Entertainment

VILLAINS WITH LOVE วายร้ายที่รัก : JOKER ใบหน้ายิ้มเยาะ ที่หัวเราะให้กับความเลวร้ายของสังคม

By: unlockmen January 18, 2021

เพราะโลกมีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง
มีแสงย่อมมีเงา
มีฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรมก็ย่อมมีวายร้าย

UNLOCKMEN ขอเสนอเรื่องราวของวายร้ายแห่งโลกภาพยนตร์ที่กลายเป็นตำนาน ให้รับรู้ถึงที่มาที่ไปและจุดกำเนิดที่พร้อมสั่นคลอนทั้งโลกภาพยนตร์และโลกใบนี้ทั้งใบ

Batman: The Killing Joke (2008)

หลายคนรู้จักเขาในนามวายร้ายอันดับ 1 ของบุรุษรัตติกาล หลายคนรู้จักในนามผู้ร้ายที่หลายคนหลงรัก ท่ามกลางเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งที่ระคนไปด้วยพลังทำลายล้างอันสูงส่ง ยังมีแง่มุมอันหลากหลายที่ผู้ชายภายใต้ใบหน้าที่เลอะไปด้วยเมคอัพคนนี้ครองใจผู้คนมาอย่างยาวนาน เป็นที่ต้องการสวมบทบาทของบรรดานักแสดง และเป็นกรณีศึกษาทางจิตวิทยาที่นักวิชาการโปรดปราน เรามาทำความรู้จักตัวตลกวายร้ายกันให้ลึกซึ้ง และให้คุณตัดสินใจเองว่า ควรจะ “รักหมดใจ” หรือควรจะ “สาปส่งไปลงนรกตลอดกาล”

 

แรงบันดาลใจอันหลากหลาย ผันแปรความชั่วร้ายของตัวตลกจอมบงการ

Batman #1 1940

ตัวละคร Joker ได้รับการบันทึกในการปรากฏตัวครั้งแรกในฐานะศัตรูสุดโฉดของวีรบุรุษรัตติกาลในคอมมิค Batman เล่ม 1 ที่วางจำหน่ายในวันที่ 24 เมษายน 1940 ตามหลังความสำเร็จของ Batman ที่โลดแล่นในคอมมิค Detective Comics มาตลอด 1 ปีเต็มๆ โดยแรงบันดาลใจนั้น Bill Finger, Bob Kane, และ Jerry Robinson ครีเอเตอร์ทั้ง 3 ต่างก็กล่าวอ้างถึงที่มาที่ต่างกัน โดยแรกเริ่มนั้น Bill Fingerและ Bob Kane ได้แรงบันดาลใจมาจาก ตัวละครเอกจากหนังขาว-ดำคลาสสิค เรื่อง The Man Who Laughs (1928) เรื่องของ Gwynplaine ชายหนุ่มที่ซ่อนเร้นหน้าตา เพื่อปิดบังอดีตที่ถูกผู้เป็นพ่อมีดกรีดปากจนถึงแก้มเพื่อให้เห็นเป็นรอยยิ้มตลอดเวลา จากความเชื่อของลัทธิประหลาด ทำให้เขาต้องปิดซ่อนตัวตนเป็นคนลึกลับ และอำพรางตัวตนไม่ให้ใครรู้

ส่วนภาพร่างแรกนั้น Jerry Robinson ก็เผยว่ามาจากตัวไพ่โจ๊กเกอร์ ซึ่งในความหมายนั้นไพ่โจ๊กเกอร์ถูกใช้เป็นตัวแปรค่าแปรความหมายที่แตกต่างกันตามแต่กติกาของแต่ละเกม มันจึงเป็นได้ทั้งไพ่ใบที่มีแต้มสูงค่ามากที่สุด หรือไพ่ตายที่ไม่มีค่าอะไรเลย Jerry Robinson ซึ่งในตอนนั้นอายุ 17 และเป็นลูกมือของ Bob Kane พยายามที่จะสู้รบในเรื่องของการครอบครองสิทธิ์ในการดีไซน์ แม้จะมีการยื้อแย่งทางเครดิตและการแสดงความเป็นเจ้าของมาอย่างยาวนาน แต่ท้ายที่สุดตัวละครตัวนี้ก็ถูกแปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัยจนแทบจะกลายเป็นสมบัติของชาติไปเลยทีเดียว

 

จุดกำเนิดอันมืดดำ ยิ่งตอกย้ำความมีเสน่ห์ของมหาวายร้าย

แม้กระทั่งที่มายังสับสนขนาดนี้ มิต้องเอื้อนเอ่ยถึงต้นกำเนิดของตัวตนโจ๊กเกอร์ในคอมมิคเลยที่แตกต่างกับตัวตนของ Batman ที่เราได้รู้จักกันในนามของลูกชายมหาเศรษฐีที่พ่อแม่ถูกฆ่าตายตรงหน้า แต่กับโจ๊กเกอร์จุดกำเนิดของเขานั้นมีหลากหลายจนน่าปวดหัว บางเวอร์ชั่นก็เล่าที่มาว่าเขานั้นคือมหาโจรผู้โกรธแค้นแบทแมนที่ทำให้เขาตกลงไปในบ่อกัมมันตภาพรังสีจนเปลี่ยนให้เขาตัวขาวซีดผมสีเขียว บ้างก็ว่าเขาคือดาวตลกผู้ล้มเหลวในชีวิตที่ออกปล้นในนาม Red Hood เพื่อหาเงินมาเยียวยาภรรยาที่ท้องแก่ ไปจนถึงเป็นฆาตกรโรคจิตที่ไล่ฆ่าคนเพียงเพื่อความสนุก และบางคราวเขาก็บอกว่าต้นกำเนิดที่เขาเคยกล่าวมาคือสิ่งที่เขากุเพื่อปั่นหัวแบทแมนเท่านั้น ด้วยความลึกลับซับซ้อนที่เสมือนการปั่นหัวคนอ่านอีกรอบ และการตีความที่แตกต่างของนักเขียนแต่ละยุคแต่ละสมัย ก็เป็นหนึ่งในเสน่ห์ที่โจ๊กเกอร์ได้สร้างให้โลกจดจำมานานกว่า 80 ปี

 

DETECTIVE COMICS #1023. (2016)

ตัวร้ายอมตะผู้ไม่มีวันตาย แถมครองใจมาอย่างยาวนาน

แม้ตัวร้ายตัวต่างๆจะแวะเวียนมาสร้างความปั่นป่วนให้เมืองก็อธแธมไม่เคยต้องเงียบเหงาจากเหล่าอาชญากร แต่โจ๊กเกอร์ก็ยืนหนึ่งในด้านการแวะเวียนมาสร้างสงครามประสาทให้กับแบทแมนอยู่เสมอ เพราะโจ๊กเกอร์นั้นไม่เหมือนตัวร้ายที่พุ่งตรงเข้าปะทะซูเปอร์ฮีโร่ตรงๆแบบไม่มีสติ แต่เขาเป็นทั้งผู้อยู่เบื้องหลังและบงการคนรอบข้าง พร้อมทั้งเผชิญหน้าในแบบที่แม้กระทั่งแบทแมนเองก็ยังไม่คาดคิด ด้วยบุคลิกที่น่าหมั่นไส้ เสียงหัวเราะที่ชวนให้รำคาญใจ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าภายใต้น้ำเสียงทีเล่นทีจริงของเขานั้น กลับเต็มไปด้วยการบีบคั้นและพร้อมปั่นประสาทให้ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและตัวแบททแมนเองต้องปวดหัวในหลายต่อหลายครั้ง พฤติกรรมหลากหลายของโจ๊กเกอร์ไม่ว่าจะเป็นการประกาศเสียงตามสายให้ตำรวจได้รับรู้ถึงการไปเพื่อสังหารหมู่ ก่อนจะหักหลังเลือกจัดการอีกวิธีหนึ่งอย่างเลือดเย็น หรือการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อประกาศให้รับรู้ถึงความโหดหินของเขานั้นเป็นวิธีอันแสนเจ้าเล่ห์ และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขานั้นมีกึ๋นกว่าวายร้ายหลายๆคนที่โลกมีมา

จากลายเส้นสู่หนังใหญ่ที่ขยายบทบาทการแสดงให้เหล่าซูเปอร์สตาร์

ความโด่งดังของ Batman สามารถขยับขยายจากหนังการ์ตูนให้เป็นภาพเคลื่อนไหว แน่นอนว่าโจ๊กเกอร์ก็ตามมาเป็นศัตรูด้วย และบทบาทของโจ๊กเกอร์นั้นก็มักจะเป็นที่ใฝ่ฝันและปรารถนาของเหล่านักแสดงที่ต้องการพัฒนาศักยภาพให้สูงขึ้นกว่าเดิมในด้านการมอบมิติอันซับซ้อนการแสดงที่น่ายกย่อง เรามาดูกันว่ามีนักแสดงท่านไหนกันบ้างที่เคยสร้างปรากฏการณ์แห่งเสียงหัวเราะอันแสนเยือกเย็นนี้

 

Batman The Series ABC Television (1966)

Cesar Romero – Joker the Origin

ในยุคสมัยที่ Batman ยังเป็นเพียงฮีโร่ก๊องแก๊งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันและมุกฮา จากจุดเริ่มต้นที่เป็นซีรีส์ขำๆในสถานีโทรทัศน์ช่อง ABC ที่แพร่ภาพตอนแรกในวันที่ 12 มกราคม 1966 โจ๊กเกอร์ที่นำแสดงโดย Cesar Romero ก็ได้ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในบทบาทดาวตลก ที่ปล่อยมุกมากกว่าปล่อยหมัด ตัวโรเมโร่นั้นนับได้ว่าเป็นนักแสดงชาวคิวบาสุดเก๋าที่มีผลงานการแสดงมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 30s แม้เขาจะได้รับเพียงบทบาทตัวประกอบเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่เพราะความไม่ถือตัวและพร้อมที่จะกระโจนไปรับบทบาทนั้นอย่างไม่ลังเล ทำให้โรเมโร่มักจะเป็นตัวเลือกแรกที่ได้รับการคัดเลือกเสมอ

การรับบทบาทในซีรีส์ Batman นั้นแม้จะเป็นซีรีส์ที่แสดงให้เห็นด้านสว่างและด้านฮา และตัวละครโจ๊กเกอร์ก็เป็นเพียงตัวตลกที่ไม่ได้ลุ่มลึกเฉกเช่นตัวอื่นๆ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เสียงหัวเราะอันเป็นเอกลักษณ์ และการเมคอัพแบบหลุดโลกที่ดูเป็นเรื่องมหัศจรรย์ในยุคนั้น (ซึ่งนับเป็นการเมคอัพที่สุดเนี๊ยบเพราะโรเมโร่ยืนกรานว่าจะไม่ให้โกนหนวดที่เป็นเสมือนโลโก้ประจำตัวของเขาแต่ภาพที่เห็นนั้นเนี๊ยบจนรู้สึกว่าเขาโกนหนวดอยู่ตลอดเวลา) ทำให้ โรเมโร่ เป็น 1 ในไอคอนสำคัญแห่งจักรวาลโจ๊กเกอร์ที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้ โดยเฉพาะเสียงหัวเราะที่ได้มาด้วยความบังเอิญในวันแคสติ้งเมื่อเขาได้เห็นภาพร่างดีไซน์ตัวละครโจ๊กเกอร์จนเขาหลุดขำคำโต และเสียงหัวเราะแบบเผลอไผลไม่ตั้งใจในครั้งนั้น ทำให้เขาได้เป็นไอคอนแห่งยุคสมัยและกลายเป็นต้นขั้วแห่งบรรพบุรุษของโจ๊กเกอร์นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

 

Batman – Warner Bros. (1989)

Jack Nicholson – Joker ผู้บอมบ์งานศิลปะและระบบทุนนิยมด้วยรอยยิ้มอำมหิต

กว่า Batman (1989) จะได้เป็นภาพยนตร์เรื่องยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ฮีโร่สายฮาในแบบซีรีส์ก็ปาไปเกือบ 2 ทศวรรษ โดยครั้งนี้ได้ Tim Burton เป็นผู้กำกับที่เนรมิตเมืองก็อทแธม ให้กลายเป็นเมืองเถื่อนที่เต็มไปด้วยความดำมืด และโจ๊กเกอร์ในเวอร์ชั่นนี้ก็ได้นักแสดงเจ้าบทบาท Jack Nicholson เจ้าของบทบาทที่เก๋ากวนจากภาพยนตร์หลายๆเรื่องที่ผ่านมา มารับบทบาทนี้ ในหนังเล่าถึงโจ๊กเกอร์ที่เริ่มต้นจากการเป็นมือขวาของมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล ก่อนจะถูกแบทแมนจัดการ จนเขาพลัดตกลงไปในบ่อกีมมันตภาพรังสี จนผิวเขาเปลี่ยนเป็นสีขาว ผมกลายเป็นสีเขียว พร้อมใบหน้าแสยะยิ้มอันแสนอัปลักษณ์ โจ๊กเกอร์ในภาคนี้เต็มไปด้วยความกวนที่มีพฤติกรรมอันแสนชั่วร้าย โดยเฉพาะกับเหล่าเศรษฐี ไม่ว่าจะเป็นการบอมบ์งานศิลปะด้วยการเติมรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาลงในงานศิลปะในพิพิธภัณฑ์ รวมไปถึงการขายเครื่องสำอางค์ที่ผสมสารพิษให้ขำจนตาย และจัดพาเหรดโปรยทานแจกเงินให้กับผู้คนบนท้องถนนเพื่อรมแก้สสังหารหมู่ ความอำมหิตของโจ๊กเกอร์ในเวอร์ชั่นนี้เต็มไปด้วยการเย้ยหยันระบบทุนนิยม รวมไปถึงการสร้างปมให้แบทแมนต้องการสังหารวายร้ายตัวนี้เนื่องจากในอดีต ก่อนที่จะมาเป็นโจ๊กเกอร์เขาคือโจรที่ลงมือฆ่าพ่อและแม่ของบรู๊ซ เวนย์ในวัยเด็กนั่นเอง โดยแจ๊ค นิโคลสันอ้างอิงตัวละครโจ๊กเกอร์นี้จากการดูการ์ตูนกระต่ายสุดเกรียนอย่าง Bug Bunny และเพิ่มดีกรีความโรคจิตเป็นทวีคูณ

แม้การรับบทเป็นตัวร้ายโรคจิตนั้นจะเป็นเรื่องปกติของ แจ๊ค นิโคลสัน ที่รับบทบาทแนวๆนี้มาหลายต่อหลายครั้ง และบทบาทโจ๊กเกอร์ทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เปรียบเปรยบทบาทนี้เป็นเสมือนงานป็อปอาร์ตชั้นดี แต่บทบาทเดียวกันนี้กลับเป็นอีกหนึ่งคาแรคเตอร์ที่ทำให้เขาต้องนอนผวาและฝันร้ายจนต้องพึ่งพาจิตแพทย์และยานอนหลับ เขามองว่าตัวละครตัวนี้โหดร้าย เลือดเย็น และแทบจะหาความดีในตัวของเขาไม่ได้เลย การฆ่าคนโดยไม่ได้คิดอะไร แถมยังมองการฆ่าเป็นหนึ่งในเรื่องอารมณ์ขัน ทำให้แม้แต่นักแสดงที่มักได้รับบทบาทที่กวนเกรียนมาโดยตลอดยังต้องหวาดผวาต่อคาแรคเตอร์นี้

 

The Dark Knight – Warner Bros. (2008)

Heath Ledger – Joker สุดจิต ที่ปลิดชีวิตหลังรับบทบาทนี้

และโจ๊กเกอร์ที่กลายเป็นตำนาน และสร้างความหลอนให้กับภาพยนตร์ชุดนี้ จนกลายเป็นหนึ่งในหน้าตำนานที่ปิดท้ายด้วยความสูญเสีย เมื่ออัศวินรัตติกาล The Dark Knight (2008) ถูกรีบู๊ทครั้งใหม่ด้วยท่าทีที่จริงจังและโหดร้ายจนแทบไม่เหลือเค้าโครงหนังฮีโร่สำหรับเด็กอย่างสิ้นเชิง โดยการกำกับของ Christopher Nolan นอกจากเขาได้ทำแบทแมนให้กลายเป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อแล้ว เขายังเติมc9j’คาแรคเตอร์โจ๊กเกอร์ให้กลายเป็นอาชญากรที่เต็มไปด้วยความอำมหิต โรคจิตเต็มขั้น ใช้จิตวิทยาในการป่วนปั่นทุกคนที่มาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะซีนวางระเบิดเรือสำราญทั้งสองลำ ระหว่างเรือที่มีผู้โดยสารปกติ กับเรือที่บรรทุกนักโทษ ที่กระตุ้นด้านมืดของแบทแมนเพื่อให้เขาถอดหน้ากากและเผยตัวตนที่ดำมืดให้ออกมาสู่สาธารณชน รวมไปถึงการระเบิดโรงพยาบาลอย่างไม่เหลือซาก พร้อมทั้งฝากรอยแผลเป็นและความแค้นให้ตราตรึงแบทแมนไปตลอดกาล

Heath Ledger ได้แรงบันดาลใจที่ผสมผสานทั้งจากคอมมิคเวอร์ชั่นที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นคอมมิคที่ดีที่สุดนั่นก็คือ Batman: The Killing Joke รวมไปถึงตัวละครจากนิยาย A Clockwork Orange และศิลปินพังค์ร็อคมากมาย กลายเป็นเวอร์ชั่นที่เข้าถึงความโหดร้ายของตัวละครได้อย่างลุ่มลึก ป่าเถื่อน และเลือดเย็นที่สุดในบรรดาโจ๊กเกอร์เวอร์ชั่นอื่นๆ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคืออาการซึมเศร้าของตัวเขาเอง ที่เข้าถึงบทบาทจนบทบาทได้กลืนกินตัวตนของเขา เขาต้องพึ่งพายานอนหลับเพื่อข่มตานอนหลับสนิท แต่ในค่ำคืนวันที่ 22 มกราคม ปี 2008 Heath ก็ได้จากไปด้วยการใช้ยาเกินขนาด เขาเสียชีวิตก่อนที่หนัง The Dark Knight จะออกฉายถึง 6 เดือน ทิ้งบทบาทสำคัญที่เป็นผลงานมาสเตอร์พีซที่ทำให้เขาคว้ารางวัลในฐานะนักแสดงสมทบฝ่ายชายยอดเยี่ยมในหลายสถาบันไว้เป็นอนุสรณ์รำลึกถึงเขาตลอดกาล การจากไปของเขานำมาสู่การตั้งคำถามถึงความโหดร้ายของตัวละครตัวนี้ ที่กลืนกินชีวิตจริงจนกลายเป็นภาพหลอนแสดงถึงอานุภาพอันรุนแรงที่ตัวละครตัวนี้ส่งผลต่อสังคมอย่างเห็นได้ชัด

 

Suicide Squad – Warner Bros. (2016)

Jared Leto – Joker ผู้อาภัพ

เพราะบทบาทของ Heath Ledger นั้นเป็นบทบาทที่อมตะและยากที่ใครจะเทียบชั้น เมื่อ Warner ประกาศโปรเจกต์ที่ขยายจักรวาลของ DC Comics กับหนัง Suicide Squad (2016) ที่เล่าเรื่องราวผ่านเหล่าตัวละครฝั่งผู้ร้าย และ 1 ในนั้นคือตัวละครโจ๊กเกอร์ ที่นักแสดงทั้งหลาย ทั้งท้าทายและอยากที่จะรับบทบาท และทั้งหวาดกลัวอาถรรพ์จาก 2 นักแสดงที่รับบทบาทก่อนหน้า แต่สุดท้ายคนที่กล้าจะมารับบทบาทตัวตลกสุดหลอนคนนี้นั่นก็คือนักแสดงและศิลปินผู้มากความสามารถ Jared Leto ที่เขาพยายามเข้าถึงบทบาทนี้ด้วยการป่วนกองถ่ายไม่ว่าจะเป็นการส่งกล่องไปรษณีย์ลึกลับที่ในนั้นบรรจุทั้งกระสุน / ถุงยางอนามัย ไปจนถึงซากหนูตาย ให้ทีมนักแสดงร่วมตั้งแต่ Will Smith ไปจนถึง Margot Robbie รวมไปถึงการศึกษาเรื่องราวจากพ่อมดหมอผีและผู้นำลัทธิต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงความโรคจิตสุดขั้วของตัวโจ๊กเกอร์ที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์มนา ด้วยความโหดทั้งภายใน และภายนอกที่แทบไม่ต่างกับฆาตกรโรคจิตที่บูชาซาตาน

แต่ความมุ่งมั่นตั้งใจของจาเรด กลับไม่สัมฤทธิ์ผลสักเท่าไหร่ เมื่อหนังออกฉายและปรากฏตัวโจ๊กเกอร์เพียงไม่กี่ฉาก สร้างความน้อยเนื้อต่ำใจและความเสียหน้าให้กับจาเรดที่เล่นใหญ่ไฟกระพริบมาก ความน่าหมั่นไส้ที่เขาพยายามทำหลังกล้องไม่ได้ปรากฏให้เห็นชัดเจนในหนัง แถมยังโดนคาแรคเตอร์ Harley Quinn ที่เล่นเป็นแฟนสาวของโจ๊กเกอร์กลบเสียมิด โจ๊กเกอร์เวอร์ชันนี้จึงกลายเป็นเวอร์ชั่นที่อาภัพที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ที่มีมา

Joker – Warner Bros. (2019)

Joaquin Phoenix – The Real Joker

และผู้ที่ทำให้ Joker กลายร่างเป็นมนุษย์ปุถุชนทั่วไป ก็คือเวอร์ชั่นล่าสุดที่สวมบทบาทโดย Joaquin Phoenix ที่เปลี่ยนโจ๊กเกอร์เป็นชายหนุ่มผู้น่าเวทนาต้องปากกัดตีนถีบสมัครคัดเลือกเพื่อเป็นตัวตลกสลับกับการไปรับจ๊อบแจกใบปลิวเพื่อนำเงินมาเยียวยาแม่ที่ป่วยไข้ นับเป็นเวอร์ชั่นที่กล้าหาญและฉีกไปจากฉบับอื่นๆที่ผ่านมา ด้วยการสร้างเมืองก๊อทแธมให้กลายเป็นนิวยอร์คในยุค 70s อันแสนเสื่อมโทรม และใช้ความกดดันต่างๆที่ถูกเอารัดเอาเปรียบถาโมโหมซัดจนแปรเปลี่ยนไอ้ขี้แพ้ให้กลายเป็นวายร้ายที่ตอกกลับสังคมด้วยความดิบเถื่อนและเลือดเย็น Todd Phillips ผู้กำกับของเรื่องนำแรงบันดาลใจอันหลากหลายโดยเฉพาะหนังช่วงต้นๆของ Martin Scorsese มาดัดแปลงและสร้างเส้นเรื่องอันแข็งแกร่ง ส่วน Joaquin ก็สนองตอบบทบาทนี้ด้วยการลดน้ำหนักจนเหลือเพียง 52 ปอนด์ พร้อมทั้งการพยายามดีไซน์เสียงหัวเราะให้เป็นเสียงที่ผสมปนเปทั้งความเกลียดชังและความขมขื่น จนสามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขาดารานำชายยอดเยี่ยมมาครอง ต่อจาก Heath Ledger ที่เสียชีวิตก่อนได้สัมผัสรางวัล และตัวหนังก็ได้รับการโต้แย้งถึงความสมจริงที่อาจจะเป็นชนวนแห่งความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นในสังคม รวมไปถึงการขยี้ความบอบช้ำจนเป็นหนังที่ใครต่อใครต่างบอกว่า “ไม่เหมาะสำหรับผู้มีอาการซึมเศร้า” จะอย่างไรก็ดี Joker เวอร์ชั่นนี้ นับเป็นความทะเยอทะยานในการสร้างสรรค์ ที่ทลายกำแพงคาแรคเตอร์ที่สร้างจากการ์ตูนได้เหนือชั้นและยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาตร์เลยทีเดียว

 

โจ๊กเกอร์ นับเป็นตัวละครที่โลดแล่นบนจอมาอย่างยาวนาน แม้จะมีความหลากหลายที่แปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัย และการตีความทั้งในเชิงลึกหรือตื้นเพียงไร แต่สิ่งที่พิสูจน์ได้ถึงความยืนยงองอาจของคาแรคเตอร์วายร้ายภายใต้ใบหน้าขาวโพลน ปากแดงที่กลบบาดแผลแห่งความชอกช้ำ สีผมสีเขียวที่ผิดธรรมชาติ และสูทสีม่วงซอมซ่อนี้ นั่นคือ ในสังคมนี้ยังมีผู้คนมากมายที่ซ่อนตัวตนของโจ๊กเกอร์เอาไว้ และเมื่อใดที่สังคมกดทับเขาจนถึงขีดสุด เมื่อนั้นเสียงหัวเราะอำมหิตที่ซุกซ่อนอยู่ข้างในก็พร้อมระเบิดความชั่วร้ายให้สังคมได้รับรู้อย่างชวนขนหัวลุกเช่นกัน และเราหวังว่าจะเกิดสิ่งนี้แค่เพียงในจอภาพยนตร์เพียงอย่างเดียว อย่าได้เกิดเรื่องจริงให้เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์อีกเลย

Source: Vulture / cbr.com / The Rolling Stone / imdb.com / Batman Fandom

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line