APPS

แนะนำ 10 Video Editor และ Movie Maker 2022 ที่จะตัดหรือถ่าย ก็ง่ายบนมือถือ

By: myfifthday January 19, 2021

ถ้าวันหนึ่งเราถ่ายวิดีโอมา 10 คลิป อยากจะรวมเป็นคลิปเดียว แต่ไม่รู้จะทำอะไรกับมันดีถึงจะได้วิดีโอตัวเดียวที่เจ๋ง ๆ ได้ จะไปขอร้องใครให้ทำให้ก็ดูเป็นเรื่องยากและรบกวนคนอื่นไปหน่อย UNLOCKMEN เลยขอแนะนำ 10 แอพพลิเคชั่นเด็ดที่ไว้สำหรับตัดวิดีโอได้แบบง่าย ๆ ที่ไม่ว่าเราจะมีความรู้เป็น 0 ไม่เคยทำ ก็สามารถลงมือทำด้วยตัวเองได้ไม่ยาก

170509-9-APP-Video-Editor-Movie-Maker-2017-02

1. Cameo

แอพฯ ตัดวิดีโอยอดนิยมที่มาจากผู้ผลิตเดียวกับ Vimeo ที่นอกจากตัวเว็บดูวิดีโอกำลังเป็นที่นิยมแล้ว ยังได้ปล่อยตัว Cameo แอพฯ ตัดต่อสุดเจ๋งที่เคยได้รางวัล App store best of 2013 ออกมาให้ใช้งานกันฟรี ๆ จึงเป็นแอพฯ ที่เราแนะนำเลยว่าควรจะโหลดติดเครื่องเอาไว้ซะ ด้วยหลักการทำงานและฟังก์ชั่นส่วนใหญ่ใช้งานง่าย มีดีไซน์เฉพาะตัวแบบที่หาไม่ได้จากแอพฯ อื่น โดยเฉพาะตัว Template สำเร็จรูปที่มีแต่เจ๋ง ๆ ทั้งนั้น ทำให้จะถ่ายจะตัด จะใส่ Caption ก็สะดวก พร้อมความสามารถบันทึกและแชร์ได้ในระดับถึง 4k กันเลยอีกด้วย ส่วนเรื่องที่น่าเสียดายคือ Cameo ยังรองรับการทำงานแค่บน iOS เท่านั้น

App Store

2. Magisto

ถ้าถามว่าแอพฯ อะไรที่ใช้ตัดต่อง่ายและได้ผลที่สุด เราจะเลือกแอพฯ นี้แบบไม่ลังเลเลย ด้วยความที่ทางผู้พัฒนา Magisto ได้ค่อนข้างเปิดตัวตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่า Magisto เป็นเหมือน AI Video Editor ที่เป็นระบบอัจฉริยะ ช่วยให้เราทำงานและตัดต่อได้ง่ายมาก ๆ ซึ่งก็แค่เพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้นคือ เลือกธีม เลือกเพลง เลือกวิดีโอ แค่นี้ก็เสร็จสำเร็จออกมาเป็นหนึ่งคลิปวิดีโอแล้ว โดยตัว Magisto จะทำการประมวลผลสิ่งที่เราเลือกและตัดต่อออกมาแบบใกล้เคียงความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด ซึ่งก็ไม่ใช่วิดีโอกระจอกๆ นะ เพราะวิดีโอทุกตัวล้วนถูกคิดมาอย่างดี เข้าจังหวะได้อย่างลงตัวทีเดียว

App Store | Play Store

170509-9-APP-Video-Editor-Movie-Maker-2017-06

3. Video Star

เป็นอีกแอพฯ ที่น่าสนใจเหมาะสำหรับแนะนำสาว ๆ ที่ชอบการ Selfie หรืออยากจะอัดวิดีโอที่มีลูกเล่น Effect เยอะบนสมาร์ทโฟน เพราะว่า Video Star จะมีหลากหลายฟังก์ชั่นที่ไม่ใช่แค่เพียงแต่การตัดต่อเท่านั้น แต่ยังรองรับการถ่ายภาพและวิดีโอได้แบบ Realtime ให้เราพร้อมใช้หรือส่งต่อทันที ไม่ว่าจะใส่ TEXT หรือ DEMO COLOR ก็ทำได้เลย รวม ๆ แล้วเป็นอีกตัวที่ใช้งานง่ายและที่สำคัญภายในแอพฯ ไม่มีระบบฟังก์ชั่นจ่ายเงินให้วุ่นวายใจทุกอย่างเหมือนกับตัวอื่น ๆ

App Store

170509-9-APP-Video-Editor-Movie-Maker-2017-32

4. iMovie

เป็นแอพฯ ที่หลายๆ คนที่ใช้ iOS มองข้ามไป หารู้ไม่ว่ามันเจ๋งและน่าใช้สุด ๆ ตัวแอพฯ ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ๆ ไม่มีเครื่องมือที่รกตาหรือสร้างความชวนงง แถมยังรองรับการทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่บนสมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่ได้ทั้งแบบ Mac OS , iPad แบบที่ถ้าทำบนสมาร์ทโฟนเป็นยังไง ทำบนเครื่อง Mac ก็เป็นแบบนั้น เพราะทุกอย่างได้รับการออกแบบมาแทบจะเหมือนกัน ต่างกันแค่ย่อส่วนลงไปตามความสะดวกเท่านั้น ซึ่งถ้าใครรีบๆ ต้องการตัดวิดีโอเร่งด่วน ต้องการคุณภาพไฟล์ที่ดี ก็ต้องแอพฯ ตัวนี้เลย

App Store

5. VLLO

แอพฯ สายแบ๊วที่อาจดูไม่ค่อยเข้ากับลุคผู้ชายแบบเราสักเท่าไหร่ แต่ว่าถ้าโหลดติดเครื่องไว้ ตัดต่อเอาสนุกให้เพื่อนหรือให้สาวๆ ก็ถือว่าเป็นอีกตัวที่น่าสนใจไม่เลว เพราะว่าฟังก์ชั่นการทำงานของตัวแอพฯ มาพร้อมกับการรองรับทั้งแบบภาพนิ่งและวิดีโอ ตัวลูกเล่น ไม่ว่าจะการแต่งสีภาพ หรือพวกไอคอนตกแต่งก็ล้วนแต่จัดให้มากกว่าแอพฯ ตัดต่ออื่น ๆ ที่เราเคยเจอ VLLO จะเหมาะสำหรับคนที่ชอบเล่น ชอบแชร์ Social เพราะว่า Size วิดีโอจะเป็นแบบ 1×1 (Square)

App Store | Play Store

6. Musemage

ถึงแม้แอพฯ ตัดต่อวิดีโอส่วนใหญ่จะรองรับการถ่ายด้วยก็ตาม แต่ก็มักจะทำงานด้านฟังก์ชั่นถ่ายได้ไม่สมบูรณ์เท่าไหร่อยู่ดี ตัวแอพฯ Musemage ที่เราอยากจะแนะนำนี้มันไม่ใช่แค่แอพฯ ตัดวิดีโอบ้าน ๆ ทั่วไป แต่มันรองรับไปถึงการถ่ายภาพนิ่ง ภาพวิดีโอ แบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะ Time Lapse, Video Slow Motion, Vignette ไปจนถึงหน้าชัดหลังเบลอ เรียกว่าได้ทุกอย่างแบบเต็ม ๆ นอกจากนี้ยังมีโหมด Pro ที่จะช่วยให้เราสามารถตัดต่อวิดีโอพร้อม Filter และ Export หลังเสร็จได้ทันที

App Store

7. Splice

เป็น 1 ใน 2 แอพฯ ตัดต่อวิดีโอที่ได้รับการพัฒนาโดยตรงจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Gopro โดยตัวแอพฯ Splice จะมีหลักการทำงานที่เน้นการใช้งานง่าย สร้าง Highlight Video แบบเร็ว ๆ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นไฟล์จาก Gopro เท่านั้น ไฟล์อื่นก็สามารถทำงานได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังจัดเครื่องมือรองรับการทำงานแบบแบ่งเป็นสองส่วนชัดเจนคือภาพและเสียง เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้มีเวลาเปิดโปรแกรมตัดต่อแบบตัวเต็ม แต่เน้นความสะดวกรวดเร็วในการทำงานทุกๆ ที่ ตัวนี้ถือว่าผลลัพธ์ที่น่าพอใจไม่แพ้ตัวโปรแกรมตัดต่ออื่นๆ บนคอมพิวเตอร์เลย

App Store

170509-9-APP-Video-Editor-Movie-Maker-2017-27

8. Filmmaker Pro

ถ้าให้พูดว่าแอพฯตัวไหนครบถ้วนในด้านฟังก์ชั่นถึงใจ เราขอเลือกเป็น Filmmaker Pro ตัวนี้เลย แต่ด้วยฟังก์ชั่นที่มีเยอะมากเสมือนตัดต่ออยู่บนคอมพิวเตอร์ใหญ่ จึงทำให้อาจใช้ยากเกินไปสำหรับคนที่ไม่มีความรู้ในด้านของการตัดต่อเลย ต้องงมและใช้เวลากับมันมากพอสมควรและเครื่องที่ใช้งานอาจต้องแรงในระดับหนึ่งเพื่อป้องกันการค้าง และด้านฟังก์ชั่นเราการันตีได้เลยว่า Filmmaker Pro เป็นโปรแกรมวิดีโอตัดต่อ ดีๆ ตัวหนึ่งเลย ที่รองรับการทำงานได้แบบสะดวกสบายทุกด้าน ไม่ว่าจะการตัดเสียง เพิ่มความช้า กลับด้านวิดีโอ ใส่สี เพิ่มเพลง ย่อไฟล์ ปรับขนาด และอีกมากมาย แนะนำโหลดติดเครื่องไว้ซะ

App Store

9. Quik

เป็นแอพฯ อีกตัวของ Gopro คล้ายกับที่เรากล่าวไปด้านบน มีหลักการทำงานเกี่ยวกับวิดีโอเหมือนกัน แต่ว่ามีความแตกต่างอยู่ที่หลักการทำงานบางส่วน โดยตัว Quik จะคล้ายกับตัว Magito ที่เน้นการใช้งานง่าย เป็น AI Video Editor ที่แทบจะไม่เสียเวลาหรือต้องหัดอะไรให้เยอะแยะเลย สามารถเลือกเพลง เลือกวิดีโอ เลือกธีมที่ต้องการก็เสร็จเรียบร้อย และหลังจากวิดีโอได้คิด Process มาให้เราแล้ว เราไม่ชอบไม่ถูกใจอะไรตรงไหน ก็สามารถตัดแล้วปรับไปด้วยได้เลยอีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้มีเวลาในการตัดต่อ แต่ก็สามารถได้วิดีโอเจ๋ง ๆ ได้

App Store | Play Store

10.KineMaster

สุดท้าย คือ KineMaster แอพตัดต่อวิดีโอบนมือถือที่พัฒนาโดยบริษัทซอฟท์แวร์เกาหลีใต้ที่ใช้ชื่อเดียวกัน แอพนี้ถือเป็นสุดยอดแอพที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น transition การใส่เอฟเฟคเสียง หรือ การปรับแต่งสี ซึ่งบางฟังก์ชั่นยังคล้ายกับโปรแกรมตัดต่อวิดีโอขั้นเทพอย่าง Premiere Pro ตัวแอพยังสามารถใช้งานได้ง่ายและเหมาะกับมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์เรื่องการตัดต่อวิดีโอมากนัก บอกเลยว่าแค่แอพเดียวก็สร้างคลิปเจ๋ง ๆ ได้ไม่แพ้โปรแกรมบนคอมเลย

App Store | Play Store

10 แอพพลิเคชั่นทั้งหมดที่ UNLOCKMEN แนะนำมา บอกได้เลยว่าเราได้ลองใช้และตัดต่อด้วยตัวเองแล้วทุกอัน เน้นฟังก์ชั่นและความสามารถแบบเกินตัว ที่ตอบโจทย์และใช้งานได้ดี มีประโยชน์ ส่วนถ้าแอพฯ อันไหนมีฟังก์ชั่นที่ต้องเสียเงิน ทางเราก็ขอแนะนำว่าให้ลองดูหลาย ๆ ตัวเลือกที่คล้ายกันของแอพฯ อื่นดู แล้วค่อยลองเสียเงินจะดีกว่า จะได้ไม่พลาดชื้อไปแล้วไม่ถูกใจ เพราะบางแอพฯ อาจดีอย่างเสียอย่างก็ได้


 

myfifthday
WRITER: myfifthday
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line