VISIT: Toyota Past Forward ep1 Design Culture ปรัชญาการออกแบบที่ทับซ้อนของแฟชั่นและยานยนต์

ต้องยอมรับว่าในปัจจุบัน พวกเรามีความสนใจในเรื่องความสวยงามมากขึ้นกว่าในอดีตมาก  ในขณะที่ยุคก่อนนั้น  คนส่วนใหญ่จะให้ความสนใจในเรื่องการใช้งานมากเป็นอันดับหนึ่ง  โดยเฉพาะการเลือกซื้อรถยนต์ ที่หลายคนอาจจะโฟกัสที่ฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นหลัก ส่วนในปัจจุบันพวกเราเพิ่มปัจจัยด้านความสวยงามในการออกแบบเพื่อประกอบการตัดสินใจกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หรือเรียกง่ายๆ ว่า  รถหนึ่งคัน ต้องตอบโจทย์ทั้งด้านเหตุผล(การใช้งาน) และ อารมณ์(ความสวยงาม) ได้ทั้ง 2 ข้อ    นี่คือสิ่งที่แบรนด์รถยนต์ Toyota ให้ความสำคัญมาโดยตลอด แต่น่าเสียดายที่สิ่งเหล่านี้ไม่เคยถูกพูดถึงมากเท่าที่ควร

ถ้าให้เราพูดถึงรถยนต์  Toyota ที่ตอบโจทย์ได้ทั้ง 2 ข้อ   เราอาจจะต้องพูดกันเป็นวันๆ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะครบหรือไม่ แต่ถ้าให้เรายกตัวอย่าง   Iconic Japanese Car  ที่ยิ่งใหญ่ระดับตำนานทั้งในด้านงานดีไซน์และสมรรถนะ    เราเชื่อว่าทุกคนต้องมีชื่อรถในใจอย่าง  Toyota 2000GT ปี  1967,  Toyota Celica ปี 1970,  Toyota AE86 ปี 1979,  Toyota Supra ปี 1984,  Toyota MR2 ปี 1993 และนวัตกรรมล่าสุด  Toyota 86 ปี 2014 ทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งในหน้า ประวัติศาสตร์ 80 ปีเท่านั้น   จะเห็นได้ว่าตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน  Toyota ได้สร้างวัฒนธรรมการออกแบบที่สะท้อนความเป็นญี่ปุ่นออกไปสู่ระดับสากลได้อย่างน่าประทับใจ และทั้งหมดนี้ก็เป็นที่มาของการบอกเล่าเรื่องราวที่ไม่ได้ถูกสื่อสารออกมา เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจ  Design Philosophy ของแบรนด์ผ่านแคมเปญ  PAST FORWARD

PAST FORWARD  เกิดขึ้นมาจากคอนเซ็ปต์  “เรียนรู้จากอดีต สร้างสรรค์ผลงานปัจจุบัน ส่งต่อแรงบันดาลใจสู่อนาคต” เป็นแคมเปญ ตัวอย่างที่สร้างสรรค์ และแสดงถึงความเข้าใจในพฤติกรรมของเด็กวัยรุ่น  ด้วยการสื่อสาร  บอกเล่าเรื่องราวในรูปแบบ   Edutainment อย่างแท้จริง  โดยแบ่งออกเป็น 3 Steps   แต่ละ step จะ ค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นของเรื่องราวการดีไซน์ แต่ความเจ๋งที่เราชอบมากคือ การได้ลงมือทำจริง ผ่านการแชร์ประสบการณ์ และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้าน

เราก็มีโอกาสได้ไปสัมผัสกิจกรรมใน step ที่ 1  “Design Culture” เป็น   Exhibition จัดขึ้นที่ The Style by Toyota Siam Square one  ซึ่งเป็นเรื่องราวของพัฒนาการ การออกแบบกว่าจะมาเป็นรถ Toyota ซึ่งสามารถผนวกเข้ากับเรื่องของ  design trend อย่าง  Sneaker Culture ได้อย่างแนบเนียน อาจจะเป็นเพราะทั้งคู่  มีความเหมือนตรงการออกแบบให้มีความเป็นเอกลักษณ์ทำให้เราได้รู้ว่า  ทุกเส้นสายของทั้งรถยนต์  และรองเท้าผ้าใบที่เราเห็นล้วนมีความสำคัญ  มีเหตุผลในการคิดให้มีความสวยงาม และสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะแค่อ่านเฉยๆ แล้วทำตามได้ ของแบบนี้มันต้องลงมือทำเท่านั้น

Toyota  ได้เชิญแขกพิเศษๆ  ที่มีความรู้เกี่ยวกับการออกแบบมาร่วมงานอย่างคับคั่ง  เริ่มตั้งแต่ อาจารย์เก่ง นักออกผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์จาก Toyota, คุณบอล กันตพัฒน์ สิริเกียนติยศ เจ้าของร้าน  “Sneaka Villa” แบรนด์  Street Fashion  ชื่อดัง ที่เริ่มต้น จากความชอบในรองเท้า  sneaker รุ่นพิเศษๆ และมีสะสมอยู่มากมายหลายคู่ รวมถึงน้อยเบียร์ The Voice และน้องเฟมมาร่วมพูดคุยในหัวข้อ Inspiration กับการออกแบบเบื้องต้น

งานนี้ยังมี  Jay the rabbit  สุดน่ารักมาร่วมสร้างสีสัน โดยให้แชร์ไอเดียรองเท้าในฝันของแต่ล่ะคนบนแฟนเพจ ซึ่งมามอบรางวัลให้กับผู้โชคดีทั้ง 5 ท่าน  ซึ่งของรางวัลนั้นหลายๆ คนคงอยากได้ เพราะเป็นรองเท้า nmd r1 ที่ Jay the rabbit กับ the style by toyota ร่วมกันออกแบบ ตกแต่งเพิ่มเติม และยังมีตุ๊กตากระต่ายน่ารักๆ มามอบให้กับผู้ที่มาร่วมมงานอีกด้วย

ภายในงานยังมีการโชว์รถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด Sienta 2016 รถที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากรองเท้า Trekking shoes ซึ่งเป็นความกล้าที่จะฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆ ที่แสนจะน่าเบื่อได้อย่างชัดเจน

มันไม่ใช่ความบังเอิญ แต่วิวัฒนาการในด้านงานดีไซน์ของรถยนต์ และแฟชั่นในแต่ละยุค จะมีการออกแบบที่เรียกว่าเป็น Iconic เกิดขึ้นทุกๆ ปี และการออกแบบทั้งสองสิ่งนี้ ล้วนต้องใช้แรงบันดาลใจจากสิ่งรอบตัวในการสร้างสรรค์ผลงานที่ยิ่งใหญ่เสมอ

หลังจากให้ความรู้เสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาให้น้องๆ ได้ลงมือออกแบบรองเท้า sneaker บ้าง โดยคราวนี้มีโจทย์คือให้ เอารถ Toyota ที่อยู่ใน exhibition เป็นแรงบันดาลใจ ผลงานที่ออกมาทำให้เราต้องตกใจ เพราะภาพสเกตซ์ของน้องๆ นั้นเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งน่าจะเป็นผลสำเร็จจากการทำ Workshop แนว Edutainment และคำแนะนำดีๆ จากผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย

และทั้งหมดนี้ก็เป็นตัวอย่างบรรยากาศของ step 1 “Design Culture” จากแคมเปญ PAST FORWARD ของ Toyota ซึ่งคนที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมผลงานแรงบันดาลใจด้านการออกแบบได้ที่ The Style by Toyota ยังเปิดให้เข้าชม Exhibition ได้ถึง 30 กันยายนนี้ ตั้งแต่เวลา 10:00 – 20:00 และใครที่พลาดกิจกรรมใน Step 1 ไป ไม่ต้องเสียใจ เพราะกิจกรรม step 2 กำลังจะเริ่ม เร็วๆ นี้ แล้วมาดูกันว่าเมื่อ Toyota มาเจอกับดนตรี EDM จะเป็น Edutainment แบบไหน งานนี้เราไม่พลาดอย่างแน่นอนครับ