หนังโคตรดีอายุครบ 10 ปี ย้อนรำลึกหนังเทพปี 2011 พร้อมอัพเดทโปรเจคน่าสนใจในปัจจุบัน

นาฬิกาหมุนไปอย่างรวดเร็วแค่ไหน ขนาดหนังที่เรารู้สึกว่าเพิ่งจะดูในโรงได้ไม่นาน ตอนนี้หนังเหล่านี้มีอายุครบ 10 ปีแล้วเรียบร้อย UNLOCKMEN จึงพาคุณย้อนไปทบทวนความทรงจำของหนังเหล่านี้ ที่กาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่า “หนังเหล่านี้เจ๋งจริง” และมาสำรวจกันว่า 10 ปีผ่านไป นักแสดงและผู้กำกับตอนนี้ทำหนังอะไรกันอยู่ จะได้ตามต่อกันได้ในอนาคต

เริ่มต้นด้วยหนังคัลท์กระหึ่มโลก ที่ผสานทั้งความเหงาและความเถื่อนเอาไว้หลังพวงมาลัย ผลงานการกำกับแจ้งเกิดของ Nicolas Winding Refn เรื่องราวของสตันท์แมนหนุ่มที่กลางวันรับงานผาดโผนในกองถ่าย ส่วนค่ำคืนรับหน้าที่เป็นสารถีรับส่งเหล่าอาชญากร ชีวิตที่เต็มไปด้วยความผาดโผน กลับไม่อาจจัดการความเหงาของหัวใจตัวเองได้

หนังแสดงให้เห็นภาพชายเหงาในเมืองใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยสไตล์และสีสันอันเฉียบคม ผสมผสานด้วยดนตรี New Wave / Post-Punk ส่งผลให้พระเอกหนุ่ม Ryan Gosling กลายเป็นนักแสดงสายอาร์ตที่เต็มเปี่ยมด้วยความเท่และความคูล แถมด้วยแจ็คเก็ตแมงป่องที่เป็นเอกลักษณ์และเพิ่มสไตล์ให้หนังกลายเป็นที่โจษจันแห่งยุคสมัยได้โดดเด่นเป็นอย่างมาก

10 ปี ผ่านไป – หลังจากหนังเรื่องนี้โด่งดังในสายอาร์ต ทั้งผู้กำกับและ Ryan Gosling ก็โคจรมาพบกันอีกครั้งในหนัง Only God Forgives (2013) ที่มีถ่ายทำในไทย ล่าสุดผู้กำกับหันเหไปกำกับซีรีส์ดราม่าอาชญากรรม Too Old to Die Young (2019) ที่สามารถรับชมได้ใน Amazon Prime

ส่วนพระเอก Ryan Gosling เป็นที่รู้กันในฐานะพระเอกหนังคุณภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น La La Land (2016) หรือ Blade Runner 2049 (2017) และกำลังมีหนัง The Gray Man หนังทุนสร้างกว่า 200 ล้าน ของ Netflix ที่กำกับโดยพี่น้อง Russo แห่ง The Avengers ซึ่งกำลังถ่ายทำอยู่ตอนนี้ ส่วนนางเอกของเรื่อง Carey Mulligan เพิ่งได้เข้าชิงรางวัลออสการ์หมาดๆจากหนัง Promising Young Woman

เรื่องราวของ Billy Beane ผู้จัดการของทีม “โอคแลนด์ เอ” ที่ท้าทายและปฏิวัติการจัดการทีมเบสบอลที่อัตคัตด้วยทุนอันน้อยนิด ไหนจะต้องสู้รบปรบมือกับคณะกรรมการประจำทีมที่อนุรักษ์นิยมสุดขั้ว จนกระทั่งเขาได้รับการช่วยเหลือจากนักเศรษฐศาสตร์ที่นำสถิติ และ Data มาประยุกต์ใช้จัดการและวางแผน ถือเป็นการฉีกตำราทุกหน้าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์การจัดการทีมเบสบอล ทำให้ Moneyball กลายเป็น Jerry Maguire แห่งทศวรรษที่ 2010s ที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ และพลังขับเคลื่อนที่ทรงประสิทธิ์ภาพ จนพาหนังไปไกลถึงเวทีออสการ์ ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงยอดเยี่ยมที่ทั้ง Brad Pitt และ Jonah Hill ต่างก็ได้เข้าชิง แม้จะไม่ได้รางวัล แต่เป็นหนังแห่งแรงบันดาลใจที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

10 ปี ผ่านไป – Brad Pitt ที่เพิ่งคว้ารางวัลออสการ์จากหนัง Once Upon a Time in Hollywood (2019) อาจจะหายจากจอหนังไม่ค่อยได้เห็นหน้าค่าตาสักเท่าไหร่ เพราะง่วนอยู่กับการเป็น Producer ให้กับภาพยนตร์มากมาย ล่าสุดก็หนังเกาหลี-อเมริกันดรีมอย่าง Minari ส่วนตุ้ยนุ้ย Jonah Hill นักแสดงตลกที่แจ้งเกิดบทบาทคุณภาพจากหนังเรื่องนี้ ก็ฟิตหุ่นจนผอม และกำลังมีหนัง Netflix เรื่อง Don’t Look Up ประกบกับ Leonardo DiCaprio ที่จะฉายในปีนี้

แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของชายหนุ่มที่รับรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็ง และโอกาสรอดมีเพียง 50/50 แต่แทนที่เขาจะหดหู่รอคอยวันตาย กลับใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าที่สุด

หนัง Drama Comedy ที่มองโลกในแง่บวกสุด ๆ เรื่องนี้ สร้างทั้งแรงบันดาลใจ รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมมากมายในยุคนั้น เพราะได้นักแสดงยอดฝีมืออย่าง Joseph Gordon-Levitt มารับบทหนุ่มโชคร้ายที่มะเร็งกำลังกัดกินชีวิตเขาไปอย่างช้า ๆ และเพื่อนผู้ไม่เอาไหนแต่รักจับใจอย่าง Seth Rogen มาช่วยเปลี่ยนโลกอันมืดดำให้กลายเป็นโลกที่มีสีสัน ทำให้หนังที่ควรฟูมฟายกลายเป็นหนังน้ำดีที่ทำให้เราตระหนักถึงชีวิตที่เหลืออยู่ได้อย่างงดงาม

10 ปี ผ่านไป – Joseph Gordon-Levitt พระเอกของเรื่องยังคงรักษาความโด่งดังผ่านหนังมากมาย ล่าสุดไปรับบทในหนังการเมืองเรื่องดัง The Trial of the Chicago 7 (2020) ที่ฉายใน Netflix ส่วน Seth Rogan นอกจากเป็นนักแสดงงานชุกที่มีหนังมากมาย เรื่องล่าสุดที่ฉายใน HBO GO นั่นก็คือ An American Pickle (2020) ยังเป็น CEO Houseplant แบรนด์กัญชาจากแคนาดาที่มาตีตลาดในอเมริกา ซึ่งเราเคยเสนอข่าวไปแล้ว

ส่วน Jonathan Levine ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไปได้ดีกับหนังรอมคอมมากมาย โดยเรื่องล่าสุดที่ได้รับคำชมอย่าง Long Shot (2019) ก็นำ Seth Rogan กลับมาร่วมแสดงอีกครั้ง

หนังม้ามืดจากประเทศฝรั่งเศสที่คว้าชัยสูงสุดบนเวทีออสการ์ในปีนั้น หนังที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นจดหมายรักให้กับหนังขาวดำ และหนังเงียบในยุค 1920s นำเสนอในแบบกลิ่นอายย้อนยุคขาวดำ ไร้ซึ่งบทสนทนา แต่มาเป็นบทบรรยายแบบยุคนั้นแทน ซึ่งฝรั่งเศสถือเป็นประเทศแรกที่คิดค้นภาพยนตร์ขึ้นมาบนโลกนี้ ผู้กำกับ Michel Hazanavicius จึงสรรค์สร้างหนังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกย้อนยุค ความรักอันแสนบริสุทธิ์ของศิลปินหนังเงียบที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงเมื่อหนังเสียงกำลังจะเข้ามาตีตลาด แน่นอนว่าเสน่ห์ของหนังมาจากสไตล์อันแสนวินเทจ รวมไปถึงการเสนอความรักและความจริงใจที่มีต่อศาสตร์ของภาพยนตร์ ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังในดวงใจของใครหลายต่อหลายคน

10 ปี ผ่านไป – น่าเสียดายที่ความวูบวาบของหนังที่เต็มเปี่ยมด้วยสไตล์เฉพาะตัว ไม่สามารถทำให้ผู้กำกับและนักแสดงไปได้ไกลกว่าที่ควรจะเป็น Jean Dujardin พระเอก และนางเอกของเรื่องยังคงเล่นหนังในฝรั่งเศสบ้านเกิด ถือว่าเป็นหนังในดวงใจของคนรักหนังที่ชอบความคลาสสิคอยู่ไม่เสื่อมคลาย

ปี 2011 ถือเป็นปีที่ภาพของซูเปอร์ฮีโร่เริ่มชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะ Marvel Studio ที่ก่อนหน้านี้ปล่อย Iron Man และ Hulk ผงาด แล้วก็ถึงเวลาของเทพเจ้าสายฟ้า Thor และกัปตันโล่เหล็กอย่าง Captain America ผงาดบ้างในปี 2011 นี้

โดย Thor เล่าเรื่องของเทพเจ้าสายฟ้าที่ถูกส่งมายังโลกเพื่อเรียนรู้ชีวิต และความหมายที่แท้จริงของการเป็นวีรบุรุษ ส่วน Captain America: The First Avenger ย้อนกลับไปในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เล่าถึงสตีฟผู้ชายอ่อนแอที่ต้องการเป็นทหาร จนเขาได้รับการทดลองให้กลายเป็นเครื่องจักรสังหารสุดแข็งแกร่ง ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง คือการเกริ่นนำเพื่อเชื่อมโยงสู่มหากาพย์ของ The Avengers ในอนาคตนั่นเอง

10 ปี ผ่านไป – จักรวาลมาร์เวลกว้างใหญ่ไพศาล แม้ตำนานของ Captain America จะจบลงใน The Avengers: Endgame ไปแล้ว แต่มีหลายคนก็ที่ยังคาใจกับการจากไปอย่างไม่ร่ำลาของกัปตันสตีฟ ซึ่งมาร์เวลอาจจะทำการสับขาหลอกก็เป็นได้ ส่วน Thor นั้นกำลังถ่ายทำภาคใหม่ในชื่อ Thor: Love and Thunder ที่มีกำหนดฉายในปี 2022 นี้

เรื่องราวในยุคปลายทศวรรษ 70’s เด็กน้อยกลุ่มหนึ่ง กำลังเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก โดยมีพยานรู้เห็นเป็นกล้อง Super 8 ที่ถ่ายเป็นหลักฐานได้โดยบังเอิญ หนังที่กลั่นมาจากแรงบันดาลใจสำคัญ และเป็นจดหมายรักที่มีต่อหนังไซไฟยุค 70s-80s เรื่องนี้ แสดงสกิลการกำกับของ J. J. Abrams ให้ได้ประจักษ์แก่สายตา สามารถตรึงความตื่นเต้น ความไร้เดียงสาของกลุ่มเด็ก รวมไว้ด้วยกันกับการถวิลหาอดีต จนทำให้หนังมีรสชาติที่แปลกและแตกต่าง สร้างความรู้สึกร่วมทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ได้อย่างทรงพลัง

10 ปี ผ่านไป – มีซีรีส์ที่ชื่อ Strangers Things ที่แนวทางคล้ายๆกัน ส่วน J. J. Abrams ก็กลายเป็นผู้กำกับที่ทรงอิทธิพลแห่งยุคสมัยใหม่ ได้รีบู๊ททั้ง Star Wars และ Star Trek จนกลายเป็นเฟรนไชส์ที่ไปต่อได้อย่างไม่หยุดยั้ง ส่วนนักแสดงเด็กตอนนี้ต่างก็เติบโตเป็นนักแสดงชั้นนำ โดยเฉพาะ Elle Fanning ที่กลายเป็นนางในฝันของหนุ่ม ๆ หลายต่อหลายคน

ความรักความผูกพันระหว่างพ่อลูก ถูกเล่ามาในหลายรูปแบบ แต่ Real Steel กลับล้ำด้วยการเล่าเรื่องของพ่อที่เคยเป็นอดีตนักมวยตกอับที่ชีวิตแปรผันมาเป็นโปรโมเตอร์การแข่งขันหุ่นยนต์ต่อยมวยใต้ดิน แม้ว่าหุ่นยนต์ที่ลงสังเวียนจะสะบักสะบอมและผู้คนจะไม่สนใจขนาดไหนก็ตาม จนกระทั่งการมาของลูกชายที่ห่างเหินกัน ก่อนจะช่วยฟูมฟักความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก ระหว่างคนกับหุ่นยนต์ Real Steel จึงเป็นหนังไซไฟดราม่าที่ซาบซึ้งกินใจ และเป็นบทพิสูจน์ได้ว่า หน้าหนังไซไฟล้ำอนาคตก็สามารถเป็นหนังเรียกน้ำตาลูกผู้ชายได้เหมือนกัน ทั้งซึ้ง ทั้งประทับใจ ทั้งไอเดียแจ๋วมากๆ

10 ปี ผ่านไป – รอหนังเรื่องใหม่ Free Guy ของผู้กำกับเรื่องนี้ด้วยใจจดจ่อ ส่วน Huge Jackman ที่ปลดระวางจากบทบาทวูลฟ์เวอรีนก็ยังไม่เห็นบทบาทไหนที่เป็นที่กล่าวขวัญได้มากเท่า ก็หวังว่าจะได้บทที่ส่งตัวเขาโดยเร็วไว ตอนนี้ก็รอหนัง Reminiscence ที่จะเข้าฉายครึ่งปีหลังไปพลาง ๆ ก่อน

หนังภาคต่อของสามสหายสายแฮงค์ผู้สร้างความรั่ว จนทำให้เมืองลาสเวกัสกลายเป็นเมืองแห่งความโกลาหลไปแล้วจากภาคแรก พวกเขาได้ย้ายมาเมารั่วจากเมืองคนบาปสู่เมืองเทพสร้างอย่างกรุงเทพกันบ้าง แน่นอนว่าความวายป่วงยังคงเส้นคงวา แต่การได้เห็นความวุ่นวายของบ้านเมืองตัวเองในหนังก็ให้ความรู้สึกแปลก ๆ ยังไงบอกไม่ถูก อยากรู้จังว่าผู้กำกับนึกยังไงถึงเลือกเมืองนี้มาเป็นโลเคชั่นในหนัง

10 ปี ผ่านไป – หลังสิ้นสุดไตรภาคแห่งความเมาใน The Hangover Part III เหล่าแก๊งหมาป่าก็แยกย้ายสลายโต๋ไปตามทาง พระเอกของเรื่อง Bradley Cooper หันเหไปเป็นดาราและผู้กำกับสายคุณภาพคับแก้ว อย่าง A Star is Born (2018) แถมยังไปให้เสียงแรคคูนสุดกวนในหนัง Guardians of the Galaxy ทั้ง 2 ภาคอีกด้วย

ส่วนผู้กำกับ Todd Phillips ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแนวทางในการทำหนังจากหนังตลกโปกฮาสู่หนังคุณภาพที่เนื้อหาเข้มข้น ผลงานล่าสุดคือ Joker (2019) ที่ได้รับการกล่าวขวัญในทั้งความยอดเยี่ยมและความนิยม เตรียมทำโปรเจกต์หนังชีวประวัติของยอดนักมวยปล้ำ Hulk Hogan ในอนาคตอันใกล้

หนังสารคดีเรื่องยิ่งใหญ่ ที่เล่าขานถึงชีวิตอันทรงคุณค่าของ Jiro Ono ผู้รังสรรค์ซูชิให้กลายเป็นศิลปะแห่งอาหาร เรื่องราวชีวิตของมือปั้นซูชิที่สร้างสรรค์ซูชิรสเลิศ จนกลายเป็นเอกลักษณ์และนำพาสู่รางวัลคุณภาพจากมิชลินสตาร์ ตลอดกว่า 70 ปีในการสร้างสรรค์อาหารสุดเลิศล้ำ และคุณธรรมประจำใจ สารคดีเรื่องนี้สำรวจทุกแง่มุมของผู้ชายที่ถวายชีวิตให้กับการทำอาหารประจำชาติ จนกลายเป็นหนึ่งในร้านที่ทุกคนต้องไปทานเมื่อไปเยือนประเทศญี่ปุ่น ถ้าโชคดีจองคิวได้

10 ปี ผ่านไป – วัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นอยู่ทุกที่ในเมืองไทย รวมไปถึงซูชิสายพานจากญี่ปุ่นก็มาเปิดสาขาในไทย การได้รับรู้ถึงการรังสรรค์จากเชฟในตำนาน ไม่ใช่เพียงรสชาติอาหารที่อร่อยลิ้นเท่านั้น แต่ยังรับรู้ถึงคุณค่าของชีวิตที่ซูชิแต่ละคำนั้นแลกด้วยหยาดเหงื่อและความทุ่มเทของเชฟขนาดไหน

ปิดท้ายด้วยหนังแอ๊คชั่นสัญชาติอินโด แต่กระหึ่มโลกไปด้วยท่วงท่าและลีลาต่อสู้อันแสนดุดัน เรื่องราวของนายทหารผู้รักในความถูกต้องที่ต้องเข้าไปในตึก 30 ชั้น และขึ้นทีละชั้นเพื่อจัดการกับอาชญากรสุดโฉด หนังโดดเด่นด้วยการต่อสู้แบบเล่นจริงเจ็บจริงที่ชวนหวาดเสียว แต่แพรวพราวด้วยลีลาการต่อสู้อันเหนือชั้น ไม่ต่างกับการตะลุยด่านในเกมแอ๊คชั่นที่ต้องเจอตัวบอสที่ทวีความโหดมากขึ้นเรื่อย ๆ นับเป็นการเปิดศักราชใหม่ของหนังแอ๊คชั่นพันธุ์เดือด ที่แม้กระทั่ง Hollywood ยังยกนิ้วโป้งให้ในความเก่งกาจและคอนเซ็ปท์ที่สุดมันส์

10 ปี ผ่านไป – หนังได้ไปต่อภาค 2 ส่วนพระเอกก็ได้ไปโกอินเตอร์ในหนังใหญ่อย่าง Star Wars: The Force Awakens เคียงบ่าเคียงไหล่ จา พนม ในหนังหลายเรื่อง และกำลังจะมีหนังเรื่อง Snake Eyes ที่เป็นภาคแยกของหนังแอ๊คชั่น G.I. Joe

เป็นอย่างไรบ้าง สำหรับหนังในความทรงจำเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ใครมีความทรงจำร่วมกับหนังเรื่องไหนบ้าง ใครสนใจก็ลองหาดูกันได้ หรือจะดูเพื่อทบทวนความทรงจำเมื่อ 10 ปี ก่อน ก็มีความสุขไม่ใช่น้อยนะครับ