ถ้าไม่มีอะไรพวกนี้มันก็จะไปเรื่อย ๆ Character Design ก็แค่ขยับเดินกินนั่ง ไม่มีอะไร ผมอยากให้มันเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันด้วย

UNLOCKMEN: เหมือนจะมีความขัดแย้งนิดนึง คืองานเป็นหัวกะโหลกดุ ๆ เลย แต่อยากให้ออกมาดูสนุก

FATMIKE: ใช่ อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่า FATMIKE เป็นหัวกะโหลกที่เสพเรื่องราวต่าง ๆ แต่ไม่ได้ดิบเถื่อนในนิสัยจริง มันคือคนปกติที่ดีคนหนึ่ง แค่รูปลักษณ์มันเป็นแบบนั้น จริง ๆ นิสัยมันดี แต่การถ่ายทอดคือหัวกะโหลก อย่างบางภาพที่มีการถีบหัวโครงกระดูกตัวอื่น นั่นก็ไม่ใช่ความรุนแรงนะ แต่มันสัญลักษณ์แทนว่ากำลังจัดการอุปสรรคหรือความน่าเบื่อบางอย่างออกไป


Art Piece No.7 ความรักของ FATMIKE ที่อยู่ในเสียงเพลงตลอดมา

UNLOCKMEN: ในฐานะศิลปินที่ใช้ชื่อว่า FATMIKE ศิลปะชิ้นไหนที่แสดงออกถึงความรักที่เรามีให้กับงานศิลปะ

FATMIKE: น่าจะเริ่มจาก CD เพลงที่เสพ มันจะมี Artwork เฉพาะของตัวเองในแต่ละอัลบั้ม รู้สึกว่าแผ่นหนึ่งมันก็เป็น Artwork อีกแบบหนึ่ง ทำให้เราหลงใหลมัน เพราะแต่ละอัลบั้มมันไม่เหมือนกันน่ะ แผ่นนี้ออกแนวเท่จัด แผ่นนี้ก็มินิมอลหน่อย สิ่งพวกนี้มันทำให้เรารักในการฟังเพลงไปด้วย แล้วก็ย้อนกลับมารัก Artwork ย้อนกันไปมา ความรักในศิลปะทุกอย่างเกิดจากแค่การฟังเพลงเลย

UNLOCKMEN: ที่เราคุยกันมาตลอดการสัมภาษณ์ คุณวิวจะพูดถึงเรื่องเพลงตลอด มีความรักในมุมอื่นอีกไหม

FATMIKE: จริง ๆ นอกจากหนังสือของพี่ต๊อดที่บอกไปในตอนต้น ที่เราทำงานศิลปะก็เพราะ Artwork พวกนี้ด้วย มันเหมือนศิลปะช่วยส่งเสริมเพลงในแผ่น ถ้าเราหยิบแผ่นนี้ขึ้นมาฟัง จะเป็นแบบนึง แต่ถ้าเกิดเราหยิบแผ่นนี้ขึ้นมาฟังพร้อมกับนั่งดู มาจับ มันจะอินไปอีกเลเวลเลย ผมคิดว่าคนฟังเพลงหลายคนก็เป็นแบบนี้นะ มันรู้ได้ว่าเพลงต้องการจะสื่ออะไร ธีมเป็นแบบไหน จะเข้าใจความหมายอะไรบางอย่างที่ซ่อนไว้ ซึ่งมันดูน่าหลงใหลจนหลงรักสาหรับผม ยกตัวอย่าง CD ของวงต่างประเทศ ทำ artwork เหมือนนึกอะไรไม่ออกก็เอาคนชกกำแพง แต่พอมาดูจริง ๆ อัลบั้มมันชื่อ Damage (วง Black Fag) คือจบเลยนะ เข้าใจเลยว่าอัลบั้มนี้มีที่มาตั้งแต่ยังไม่ได้ฟังเลย ผมก็อยากให้ FATMIKE เป็นแบบนั้นเหมือนกัน อยากให้อิมแพคกับคนไปขั้นนั้นเลย จนไม่ต้องมานั่ง วิเคราะห์ดูว่ามันจะสื่ออะไรอย่างไร


Art Piece No.8 FATMIKE กับความเกลียดความสมบูณ์แบบที่มีเหตุผล

UNLOCKMEN: อยากให้ยกงานศิลปะชิ้นที่อธิบายความเกลียดของ FATMIKE หน่อย

FATMIKE: เป็นชิ้นที่พูดถึงก่อนหน้านี้ ชื่อว่า ‘No More F To Give’ เป็นความเกลียดที่แบบกูไม่ไหวแล้วโว้ย ปัญหาเยอะเกินไป เครียด อุปสรรคมันมาแล้วเราจะทำอย่างไร ก็เลยเอา FATMIKE ถีบแม่งเลย พวกกะโหลกและกระดูกตัวอื่นก็แทนอุปสรรคไป เกลียดความวุ่นวาย เกลียดความเครียดในชีวิต

UNLOCKMEN: แล้วถ้าพูดถึงตัวคุณวิวเอง ในแง่ของคนที่ทำงานศิลปะล่ะ เกลียดวิธีการทำงานแบบไหนหรือไม่ชอบอะไร

FATMIKE: จริง ๆ ผมไม่ชอบอะไรที่มี 1 2 3 4 5 ตายตัว เป็นแพทเทิร์น ชอบที่จะทำอะไรก็ได้แต่ได้ผลลัพธ์ออกมาเหมือนกัน จะทำวิธีไหนก็ได้ ทำไมการทำงานต้องมี 1 2 3 4 5 ด้วย มันก็อาจจะเป็นสิ่งที่ดี แต่เราไม่ชอบไม่อยากใช้วิธีการนั้นสร้าง FATMIKE เราชอบทำแบบข้ามขั้นไปเลย ทำที่ 9 หรือ 10 ก่อน แล้วค่อยมา 5 หรือ 1 อะไรก็แล้วแต่ อยากวาดก็วาดเลย วาดไม่ดีก็ขยำทิ้ง อาจจะชอบเรื่องราวนั้นจริง แต่ถ้าวาดไปแล้วไม่เข้ากับ FATMIKE ก็โละเลย ต่อให้วาดสวยแค่ไหนแต่ถ้าเราไม่ชอบก็จะปัดตก จะไม่มีการมานั่งวิเคราะห์ว่าจะวาดอะไรดี Character Design แบบไหน คือก็ใช้เวลาแหละ แต่จะไม่ใช้นาน แค่คร่าว ๆ ในหัวแล้วไปเลย ตามฟีลหน้างาน

UNLOCKMEN: คุณวิวเป็นคนชอบให้งานตัวเองไม่ perfect

FATMIKE: ใช่ครับ เหมือนเป็นนิสัยส่วนตัวด้วยที่ไม่ได้ชอบความ perfect เส้นต้องเป๊ะ ทำอะไรต้องเนี๊ยบ ต้องบาลานซ์กัน เราอยากทำอะไรก็ทำ อยากวาดอะไรก็วาด แต่ไม่หลุด มีเรื่องราว มีความหมายอยู่ในนั้น 

UNLOCKMEN: อย่างนี้ต้องรอฟีลตลอดเพื่อสร้างงานสักชิ้นรึเปล่า

FATMIKE: ชิ้นที่ได้จริง ๆ มันต้องรอจังหวะ ก่อนหน้านั้นเราก็พยายามวาดมันมาแหละแต่มันไม่ได้ ไม่ใช่ว่าทิ้งไว้อาทิตย์หนึ่งแล้วค่อยมาวาดนะ หรือวาดแล้วได้เลยแบบนี้ก็ไม่ใช่ เราค่อย ๆ วาดมาเรื่อย ๆ แต่อารมณ์มันยังไม่ได้ ก็พรุ่งนี้แล้วกัน รอจนกว่าจะถึงวันหนึ่งที่ลงล็อก การที่นั่งทำงานนั้น ๆ ให้เสร็จทีเดียวไปเลยมันเปลืองพลังจิตมาก เคยลองแล้ว ยังไงก็แย่ ยังไงก็คิดไม่ออก ก็ไปทำอย่างอื่นก่อนเลย ไปใช้ชีวิตก่อนค่อยกลับมาใหม่ มันจะได้ไอเดียติดกลับมาด้วยอีกทีหนึ่ง ไอเดียใหม่ ๆ ซึ่งเราจะมองความคิดที่จะวาดต่างจากครั้งเดิม มันจะรู้สึกเหมือนรีแล็กซ์มาแล้ว


Art Piece No.9 ความตายที่เอาความชอบติดตัวตลอดไป

เรียกว่าถ้าไม่พูดถึงความตายกับ FATMIKE คาแรคเตอร์ดีไซน์ที่เกิดจากวิญญาณเลยก็คงจะเป็นอะไรที่ผิดมาก เราจึงต้องถามคำถามนี้ด้วยความอยากรู้ แม้บางคำถามจะไม่ได้เกี่ยวกับศิลปะสักทีเดียว

UNLOCKMEN: คุยกันเรื่องความตายหน่อยดีกว่า เพราะ FATMIKE เองก็เป็นโครงกระดูกมีสัญญะสื่อถึงความตาย ศิลปะชิ้นไหนที่อธิบายมุมมองต่อความตายของคุณบิวได้ดีที่สุด

FATMIKE: จะเป็นชิ้นที่อยู่ในเพจชื่อ ‘HMYS (Hi! Mike, Your Suck) มันเป็นรูปแขวนคอ แต่ยังใส่เสื้อ Punk อยู่ คือเรายังเป็นเราจนวินาทีสุดท้าย จะตายแล้วกูก็ยังจะ Punk ก็เป็นแบบนี้ จะไม่ตายแล้วเปลี่ยนชุด ไม่ต้องมาเปลี่ยนชุดศพ กูจะตายอย่างนี้ บอกคนอื่นเลยถ้ากูตายก็จะใส่เสื้อหนังนะ มันชัดเจนในวิถีของมันจนวันตาย

UNLOCKMEN: เคยดีไซน์งานศพของตัวเองเอาไว้ไหม

FATMIKE: แขกน่าจะต้องใส่เสื้อหนังสีดา มีพ่นควัน Dry Ice ในศาลา มี Paper Shoot หรือจะเล่นสเก็ตบอร์ดวนรอบโลง ให้ญาติโยมเอาสติกเกอร์มาวางแทนดอกไม้จันทน์ บอมโลงศพแทนดอกไม้จันทน์น่าจะเฟี้ยว

UNLOCKMEN: แล้วถ้าให้เลือกวงมาเล่นในงานล่ะ

FATMIKE: เอาเป็น Blink 182 ดีกว่า ชอบ Tom DeLonge มากเลย 

UNLOCKMEN: เล่นเพลงอะไรส่งท้าย

FATMIKE: เอาไม่ Punk มาก ‘I miss you’ ให้มันเข้ากับธีมงานศพ มีไวโอลินด้วยก็น่าจะดี 

UNLOCKMEN: ขายบัตรเลย

FATMIKE: FATMIKE x blink-182


Art Piece No.10 สิ่งที่ทำให้อยากตื่นขึ้นมาทำงานในทุกวัน

UNLOCKMEN: ศิลปะชิ้นไหนที่ทำให้อยากตื่นขึ้นมาสร้างสรรค์งานในทุกวัน

FATMIKE: มีเยอะมากเลย ทั้ง Alex Face, BENZILLA, Sahredtoy, Puck มันเจ๋งเยอะมาก เราอยากเจ๋งแบบเขาในวันหนึ่ง การได้เห็นงานเจ๋ง ๆ มันทาให้เราคิดตามว่ากว่าเขาจะเป็นศิลปินเจ๋ง ๆ ขนาดนี้ได้เขาต้องผ่านอะไรมาบ้างนะ ถ้าเราหยุด ก็คือจบเลยนะ มองงานคนอื่นแล้วก็อยากจะไปต่อ

UNLOCKMEN: คำถามสุดท้าย “ศิลปินในความหมายแบบไหนถึงเรียกได้ว่าศิลปิน”

ผมคิดว่าทุกคนเป็นได้หมด ไม่ต้องวาดรูปเก่งก็ได้ จริง ๆ ไม่ต้องเก่ง ถ่ายรูปให้เบลอแต่ทัชใจคนจนรู้สึกเจ๋ง แค่นี้ก็เป็น artist แล้ว ทุกคนมีความเจ๋งของตัวเองอยู่แล้ว แค่เขาจะหยิบอะไรในตัวเองออกมาแค่ไหน บางคนอาจจะจัดแจกันสวย แต่งกลอนเก่ง ทุกอย่างสำหรับผมเป็น Artist หมดเลย

FATMIKE


การเดินทางของ FATMIKE ยังเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น เป็นศิลปินคลื่นลูกใหม่ที่น่าสนใจจริง ๆ ทั้งความคิดและกระบวนการทำงาน ในส่วนหลังเราจะมีการคุยกับ FATMIKE อีกครั้ง ขอให้ชาว UNLOCKMEN รอติดตามกัน แต่ ! สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องรอคืองานจากโปรเจกต์ UNLOCKMEN X Artist ที่เราอุบกันเอาไว้ก่อนหน้านี้ เราจะขอสปอยล์ไอเดียของ Artwork ในบรรทัดต่อจากนี้กันเลย 

ULMMERCH #01 : No More Fuck To Give

FATMIKE X UNLOCKMEN (ULMMERCH #01) : No More Fuck To Give 

CONCEPT IDEA : Artwork เล่าช่วงเวลาของคนที่เจอความเครียด ความกังวล และทุกสิ่งในโลกนี้ที่ถาโถมใส่จนชีวิตของเราถูกเรียกว่า ‘ห่วยแตก’ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ (ไม่ว่าจะเรื่องการเมือง ความเลวร้ายในสังคมที่พร้อมจะเอาเปรียบเรา หรือปัญหาชีวิต) และต่อจากนี้เราจะต้องทำตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อจะได้หลุดออกจากสิ่งแย่ ๆ รอบตัว เล่าเรื่องผ่าน FATMIKE ที่เตะปัญหาจนกระเด็นออกไป

ULMMERCH #01 : UNLOCKMEN by Fatmike

FATMIKE X UNLOCKMEN (ULMMERCH #01) : UNLOCKMEN by Fatmike

CONCEPT IDEA : แนวคิดจากธีมสุสานของ UNLOCKMEN ที่รอบ ๆ ถูกล้อมรอบไปด้วยองค์ประกอบแบบความเท่ของผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นสเก็ตบอร์ด มอเตอร์ไซค์ หรือกีตาร์ไฟฟ้า เล่าผ่านคีย์เวิร์ดสำคัญอย่าง UNLOCKMEN = Community + Family + Unique Style ผ่านไอเดียของความตายแบบ FATMIKE ซึ่งมองว่าคนแบบ UNLOCKMEN คือคนที่เท่ไปจนวันตาย แม้ตายกลายเป็นวิญญาณไปแล้ว ก็ยังคงเท่ ความชอบ หรือไลฟ์สไตล์ที่ติดตัวตอนยังมีชีวิต ก็จะถูกเอาไปคุยกันต่ออย่างเมามันส์ในโลกหน้าตลอดไป

ติดตามคอลเลคชั่น ULMMERCH #01 ได้เร็ว ๆ นี้ 

GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line