Work

ทำงานที่บ้านเหนื่อยกว่าออฟฟิศ ค้นอาการหมดแรงใจที่พนักงาน WFH หลายคนรู้สึกและอยากหาทางแก้

By: anonymK March 31, 2020

ช่วงนี้ออฟฟิศหลายแห่งกำลังขยายความกดดันจากผลกระทบของโควิด-19 การทำงาน Work from Home มันจึงเป็นบาลานซ์ความรู้สึกของคน 2 ฝั่ง ระหว่างนายจ้างกับคนทำงาน เพราะความตึงเครียดของรายจ่ายที่สวนกับรายรับ จึงอาจก่อให้เกิดหลายสถานการณ์ที่ทำให้เผลอแสดงอาการกระทบกระทั่งกัน ชวนให้หมดใจและย่ำอยู่กับที่

“ทำงานอยู่บ้านไม่ได้สบายอย่างที่คิดสักหน่อย”

เราเชื่อว่ามนุษย์กำพร้าออฟฟิศหลายคนตอนนี้กำลังรู้สึกแบบนี้ แต่คุณรู้สาเหตุของความรู้สึกเหนื่อยล้าอ่อนแรงนั้นจริง ๆ หรือเปล่าว่ามันเกิดจากอะไรและจะแก้ได้อย่างไร UNLOCKMEN จะพาคุณไปทำความเข้าใจความรู้สึกเหนื่อยล้าจากข้างในของคุณเอง

เราไม่ได้อยากทำงานที่บ้าน

เหตุผลแรกคือ “บ้าน” อาจไม่ใช่สถานที่ที่สะดวกสำหรับการทำงานของทุกคน คุณรู้สึกว่า “เราไม่ได้อยากจะขอ Work from Home” สักหน่อย ไม่ได้อยากให้กิจวัตรมันเปลี่ยนไปจากเดิม สถานการณ์มันบังคับต่างหาก อิสรภาพที่ไม่ได้เลือกจึงอาจนำอาการสับสนและหงุดหงิดมาให้

วิธีแก้: หลายคนบอกว่าฟีลออฟฟิศมันให้งานเราได้มากกว่า งั้นเติมเต็มทุกวันเวลาด้วยตารางที่ทำให้กิจวัตรการทำงานเราไม่ต่างจากการทำงานออฟฟิศปกติ ทั้งการทั้งประชุม การควบคุมเวลาทำงาน การหยุดพัก สิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นวิธีลดความหงุดหงิดได้ เพราะมันทำให้คุณควบคุมช่วงเวลาการทำงานและความเป็นอิสระได้เหมือนตอนที่ยังทำงานที่ออฟฟิศตามปกติ

เราเหนื่อยกับการเรียนรู้เทคโนโลยี

สายครีเอทีฟหลายคนยังจำเวลาคิดงานที่ระดมเป็นก้อนเดิมที่แค่ลุกจากโต๊ะขยับไปนิดนึงก็สามารถเขียนไว้บน whiteboard ได้ แต่ทุกวันนี้เราเริ่มเหนื่อยล้ากับบางจุดที่ขลุกขลัก ทั้งเรื่องการเรียนรู้ซอฟต์แวร์ที่งานผ่านทางไกลเพื่อแบ่งปันกับทีม ยิ่งถ้ามีปัญหารับสารได้ไม่ตรงกันเหมือนแต่ก่อน ต้องปรับแก้เทคโนโลยีที่บางคนรู้สึกว่าไม่ค่อยถูกกัน เรื่องนี้ก็ทำให้เหนื่อยได้มากกว่าปกติจริง ๆ

วิธีแก้ : ทางออกคือพยายามต่อไป เรื่องนี้ตั้งต้นอาจจะเหนื่อยหน่อย แต่ก็ต้องยอมรับว่าเราต้องคิดต้องทำต่อเนื่องเพราะมันกำลังเป็นสิ่งที่เราจะต้องทำ auto เมื่อไรที่สมองเราเรียนรู้ ความพยายามลดลง ความเหนื่อยก็น้อยลงตาม (เรื่องนี้มันอยู่ที่การฝึกฝน)

คุณคิดถึงการอยู่กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น

เหนื่อยเพราะความคิดถึง หลายคนก็เริ่มรู้สึกงง ๆ ว่ามันเกี่ยวอะไรกัน สำหรับใครที่ลองสังเกตตัวเองช่วงระหว่างอยู่บ้านว่าเริ่มรู้สึกน้ำลายบูด ไม่ได้คุยกับใคร ความเหงาเข้าแทรกจนไร้สมาธิ แปลว่าคุณเกิดปัญหาจากสิ่งนี้

เหตุผลเพราะแต่ก่อนคนเราชอบการออกไปทำงานร่วมกับคนอื่น เจอผู้คนรอบข้าง ฟรีแลนซ์ก็เข้าร้านกาแฟได้ แต่ทุกวันนี้ลดทอนเหลือเฉพาะเกี่ยวข้องกับเราจริง ๆ หลายคนหายหน้าหายตาไปจากชีวิตเราเลย ดังนั้นภาวะที่โดนบังคับให้เก็บตัวจึงทำให้เราเศร้าหมอง หมดพลัง เพราะถ้าอยากจะปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มคนเหล่านั้นเราอาจจะต้องแยกการ Video Call หรือเพิ่มขึ้นตอนขึ้นมา ใช้ความพยายามมากขึ้น

Slack Social Media for Business

วิธีแก้ : เข้าถึงการเชื่อมต่อด้วยช่องทางใหม่ ๆ IM, Slack หรือการส่งข้อความถึงกันในช่องทางที่ถนัด แม้มันจะทำให้รู้สึกประหลาดบ้างในช่วงแรก แต่จำไว้ว่าคนอื่นเขาก็มีภาวะความกังวลที่ไม่ต่างจากเรา ดังนั้นการสร้างช่องทางติดต่อเหล่านี้ไว้ มีก็ไม่เสียหาย

คุณฟุ้งซ่าน

ต้องทำงานในบ้านอาจจะต้องเจอสิ่งกวนใจตลอดเวลา เพราะบ้านของคนที่ไม่ได้อยู่เพียงลำพังอาจจะมีลูกเด็กเล็กแดง พ่อแม่หรือญาติที่มาคอยเบี่ยงเบนความสนใจตลอด หรือบางทีจากงานประจำที่ทำอยู่ พอไปนั่งที่บ้านอาจจะไม่ได้มีเวลาเพราะเจอภารกิจแทรก อย่างการทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า ฯลฯ

วิธีแก้ : แบ่งเวลาการเหนื่อยจากจอไปนั่งกินข้าวและใช้เวลากับความครอบครัวบ้าง เซตให้เรื่องนี้เป็นหนึ่งในแผนที่เราต้องทำในแต่ละวัน จะลดความรู้สึกฝืนและเครียดลง แถมช่วยให้ สุขภาพจากการลุกเดิน และความสัมพันธ์ในครอบครัวดีขึ้นได้ด้วย

คุณเจอแรงกดดันแบบที่ไม่เคยเจอ

เรื่องนี้อาจจะไม่ได้มาจากงาน แต่มาจากการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป สภาพชีวิตตอนนี้ที่คุณต้องรัดเข็มขัด ไม่ได้ออกไปกินข้าวข้างนอก และอยากกินอาหารสะอาดปลอดโรค มันอาจเป็นตัวกระตุ้นให้คุณต้องทำหน้าที่ระหว่างวันเพิ่มอย่างการทำอาหาร พอทำไปบางคนอยู่กับคนอื่นก็ต้องทำเผื่อคนอื่นในบ้านด้วย

กรณีใครมีลูกแนวโน้มต้องเล่นกับลูกระหว่างที่ลูกปิดภาคเรียนแบบนี้ สอนการบ้าน ฯลฯ ก็กลายเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องเติมในชั่วโมงการทำงาน ไม่แปลกที่คุณจะเหนื่อยกว่าตอนทำงานปกติที่ไม่เจอหน้ากัน เพราะเมื่อไม่เจอ ทำเป็นไม่เห็นก็ง่ายกว่าอยู่แล้ว

วิธีแก้: มองบวกเข้าไว้ รู้สึกขอบคุณกับชั่วโมงการดูแลที่มากขึ้นที่จะทำให้คุณมีโอกาสทำตัวเป็นลูกกตัญญูทดแทนคุณพ่อแม่ จงรู้สึกขอบคุณที่เวลาการเดินทางระหว่างการไปทำงานในแต่ละวันเราสามารถสลับมาสร้างโอกาสดี ๆ ที่ตามปกติไม่เคยมีเหล่านี้ เพราะมันเป็นเครื่องหมายของความแข็งแกร่งน่าภาคภูมิใจ

คุณพบข้อมูลล้นทะลัก

ข่าวสารเกี่ยวกับ Covid-19 ที่มาจากหลายทิศทางอาจท่วมทับ ทั้งเรื่องโรคระบาดและภาคธุรกิจ และยังมีอีเมลอีกเป็นโขยงจากบริษัทที่ส่งหาเราเข้ามาอีก ไม่นับข้อมูลการรับมือต่าง ๆ ที่ทยอยกองสุมทับตัวเรา เราจึงอาจหมดเวลาและเหนื่อยไปกับสิ่งเหล่านี้

วิธีแก้ : สร้างตัวกรองเพื่อลำดับความสำคัญของงานนั้น ๆ ข่าวสารที่เข้ามาจะได้เหลือเพียงอีเมลสำคัญที่เราสนใจ

ชีวิตกำลังเครียดได้ที่

ความเหนื่อยล้าทางใจอาจจะเกิดขึ้นจากหลายสิ่งที่ดาหน้าเข้ามา แต่ชีวิตจะเพิ่มความล้าทางกายเข้าไปอีกเพราะการทำงานที่บ้าน การ Call Conference ไม่ว่าจะแบบไหนเราก็แทบจะต้องจ้องจอคอมฯ ตลอดเวลา ทำให้สายตาทำงานหนัง และรู้สึกเหนื่อยล้า

นอกจากนี้ริ้วรอยต่าง ๆ อาจโผล่มาให้เห็น ไม่ใช่เพราะเรื่องงานหนักอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องพฤติกรรมที่เราไม่ชินกับการมองเห็นตัวเอง จึงพยายามขยับคิ้ว เครื่องหน้า หรือออกความรู้สึกทางใบหน้ามากขึ้นโดยไม่รู้ตัว นำมาสู่การปรับตัวที่คุณต้องทำเพิ่มจากปกติ เลยยิ่งสร้างความเหนื่อยเข้าไปอีก

วิธีแก้ : เลี่ยงการอยู่กับตัวเอง ให้เลือกจิ้มปักหมุดที่หน้าจอของคนอื่นระหว่างประชุมจะช่วยคลายความรู้สึกกังวลได้ และที่สำคัญระหว่างวันลองทอดสายตาข้ามจอคอมพิวเตอร์ออกไปไกล ๆ แทนที่จะมองแต่ข้าวของต่าง ๆ บนโต๊ะหรือพื้นที่ใกล้ตัวที่ต้องเพ่งเพื่อผ่อนคลายเสียบ้าง

คุณนั่งนิ่งเป็นก้อนหิน

ต้องยอมรับว่าหลายคนเวลาทำงานที่บ้านเรานั่งไปแล้วแทบไม่ขยับไปไหนเหนื่อยยิ่งกว่าตอนทำงานเสียอีก เพราะแต่ก่อน หากเราต้องเดินทางไปหาลูกค้า เดินทางไปมหาวิทยาลัย ฯลฯ เรายังได้ขยับตัวบ้างเนื่องจากสถานการณ์บังคับ เช่น สถานที่กินข้าว ห้องน้ำ ที่ต้องลุกย้ายตัวจากตำแหน่งเดิม

วิธีแก้ : ลุกขยับตัวบ้างระหว่างประชุม ยืน ๆ นั่ง ๆ หรือแวะไปหาเครื่องดื่มจิบจากครัว สร้าง Micro Break เล็ก ๆ ให้ตัวเองไม่กี่นาที จะช่วยให้ท่าทางต่าง ๆ ที่เราแค่นั่งแช่ก่อนหน้านี้ปรับสู่สภาพที่เหมาะสมไม่ปวดหลังได้

ทำงานจากบ้าน ไม่ได้ง่ายสำหรับคนทุกคนจากเหตุผลเหล่านี้ มีข้อไหนบ้างที่ตรงกับชาว UNLOCKMEN ส่วนตัวเราโดนเรื่องการแทรกจังหวะและสมาธิการทำงานจากที่บ้านระหว่างวันอยู่บ้าง แต่ก็กำลังพยายามปรับเปลี่ยนวิธีให้ได้ทางออกที่เหมาะสม

ถือเสียว่านี่คือโอกาสทองของการเรียนรู้ปรับตัว ถ้าใครมีอาการตรงตามด้านบนก็อ่านวิธีแก้ไขที่เราบอกไว้ได้ แม้ตอนนี้จะยังรู้สึกเหนื่อยแต่คราวหน้าผลลัพธ์ที่ออกมาคงค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างแน่นอน

 

SOURCE

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line