

Business
7 เหตุผลว่า “ทำไมต้องมีรายได้หลายทาง ชีวิตมันจะยากไปมั๊ย?”
By: Lady P. May 5, 2016 32195
ยิ่งเราโตขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น การทำงานหาเงินเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา ทำให้หลายคนหันมาหาวิธีการลงทุนในหลายรูปแบบ เพื่อให้มีรายได้หลายทาง ทีมเราเองได้อ่านบทความดีๆ ที่เขียนโดยเจ้าของเพจ นิ้วโป้ง Fundamental VI เกี่ยวกับเรื่องนี้ เราจึงอยากนำแนวคิดดีๆ มาแบ่งปันกัน
คำถามที่เราอาจเคยได้ยินจากเด็กรุ่นน้องที่ถามว่า “รายได้หลายทางจะมีไปทำไมพี่?” ทำงานมากๆ ทำงานหนักๆ ทำงานหลายๆ อย่าง แปลว่าคนพวกนี้ คือพวกโลภ หรือพวก ”อยากรวย” ใช่หรือป่าว?
พี่โป้งจึงได้ตอบไปว่า ไม่ใช่ครับ พวกเขาเป็นพวก “อยากรอด”
ทำไมต้องอยากรอด อยากรอดจากอะไร? รายได้หลายทาง กับการอยากรอด มันเกี่ยวข้องกันอย่างไร พี่นิ้วโป้งจึงได้วิเคราะห์เทรนด์จากสิ่งที่กำลังจะเกิดในสังคมไทยในอนาคต มา 7 ข้อ ให้เราลองคิดตามกัน
1. ไทยเราจะเข้าสู่ สังคมส.ว. (สูงวัย) แน่นอน ยุคที่ผู้เกษียณจำนวนมาก จะมีรายได้ลดลงๆ แต่รายจ่ายเพิ่มขึ้นๆ โดยเฉพาะรายจ่ายด้านสุขภาพ และค่าครองชีพที่เพิ่มแบบเกินคาด
2. เบี้ยผู้สูงอายุ จากกองทุนชราภาพที่รัฐจ่ายให้ทุกเดือนจะไม่เพิ่ม ไม่พอใช้ และ (อาจจะ) ไม่มีจ่ายผู้ประกันตนรุ่นหลัง
3. คนที่เกษียณส่วนใหญ่ยังพึ่งพาดอกเบี้ยเงินฝาก ซึ่งฟันธงเลยว่าดอกเบี้ยเงินฝากจะต่ำนานจนไม่ต้องถามว่า นอนกินดอกยังรอดอีกหรือ?
4. คนไทยส่วนใหญ่ จะยังไม่กล้าลงทุนในหุ้น พวกเขายังมองตลาดหุ้นเป็นการพนัน พวกเขาไม่ซื้อตราสารหนี้ ไม่เอาพันธบัตร เพราะดอกเบี้ยมันต่ำ …ยิ่งต่ำก็ยิ่งรู้สึกไม่มั่นคง ก็ไม่ยอมลงทุนกันเข้าไปใหญ่ พอเอาไปฝากแบงค์ ก็ร้องจ๊ากว่า เงินไม่งอกเงย
5. ลูกจ้างชาวไทย จะรู้สึกเครียดมากขึ้น เพราะบริษัทสมัยนี้ ขายของยาก ต้องลดค่าใช้จ่าย ไม่จ้างคนเพิ่ม เปลี่ยนงานยากเย็น คนอายุ 20-30 หางานยากมาก คนอายุ 40-55 ตกงานแล้วตกงานเลย
6. ข้าวปลาอาหาร ค่าครองชีพ ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าตั๋วหนัง ค่าทางด่วน ค่าจอดรถ มีแต่จะสูงขึ้นๆ
7. ช้อปปิ้งออนไลน์ กำลังบุกถึงมือถือของผู้คน คนจะซื้อของด้วยความวู่วามมากขึ้น ทำให้มีแต่เรื่องเสียตังค์ง่ายๆ แต่หาตังค์ทำไมมันโคตรยาก
หลายท่าน อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะเผลอสบถออกมาว่า “นิ้วโป้ง วันนี้เมิง ขู่กรูแรงจัง” “ผมไม่ได้ขู่ครับ เอาเรื่องที่ต้องเกิดมาพูดครับ ทุกวันนี้ไปบรรยายยังเจอบางท่านเชื่อว่า ชีวิตนี้ไปคิดอะไรมาก เอะอะจะเก็บเงินอะไรมากมาย เดี๋ยวมันก็ผ่านไปได้เอง รุ่นพ่อแม่เรายังผ่านไปได้ไม่เห็นต้องเก็บเงินอะไรเยอะแยะ”
เอ้าพี่! ก็นั่นมันรุ่นพ่อแม่ ไม่ใช่รุ่นเรา!!!
ยุคพ่อแม่ มันคือยุคมีลูก 10 คน มาช่วยเลี้ยงพ่อแม่ ไม่ใช่ยุคลูกคน สองคน อย่างรุ่นเรา เด็กมันเลี้ยงคนแก่ 2 คนไม่ไหวหรอก ไม่ใช่เขาอกตัญญูนะ แต่แค่เลี้ยงตัวเองให้ได้ก็ยากแล้วครับ
ยุคพ่อแม่ มันคือยุคคนไทยกลับไปทำเกษตรได้ ไม่ใช่ยุคเราที่ผู้คนเข้าสู่โรงงานเป็นลูกจ้างกันหมด อย่างรุ่นเรา
ยุคพ่อแม่ มันคือยุคที่ฝากเงินกินดอก 12-15% มาเป็นสิบๆปี ไม่ใช่ยุคเราที่ฝากเงินมา 10 ปี ยังไม่ได้ดอกเท่ารุ่นเขาปีเดียว
ทางแก้มีไหม ? … มีครับ ก็ต้องมีรายได้หลายทางไง
เช่น พ่อบ้านคนหนึ่ง กลางวันทำงานออฟฟิศ ตอนเย็นขับแท๊กซี่ UBER ตอนค่ำมาศึกษาเรื่องการลงทุนในหุ้น/กองทุน บริหารเงินออมให้งอกเงย, ภรรยาขายเสื้อเกาหลีบน IG, ลูกสาววัยรุ่นไปทำพาร์ทไทม์ผ่านแอพ Take Me Tour เป็นผู้ช่วยไกด์ พาคนจีนนั่งเรือจากโรงแรมแชงกรีล่า ไปเที่ยวท่าพระจันทร์ ฯลฯ
ความมั่นคงของรายได้ ไม่ใช่มาจากความมั่นคงของบริษัทที่เราทำงานอยู่ แต่มันมาจาก จำนวนแหล่งรายได้ที่เรามี มีมากคือมั่นคงมาก และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ต่างประเทศเขาทำกันมาแล้ว และเรียกสิ่งนี้ว่า Gig Economy
ทำได้แบบนี้ ไม่ใช่แค่รอดครับ … แต่รวยได้เลย!!! พี่นิ้วโป้งกล่าวไว้
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ใครยังมีรายได้ทางเดียว อาจต้องรีบหาทางหนีทีไล่กัน เพราะออมก่อน ย่อมรวยกว่า ส่วนใครชอบบทความดีๆ ของพี่นิ้วโป้ง สามารถไปติดตามได้ที่แฟนเพจ นิ้วโป้ง Fundamental VI นะคะ