WATCHLIST : ชี้เป้า 5 หนังย้ายประเทศ ประกอบการพิจารณาว่าจะอยู่ หรือจะไป

ช่วงนี้กระแสโลกโซเชี่ยลไม่มีอะไรจะดังไปกว่าการก่อเกิดเนิดของกรุ๊ป “ย้ายประเทศกันเถอะ” ที่มีคนสนใจมากมาย ทั้งคนในที่อยากออก และคนนอกที่ออกไปใช้ชีวิตเมืองนอกแล้วมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ซึ่ง Unlockmen ไม่อาจจะฟันธงได้ว่าการย้ายออกนอกประเทศจะดีหรือไม่ดี แต่มีหนังมากมายที่พูดถึงประเด็นการย้ายถิ่นฐาน ที่เสนอทั้งด้านมือและด้านสว่าง ไว้ดูประกอบการตัดสินใจว่าว่าเราควรไปประเทศไหน…เอ๊ย ควรย้ายไปดีหรือไม่ ไปดูกันว่ามีเรื่องอะไรกันบ้าง

 Minari (2020) ลงหลักปักฐานในแผ่นดินแห่งความฝัน

เริ่มต้นด้วยหนังกระหึ่มเวทีออสการ์ปีล่าสุด ที่แม้จะคว้ารางวัลไปเพียงรางวัลเดียว แต่ประเด็นของครอบครัวชาวเกาหลีผู้ทิ้งจากถิ่นฐาน ข้ามซีกโลกมาเพื่อตามล่าหาฝันในแบบอเมริกันดรีม เริ่มต้นจากการทำฟาร์มคัดแยกเพศลูกเจี๊ยบ ก่อนจะพบว่าเป็นแค่ลูกจ้างไม่อาจจะเติบโตได้ พวกเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายข้ามเมืองมายังพื้นที่ห่างไกลสุดลูกหูลูกตา เพื่อดำเนินฝันที่เริ่มต้นจากศูนย์ให้งอกงามได้อีกครั้ง

หนังอบอุ่นใจที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวในวัยเด็กของตัวผู้กำกับ Lee Isaac Chung ที่หวนรำลึกในยุคสมัย 80s ที่ความเป็นชาวเกาหลียังคงแปลกแปร่งในสายตาของเหล่าฝรั่ง แต่ด้วยความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่มากั้นขวาง ทั้งจากพื้นดินที่ไม่คุ้นชินต่อสภาพอากาศ รวมไปถึงเรื่องราวความขัดแย้งภายในครอบครัว ที่พ่อแม่ลูกทั้ง 2 และคุณยาย ต้องฝ่าฟันมันไปให้ได้ มันจึงกลายเป็นหนังที่สะท้อนภาพการล่าฝันของคนต่างวัฒนธรรมที่แสนงดงาม เสริมสร้างกำลังใจ และบ่งบอกได้ถึงความอดทนของคนพลัดถิ่นที่ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอน มาเสี่ยงโชคในเมืองแปลกแยกแห่งนี้ โดยชื่อหนัง Minari นั้นหมายถึงดอกมินาริ ดอกไม้ที่สามารถขึ้นได้ในทุกๆที่ ทนทานต่อลมฟ้าอากาศ ไม่ต่างกับครอบครัวนี้ ที่ต้องเจอทั้งลมฝนแห่งปัญหา หรือแดดแผดจ้าแห่งความหวัง ดังนั้น “ความอดทน” ก็เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สามารถเอาชนะได้ยามที่เราต้องอยู่ในที่แห่งใหม่

In America (2002) ตั้งเป้าหมาย เพื่อให้ไกลสุดทางฝัน

เรื่องนี้ก็ยังคงวนอยู่ในอเมริกา แต่เปลี่ยนจากชนบทสู่เมืองใหญ่ เมื่อครอบครัวชาวไอริช ใช้วีซ่านักท่องเที่ยว แอบมาอาศัยอยู่อย่างหลบๆซ่อนในชุมชนเสื่อมโทรม โดยแม่รับจ้างร้านกาแฟ ส่วนผู้เป็นพ่อนั้นมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดง จึงพยายามออดิชั่นที่ต่างๆ ความยากเค้น ขัดสน ยากไร้ ซ้ำยังมีฝันร้ายจากลูกชายคนแรกเสียชีวิตในวัย 5 ขวบ นำพาให้พวกเขาต้องอยู่อย่างทุกข์ตรม มีเพียงความหวังและความฝันที่ยิ่งใหญ่ และความไร้เดียงสาจาก 2 ลูกสาวตัวน้อย ที่มอบอ้อมกอดอันอบให้พวกเขาไม่ย่อท้อ และสู้ต่อเพื่อครอบครัว และเพื่อความหวังอันยิ่งใหญ่ท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองนิวยอร์ค

หนังประกายความหวัง ผ่านแววตาอันไร้เดียงสาของลูกสาวทั้ง 2 ที่ทำให้ พ่อและแม่ ต้องสู้สุดใจ เพื่อให้อยยิ้มของลูกๆกลับคืนมา การ”มีเป้าหมาย” ก็เป็นหนึ่งในกลไกที่จะพาเราไปได้ไกล และใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพได้ ดังเช่นครอบครัวนี้ ที่เป้าหมาย มีไว้พุ่งชน

The Proposal (2009) เมื่อพบคนรู้ใจ อย่ารอช้า หอบผ้าผ่อนไปอยู่กับเค้าเลย

หัวหน้าบ.ก.สาว สัญชาติแคนาดา กำลังปวดกบาลเพราะใบอนุญาติการทำงานสำหรับคนต่างด้าวในอเมริกากำลังจะหมดลง ทั้งๆที่เธอกำลังมีหน้าที่การงานอันแสนรุ่งเรืองและก้าวหน้า ทางเดียวที่จะถือครองสัญชาติอเมริกันได้ คือต้องหาสามีชาวอเมริกันเป็นตัวเป็นตน แต่สำหรับคน Lucky in Game, Unlucky in Love อย่างเธอจะไปหาแต่งกับใครทันล่ะ เธอจึงต้องวานขอผู้ช่วยหนุ่มสุดติ๋มมาเป็นแฟนกันหลอกๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองยอมให้เธออยู่อมเริกาต่อ แต่มุกนี้คนก็ใช้กันเยอะจนเจ้าหน้าที่จับพิรุธได้ ทางออกทางเดียวนั้นก็คือ เธอกับผู้ช่วยของเธอจะต้องศึกษาดูใจและจดทะเบียนสมรสกัน และแสดงให้เจ้าหน้าที่เห็นว่าทั้ง 2 รักกันจริง ความซวยจึงตกมาอยู่กับทั้ง 2 ที่ปกติเป็นไม้เบื่อไม้เมากันอยู่แล้ว ต้องมารักกันให้ได้

อีก 1 ในวิธีการย้ายประเทศที่ได้ผลที่สุดนั่นก็คือ หาคนรักที่ครองสัญชาติในประเทศนั้น ๆ ให้ได้ เพราะความรักจะเป็นใบเบิกงานให้คุณสามารถโอนสัญชาติและไปใช้ชีวิตในประเทศนั้นๆได้อย่างสบายใจ รู้อย่างนี้แล้ว เอาล่ะ… หนุ่มโลด สาวโสดทั้งหลาย ถ้าพร้อมแล้วก็หาโลเคชั่นที่อยากไป และหาคนรู้ใจมาครองคู่ทันที ณ บัด นาว!!!

Lost in Translation (2003) ภาษาเป็นเรื่องสำคัญ ไม่งั้นอาจสตันท์ไม่รู้ตัว

ท่ามกลางความวุ่นวายในเมืองแสงสีอย่างโตเกียว ที่ ๆ ภาษาอังกฤษเป็นสิ่งแปลกแปร่งมาก ๆ และด้วยประเทศที่ไม่ถนัดซึ่งภาษาอังกฤษเลย ก็ทำให้นักแสดงตกอับชาวฮอลลีวูด ต้องมารับงานเป็นพรีเซ็นเตอร์เหล้า และต้องอยู่อย่างหงอยเหงาเพราะไม่สามารถสื่อสารกับใครได้เลย เช่นเดียวกันกับสาวน้อยที่ติดตามสามีมาทำงานก็ตกอยู่ในห้วงของความเหงาและความโดดเดี่ยวของภาษาอันสื่อสารลำบากเช่นกัน ความเหงาจึงเป็นขั้วบวกขั้วลบที่ทำให้ทั้ง 2 ได้มาเจอกันเพื่อแบ่งปันช่วงเวลาอันแสนเคว้งคว้างนี้ในเมืองใหญ่

หนังเหงาจับใจที่เป็นที่กดไลก์ของคอหนังคุณภาพเรื่องนี้ แม้จะผิดโจทย์ในเรื่องของการย้ายถิ่นฐานอยู่บ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนเมื่อยามต้องย้ายไปปักหลักประเทศอื่นคือเรื่องของ “ภาษา” ที่หากเราฝึกฝนจนชำนาญ แต้มต่อในการอาศัยอยู่และสภาพคล่องทางการสื่อสาร ก็อาจจะช่วยให้คุณสามารถอยู่ในประเทศนั้นได้อย่างสบายใจ หรือไม่ก็หาเพื่อนคู่ใจที่มีความรู้ทางภาษานั้นๆ เพื่อช่วยแบ่งปันและเรียนรู้ในการอยู่ในประเทศนั้นๆอย่างมีประสิทธิภาพ

หนีตามกาลิเลโอ (2009) เช็คให้ชัวร์ เราแค่อยากทัวร์ หรืออยากไปปักหลักประเทศนั้น

และปิดท้ายด้วยหนังเดินทางออกนอกประเทศแบบไทย ๆ 2 สาวที่มีปมชีวิตแตกต่าง คนหนึ่งอกหัก อีกคนโดนพักการเรียน จึงควงแขนเพื่อเดินทางในแบบเที่ยวไปด้วยทำงานไปด้วย เพื่อตามรอยกาลิเลโอ 3 ประเทศ จากลอนดอน ไปปารีส และสิ้นสุดที่เวนิส หนังเล่าความผูกพัน และเล่าเรื่องราวของแรงงานต่างด้าวชาวไทย ที่บางคนก็ค้นพบความฝันด้วยการหาตัวเองเจอ และใช้ชีวิตที่เมืองนอกได้อย่างสบาย แต่บางคนต้องหนีหัวซุกหัวซุนเวลาเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้ามาตรวจสอบ เพื่อสะท้อนว่าการไปเมืองนอกไม่ใช่เรื่องสบาย ต้องศึกษาและหาข้อมูลดี ๆ ถามใจตัวเองว่า “เราแค่อยากเที่ยว อยากใช้ชีวิต หรืออยากลงหลักปักฐานที่ประเทศนั้น”