ทำงานเร็วไม่เวิร์คเสมอไป วิธีจัดการเพื่อนร่วมงานที่ ‘ด่วนแต่สะเพร่า’ ให้อยู่หมัด

คงไม่มีใครชอบการทำงานอืดเอื่อยสุดล่าช้าของคนในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นคนในทีมด้วยกัน หรือลูกน้องที่คอยรับคำสั่งจากเรา เพราะการทำงานต้องการการเคลื่อนไปข้างหน้าอยู่เสมอ จะให้มานั่งรอคนคนเดียวคงไม่ส่งผลดีแน่ แต่ในทางกลับกันคนในองค์กรที่ทำงานอย่ารวดเร็ว ฉับไว เพื่อให้ได้ชื่อว่า ‘ทำงานเสร็จรวดเร็ว’ ทั้ง ๆ ที่การทำงานนั้นบางครั้งเกิดข้อผิดพลาด หรือสร้างความบกพร่องรุนแรงไว้ให้กับองค์กรอย่างไม่ทันรู้ตัวก็ไม่เป็นผลดีเช่นกัน

ปัญหาก็คือผู้คนในองค์กรต่างชื่นชมการทำงานอย่างเร่งด่วนรวดเร็วราวกับคนคนนั้นเป็นฮีโร่ขององค์กรอยู่เสมอ แม้ผลที่ออกมาจะมีความผิดพลาดตามมาก็ตาม แต่เราก็จะยกย่องว่าการทำงานรวดเร็วคือสุดยอดความเจ๋ง แถมไม่แม้แต่จะมองว่านี่แหละคือปัญหาขององค์กรอีกปัญหาหนึ่ง!

ก็แน่ล่ะใครจะมองว่าการที่พนักงานคนหนึ่งหรือคนหนึ่งในทีมรีบทำงานให้เสร็จลุล่วงจะถูกนับเป็นปัญหาการจัดการในองค์กรไปด้วย แต่จากรายงานเปิดเผยว่าแต่ละองค์กรต้องสูญเสียเงินจำนวนมากไปกับการตัดสินใจหรือทำอะไรอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ได้ชื่อว่าเสร็จ ๆ ไปก่อน แต่ทิ้งความผิดพลาดเอาไว้

อย่างไรก็ตามคนในทีมที่ทำงานแบบเร่งด่วนก็มักจะเป็นคนคนเดียวกับที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นเราก็ต้องระมัดระวังการบอกเขามากที่สุดเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของทีมเช่นกัน วิธีต่อไปนี้จึงน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่จะช่วยจัดการคนในทีมที่ออกแนวด่วนแต่สะเพร่าได้ดีพอสมควร

ช่วยให้เขามองเห็นว่าการกระทำของเขามีผลต่อคนอื่นอย่างไร

หลายครั้งที่คนทำงานด่วน งานเร็ว มองเห็นแต่เป้าหมายของตัวเอง จนอยากรีบทำทุกอย่างให้เสร็จ ๆ ไปเพื่อให้ได้ชื่อว่าทำงานเสร็จ  แล้วปัดงานนั้นให้พ้นตัวเพื่อให้คนอื่นนั้นรับช่วงงานต่อต่อไป

การทำแบบนั้นไม่ได้มีอะไรผิดต่อการทำงานส่วนตัวแต่อย่างใด (ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด) แต่ในฐานะการทำงานเป็นทีมการทำแล้วปัด ๆ ส่งไปไม่มีผลดีต่อความร่วมมือกันเป็นแน่ ดังนั้นต้องทำอย่างไรเพื่อให้เขาเห็นว่านี่คือการทำงานเป็นทีม เป้าหมายคือเป้าหมายของทีมร่วมกันไม่ใช่งานของเขาคนเดียวที่ทำแล้วจบไป ที่สำคัญคนในทีมต้องรู้จักชมผลงานของเขาในแง่กระบวนการการทำ ไม่ใช่ชมแค่ผลงานของเขาที่เขาทำเสร็จแล้ว และชี้ให้เห็นว่าการทำงานของเขาไม่ได้มีค่าแค่ต่อตัวเอง แต่ส่งผลในฐานะความเป็นทีมอย่างไร

ให้เขาระบุผลของการกระทำของเขาออกมา

บางทีการชี้ให้เห็นอาจไม่มากเพียงพอ เราอาจต้องช่วยกระตุ้นให้เขาเห็นว่าการกระทำของเขาส่งผลกระทบอะไรตามมาบ้าง เพราะเขาอาจเห็นแต่ข้อดีที่ทุกคนชมเขา (หรือเขาเห็นเอง) ว่าเขาทำงานเสร็จเร็ว ตัดสินใจได้ด่วนกว่าคนอื่น แต่เขาไม่เคยมองเห็นว่าข้อผิดพลาดที่เกิดจากการทำงานเร็วเกินไปคืออะไร ดังนั้นเราต้องกระตุ้นให้เขาหาให้เจอให้ได้ว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมันคืออะไร มันเกิดจากอะไร เพื่อที่เขาจะได้ฉุกคิดได้ว่าการคิดว่าทุกอย่างต้องเอาความเร็วเข้าว่าอาจใช้ไม่ได้เสมอไป

จับคู่เขากับคนคิดอะไรรอบคอบ

ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการจับคู่คนที่คิดว่าอะไรต้องดีได้ด้วยการเอาความเร็วเข้าสู้กับคนที่เชื่อว่าการคิดอะไรต้องคิดแล้วคิดอีกคิดอย่างรอบคอบก่อนลงมือทำอีกแล้ว การทำงานกับคนที่คิดรอบคอบจะช่วยชะลอความเร็ว ความเร่งด่วนที่เขาเคยคิดว่ามันสำคัญที่สุด และหันมาให้ความสำคัญกับการคิดให้ถี่ถ้วนควบคู่กันไป วิธีนี้อาจไม่ได้ผลทันทีแต่รับรองว่าดีในระยะยาวกับทั้งคู่ เพราะการทำงานในเวลาที่เหมาะสมกับการคิดอย่างถี่ถ้วนพอดีไปพร้อม ๆ กันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ทีมจะมีได้

ฝึกให้เขาแยกให้ออกงานด่วนกับอะไรที่รู้สึกว่าต้องทำให้เสร็จ ๆ ไป

งานที่ด่วนจริง ๆ มันก็มี แต่งานที่ไม่ต้องด่วนขนาดนั้นและควรใช้เวลากับมันก็มีอยู่ ดังนั้นต้องทำให้เขาแยกออกให้ได้ระหว่างความรู้สึกว่าต้องทำให้เสร็จ ๆ ไปกับงานไหนที่ต้องอาศัยความด่วนจริง ๆ แต่ไม่ว่างานที่ด่วนจริง ๆ หรืองานไม่ด่วนก็ต้องทำให้เขารู้สึกว่าไม่ควรรีบจนทำให้เกิดความผิดพลาด และการทำงานให้เสร็จอย่างรวดเร็ว ไม่ได้สำคัญไปกว่าการทำงานอย่างรอบคอบ

การทำงานทุกคนย่อมมีเป้าหมายต่างกันไป UNLOCKMEN ชื่นชมคนที่ทำงานเร็วด้วย มีคุณภาพด้วย ส่วนคนที่ยังติดการทำงานเร็วเพราะรู้สึกว่าต้องเร็วเข้าว่า เราก็เป็นกำลังใจให้ปรับตัว เพื่อ UNLOCK ความสามารถในการทำงานของตัวเองให้ถึงขีดสุด

SOURCE