10 จุดในร่างกายที่ว่ากันว่าสักแล้วเจ็บสุดๆ!

ศิลปะบนเรือนร่างอย่างการ”สัก” (tattoo) กลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถสร้างสไตล์ และบ่งบอกตัวตนให้กับคนที่มีรอยสักเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี ไม่ว่ามันจะเกิดจากความชอบ หรือเกิดจากการทำตามกันเป็นแฟชั่น ก็เปรียบเสมือนซิกเนเจอร์สำคัญที่ช่วยบอกเล่าถึงความเป็นคนๆ นั้นได้อย่างชัดเจน และเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าการสักมันเจ็บ เพราะมันคือการนำเข็มจุ่มสีแล้วสักลงไปบนผิวหนังชั้นนอกด้วยความถี่ จนเกิดเป็นลวดลายอันสวยงาม ซึ่งเป็นความสวยงามที่แลกมากับความเจ็บปวด สักเสร็จแล้วก็ต้องรักษาให้แผลตกสะเก็ดให้ดูดีที่สุด สีถึงจะออกมาสวยงาม (ขั้นตอนนี้บอกเลยว่าคันไม้คันมือมากๆ) เรียกว่าฝีมือช่างครึ่งหนึ่ง การดูแลรอยสักของเราอีกครึ่งหนึ่งเลยล่ะค่ะ

สำหรับใครที่กำลังมีความคิดอยากไปสัก วันนี้ UNLOCKMEN ได้นำการจัดอันดับ 10 จุดบนร่างกายที่สักแล้วเจ็บสุดๆ จากการบันทึกของช่างสักนามว่า Andy Eschenbach มาฝาก จะได้เตรียมตัวเตรียมใจกันไว้สักหน่อย จะมีตรงไหนบ้างนั้นเราลองมาดูกันเลย

1. ศีรษะ

Andy เล่าว่าการสักที่หัวเนี่ย ไม่ใช่แค่เจ็บปวดมากๆ เท่านั้นนะ แต่มันยังเต็มไปด้วยการสั่นสะเทือน แถมคุณจะได้ยินเสียงของการทำงานของเครื่องสักอย่างชัดเจนอีกด้วย เพิ่มฟิลลิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกถึงการสัมผัสไปอีกเท่าตัว เรียกว่าเจ็บอย่างเดียวไม่พอ มีการเพิ่มอารมณ์ความรู้สึกเข้ามาด้วย

2. กระดูกสันอก หรือใต้ราวนม

Andy บรรยายว่า ความรู้สึกของการสักหน้าอกเนี่ยมันเปรียบเสมือนการเอามีดที่อาบไฟร้อนๆ มากรีดกันเลยทีเดียว ตรงนี้ใครเคยสักมา ช่วยมาคอนเฟิร์มกันหน่อยค่ะ

3. ข้อศอก

ข้อศอกถือเป็นจุดที่ก่ำกึ่ง เพราะบางคนก็รู้สึกเจ็บปวดมากๆ แต่กับบางคนเขาก็แทบจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย เป็นจุดงงๆ อีกหนึ่งจุด แต่เท่าที่เคยถามๆ คนที่เคยสักตรงนี้มา ก็มีคนที่บอกว่าเจ็บปวดมากจริงๆ อารมณ์เหมือนล้มลงพื้นแล้วข้อศอกกระแทกอะไรทำนองนั้น อืม อันนี้ก็ต้องพิสูจน์ความเจ็บปวดด้วยตัวเองล่ะ

4. แก้มก้น

บางคนก็คิดว่าใครจะพิเรนท์ไปสักที่แก้มก้น แหม มีนะคะ ไม่ใช่ไม่มี แถมยังมีเยอะด้วย เพียงแต่ว่าเค้าไม่ได้มาโชว์ให้เราได้เห็นกัน การสักตรงจุดนี้ Andy บอกว่า เอาเบาะรองนั่งชั้นดีนุ่มๆ มารองตอนนั่งก็ไม่ช่วยให้ความเจ็บปวดดีขึ้น พูดแล้วเห็นภาพเหมือนกันค่ะ เพราะแค่เรานั่งนานๆ ยังปวดก้นกันจะแย่อยู่แล้ว อันนี้สักลงไป แล้วลำบากตรงที่เราต้องนั่งนี่แหละ ยิ่งไปซ้ำแผลให้ปวดแปลบๆ แน่นอน

5. ด้านในของต้นขา และเข่า

เป็นหนึ่งในจุดที่บอบบางทีเดียว เป็นจุดที่เนื้อค่อนข้างอ่อน ประสบการณ์ส่วนตัวเราเคยสักด้านในของต้นแขน ต้องบอกว่าเจ็บจริงๆ ถ้าอยากรู้ว่าเจ็บไม่เจ็บต้องลองหยิกดูสักทีรับรองรู้เรื่อง ฟิลลิ่งพอๆ กัน

6. เท้า

เท่าที่ฟังคนใกล้ตัวบอกเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการสักที่เท้า ล้วนเป็นไปในทางเดียวกันคือเจ็บปวดมากๆ น่าจะเป็นเพราะมันใกล้กระดูกนี่แหละค่ะ

7. หน้า

เจ็บหรือเปล่าไม่รู้ แต่ Andy บอกว่า อย่าคิดจะสักเป็นอันขาด!

8. มือ

หลังมือเป็นจุดที่มีกระดูกเยอะมาก แค่เอาเล็บจิกๆ จิ้มๆ ลงไปที่หลังมือก็รู้สึกเจ็บๆ กันแล้ว มีดบาด หรือกระแทกอะไรบางอย่างก็เจ็บปวดโอดครวญกันแล้ว ลองคิดดูว่าเข็มที่จิ้มลงไปหลังมือด้วยความถี่จะเจ็บปวดแค่ไหน

9. โครงกระดูกสีข้าง และหน้าท้อง

เท่าที่สักมา สีข้างเป็นส่วนที่หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่โอดครวญกันตลอดเวลา ช่างสักที่เรารู้จักบางคนเคยเล่าให้ฟังว่า ลูกค้าบางคนอึดไม่พอ มาสักบริเวณนี้ถึงกับน็อคเป็นลมคาเตียงก็มี จริงเท็จแค่ไหนไม่รู้ เพราะของแบบนี้ก็อยู่ที่คนจริงๆ ค่ะ สำหรับเราเคยสักหน้าท้องมาแล้ว ก็ไม่ถึงกับเจ็บปวดมาก แต่มันจะรู้สึกเจ็บก็หลังจากสักเสร็จแล้วนี่แหละ พุงมีนั่งทีไรมันพับรอยสักให้ปวดทุกทีเลย แนะนำว่าลดน้ำหนักไปก่อนก็ดีนะจะสักตรงหน้าท้องเนี่ย

10. ข้อเท้า

จุดที่เป็นข้อต่างๆ ถือเป็นจุดที่เจ็บปวดอยู่แล้ว เพราะมันใกล้กระดูก แต่เมื่อเทียบกับจุดอื่น ข้อเท้าก็ยังถือว่าอยู่ในระดับเจ็บแปลบๆ ไม่โหดร้ายมาก แต่ก็อยู่ใน 10 อันดับที่เจ็บปวดมากๆ อยู่ดี

โดยส่วนตัวแล้วจากที่เคยสักๆ มาบ้าง จุดที่เจ็บที่สุดสำหรับเราน่าจะเป็นต้นแขนด้านใน เจ็บมากๆ แต่มันคือความเจ็บที่สามารถทนได้ ลองได้สักไปสักงานแล้วอาจจะมีงานที่สองที่สามตามมาอีกไม่ช้า ทั้งนี้ทั้งนั้นเราแนะนำว่าต้องถามใจตัวเองให้ถี่ถ้วนจริงๆ คิดแล้วคิดอีก จนกว่าจะตัดสินใจไปสักนะคะ เพราะมันคือสิ่งที่จะติดอยู่กับคุณไปทั้งชีวิต บางคนอาจจะบอกว่าไปลบรอยสักก็ได้ แต่ราคาค่าลบเนี่ยมันแพงกว่าตอนสักหลายเท่านัก อีกอย่างก็ไม่เรียบเนียนสวยเหมือนผิวเราตอนแรกด้วยค่ะ จะทำอะไรก็คิดให้ดี คิดดีแล้วก็ทำเลย แค่มีรอยสักเท่านั้นเอง ร่างกายก็ร่างกายเราไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อนจริงไหม