Life Sucks!! ถ้าชีวิตที่เป็นอยู่ในตอนนี้มัน “โคตรห่วย” อะไรบ้างที่จะช่วยคุณได้

ทุกคนคงน่าจะเคยผ่านช่วงเวลาแย่ๆ ทำอะไรกว่าจะสำเร็จก็ต้องมีปัญหาจุกจิกๆ เข้ามาตลอด ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้ทุกที ซึ่งช่วงเวลาแย่ๆ ของแต่ละคนจะมากน้อยแค่ไหนก็คงจะแตกต่างกันไปตามวาระ และโอกาส  แต่ว่าคุณเคยคิดถึงวิธีรับมือกับช่วงเวลาห่วยๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับชีวิตของคุณไว้บ้างรึเปล่า มีวิธี และการทำตัวอย่างไรเพื่อรับมือกับปัญหาเหล่านั้น ให้ผ่านพ้นไปแบบรวดเร็ว และไม่มีผลกระทบต่อชีวิตของคุณให้ได้มากที่สุดเพื่อความอยู่รอดในช่วงเวลาขาลงของชีวิต

วันนี้เรามีวิธีที่ดีกว่าแค่นั่งหายใจทิ้งไปวันๆ ยอมให้ความซวยซัดกระหน่ำจนชีวิตของเราพังพินาศจนกู่ไม่กลับ มาให้ได้ดูกันว่า มีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยทุเลาความรู้สึกพังๆ ของคุณได้ในตอนที่ชีวิตกำลังอยู่ในช่วงขาลง

ปล่อยให้ตัวเองรู้สึกแย่ได้เต็มที่

คุณมีสิทธ์ที่รู้สึกแย่ และเซ็งกับช่วงเวลาห่วยๆ ได้ แต่ไม่ใช่ตลอดเวลา มันควรจะเป็นแค่ตอนที่ทุกสิ่งทุกอย่างเพิ่งจะเกิดในตอนแรกเท่านั้น  เพราะฉะนั้นเมื่อคุณต้องเจอกับช่วงเวลาที่เลวร้าย  อันดับแรกจงปล่อยให้ความรู้สึกแย่ๆ มันถาโถมมาซะให้เต็มที่ เพราะคุณคงไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปแล้วได้

แต่เมื่อคุณเข้าใจถึงปัญหาเข้ามาในชีวิตแล้ว ก็ควรจะลุกออกมาจากจุดนั้น อย่าปล่อยให้ความรู้สึกแย่ๆ และข้อผิดพลาดเหล่านั้นกลับมาหาคุณอีก คุณสามารถจะบ่นจะด่าทอต่อโชคชะตา ที่พาชีวิต และความรู้สึกของคุณให้ดิ่งลงมาถึงจุดนี้ได้เต็มที่ ไม่มีใครห้าม และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดด้วย เพราะการบ่น สบถ คำต่างๆ ออกมาในขณะที่ทั้งชีวิต ความรู้สึก และสภาพจิตใจของคุณกำลังแย่ถึงขีดสุด มันคือการกระทำที่ช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ ให้กลับมาเป็นปกติทางนึงเช่นกัน  การระบายความรู้สึกด้วยการสบถบ่นออกมานั้น นอกจากจะทำให้คุณสบายใจขึ้นได้แล้ว ยังช่วยให้คุณกลับมาเป็นตัวของคุณเองได้เร็วขึ้นด้วย  แต่ที่สำคัญที่สุดคือ รู้สึกแย่ได้ แต่ไม่ใช่ตลอดเวลา เพราะถ้าขืนเป็นแบบนั้น คุณคงหมดอาลัยตายอยาก และไม่แม้แต่จะคิดที่จะพยายามทำให้ชีวิตคุณกลับมาเป็นปกติด้วยซ้ำ

เผชิญหน้าสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าเลวร้ายแต่ไหนก็ตาม

การเผชิญหน้ากับสิ่งร้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิตคุณนั้น มันแตกต่างกับการยอมจำนนโดยสิ้นเชิง เพราะการเผชิญหน้ามันหมายถึงคุณพร้อมที่จะรับมือ และแก้ไขสิ่งเลวร้ายที่จะเกิดขึ้น ให้ดีขึ้นด้วยความกล้าหาญ และสติปัญญา แต่การยอมจำนน มันคือการยอมแพ้โดยไม่แม้แต่จะทำอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น ต่อให้คุณอยู่ในช่วงชีวิตที่ย่ำแย่แค่ไหน โชคชะตาจะเหยียบย่ำชีวิตคุณจนล้มจมดินไปกี่ครั้งก็ตาม คุณก็จะมีหนทางที่จะกลับมายืนขึ้นใหม่ได้ทุกครั้ง จำไว้ว่ามันไม่มีอะไรที่ตลอดกาล ทุกอย่างต้องมีจุดสิ้นสุดของมันอยู่เสมอ ช่วงเวลาที่เลวร้ายในชีวิตคุณก็เช่นกัน

ทำเพื่อตัวเอง

ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมันโหดร้าย และไม่เป็นไปตามที่เราต้องการแล้ว เราเองก็ควรจะทำอะไรให้กับตัวเองได้มีความสุขขึ้นบ้างเช่นกัน ลองหาเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อนแบบจริงจัง อยู่ไกลๆ จากสิ่งที่จะทำให้คุณต้องจมอยู่กับความวุ่นวายดูซักพัก  ใช้เวลาไปกับกิจกรรมที่คุณชื่นชอบ หรือทำแล้วรู้สึกสบายใจ เช่น การออกกำลังกาย ก็ถือว่าเป็นยาที่ใช้รักษาสภาพจิตใจที่ขุ่นมัวได้อย่างดีอย่างนึง เช่นเดียวกับการออกไปเจอเพื่อนๆ หรือคนที่คุณรู้สึกอยู่ด้วยแล้วทำให้คุณลืมช่วงเวลาห่วยๆ ในชีวิตคุณไปได้ และกลับมามีความสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็ได้เช่นกัน อย่าปล่อยให้ช่วงเวลาแย่ๆ ทำให้จิตใจของคุณต้องแย่ไปด้วย เมื่อคุณทำให้ตัวเองมีความสุขได้ด้วยตัวเองแล้ว สิ่งต่างรอบข้าง และช่วงเวลาที่เคยเลวร้าย ก็จะค่อยๆ ผ่านไปโดยที่คุณจะรู้สึกถึงมันได้น้อยลง

จำไว้ว่าเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้น จะทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น

เมื่อคุณก้าวผ่านสิ่งๆ นึงไปได้แล้ว คุณจะเข้าใจ และรู้วิธีจัดการกับมันอย่างถูกต้องในครั้งต่อไป นั่นคือความหมายของคำว่า ประสบการณ์ และด้วยประสบการณ์ที่คุณได้เรียนรู้มานี้ จะทำให้คุณเติบโต และแข็งแกร่งขึ้น ฉะนั้นหากคุณลองมองดูดีๆ ว่าช่วงเวลาที่ชีวิตไม่เป็นไปตามที่คุณต้องการแบบนี้ มีอะไรที่จะทำความเข้าใจ เรียนรู้ และหาประโยชน์จากมันได้บ้าง ทุกสิ่งทุกอย่างจะไม่สามารถทำอะไรคุณได้เลย ถ้าหากคุณรู้จักสิ่งๆ นั้นดีพอ ปัญหาหรืออะไรก็ตามที่เข้ามาในทุกช่วงของชีวิต  คุณจะผ่านมันไปได้ และคุณก็จะแข็งแกร่งมากขึ้นตามไปด้วย

การที่คุณรู้สึกว่าชีวิตของคุณกำลังตกต่ำ และไม่มีความสุขแบบสุดๆ ขณะนี้ มันเป็นแค่ความรู้สึกนึงที่ผ่านเข้ามาแล้วก็จะผ่านไปแค่นั้น  เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่า บนโลกนี้ไม่มีสิ่งไหนที่จะอยู่ไปตลอดกาลโดยที่ไม่มีวันสิ้นสุด ความสุข ความทุกข์ก็เช่นเดียวกัน  เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งยอมแพ้ถ้าคุณรู้สึกว่าชีวิตของคุณในตอนนี้มันเลวร้าย และเต็มไปด้วยปัญหา ลองคิดซะว่ามันเป็นเหมือนช่วงการสอบไฟนอลเพื่อเลื่อนชั้นในตอนที่เราเรียนหนังสือ เพื่อให้คุณก้าวผ่านจากจุดที่คุณอยู่ ไปสู่อีกระดับนึงของชีวิตที่ดีกว่าเดิม

SOURCE : LifeHack