อยากไปให้ถึงเป้าหมาย ลองดู 5 นิสัยที่จะทำให้คุณเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้น

เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนถึงมีชีวิตดี ทำธุรกิจอะไรก็ประสบความสำเร็จ ในขณะที่บางคนทำอะไรก็ให้ผลตอบแทนไม่งอกเงยเท่าที่ควร

มีผลวิจัยทำสถิติระบุว่า เรื่องนี้อาจอยู่ที่พฤติกรรมการใช้ชีวิตและมุมมองวิธีคิดของแต่ละคน เช่นคนที่มักจะรายล้อมตัวเองด้วยคน Toxic หรือมองความท้าทายเป็นปัญหาที่ไม่กล้าจะก้าวเท้าออกไปเผชิญหน้ากับมัน

วันนี้ UNLOCKMEN จึงอยากมาแนะนำพฤติกรรมที่ควรปรับเปลี่ยน เพื่อที่จะช่วยให้ทุกคนประสบความสำเร็จในชีวิตในการใช้ชีวิตได้มากขึ้น

คบคนพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตพาไปหาผล

ดูเหมือนว่าคนรอบตัวจะมีอิทธิพลต่อความสำเร็จมากกว่าที่เราคิด ถ้าเราอยู่ร่วมกับคนเก่ง เราจะกลายเป็นคนที่เก่งขึ้น ถ้าเราอยู่กับคนขี้แพ้ เราอาจกลายเป็นคนขี้แพ้ไปด้วย

งานวิจัยที่ใช้เวลากว่า 25 ปีของ Dr. David McClelland อาจารย์และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่า ปัจจัยนึงที่ส่งผลต่อความสำเร็จของเราได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ คือ กลุ่มอ้างอิง (reference group) หรือกลุ่มคนที่เราใช้ชีวิตอยู่ด้วย พูดคุยด้วย หรือ ทำงานร่วมกันเป็นประจำ คนกลุ่มนี้ส่งผลต่อตัวเราทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนที่เราเลือกคบนั้นจะมีอิทธิพลต่อเราในทุกด้าน

Warren Buffet เคยพูดว่าความสำเร็จเกิดขึ้นจากการใช้เวลาร่วมกับคนที่ดีกว่าตัวเอง เลือกเพื่อนที่มีพฤติกรรมดีกว่าเรา เราจะอยากผลักดันตัวเองให้มีพฤติกรรมที่ดีขึ้นไปด้วย ดังนั้น เราควรมีเพื่อนเก่ง ๆ อย่างน้อยสักหนึ่งคนที่สามารถขอคำแนะนำหรือคำปรึกษาในยามที่เกิดปัญหา ในขณะเดียวกัน ตัวเราเองก็ต้องมีความพร้อมในการมองเห็นและยอมรับปัญหาของตัวเอง เพื่อที่จะได้พัฒนาศักยภาพให้ดีขึ้นได้แบบ inside-out

เรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอ

คนที่ประสบความสำเร็จมักจะหาความรู้ใส่ตัวตลอดเวลา เพราะเทคโนโลยีและความรู้ในโลกเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ความรู้ความเข้าใจที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน อาจกลายเป็นความรู้เก่าภายในเวลาแค่ไม่กี่เดือน เราจึงต้องทำตัวเหมือนเป็น นักเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) เพื่อปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก

การเรียนรู้ส่งผลดีต่อเรามากมาย ทั้งช่วยป้องกันอาการสมองเสื่อมในยามแก่ตัว ช่วยให้อายุยืนยาวขึ้น นอกจากนี้ความอยากรู้อยากเห็นและการเรียนรู้ยังให้ประโยชน์แก่ชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานของเราอีกด้วย เห็นได้ว่าหลายคนที่ประสบความสำเร็จมักมีนิสัยเหล่านี้อยู่ในตัวเสมอ เช่น Albert Einstein นักวิทยาศาสตร์เจ้าของทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ หรือ Benjamin Franklin นักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นสายล่อฟ้า

Stephen R. Covey เจ้าของหนังสือชื่อดังอย่าง “The 7 Habits of Highly Effective People” กล่าวไว้ว่า กุญแจสู่ความสำเร็จ คือ การอุทิศตัวให้กับการเป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิต ดังนั้นคนที่อยากประสบความสำเร็จไม่ควรยึดติดกับวิธีการทำงานแบบเดิม แต่ควรศึกหาความรู้และค้นคว้าหาวิธีการทำงานใหม่ ๆ ให้ดีขึ้นอยู่เสมอ

ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน

เวลาทำอะไรก็ตาม เราควรมีเป้าหมายที่ชัดเจน เพราะเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เรารู้ทิศทางในการก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง รวดเร็ว สามารถโฟกัสกับการทำงานได้ดีขึ้น และเข้าใกล้ความสำเร็จได้มากขึ้น

งานวิจัยของ Edwin A Locke ชื่อว่า “Toward a theory of task motivation and incentives” พบว่า การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน และฟีดแบคที่เหมาะสม เป็นตัวสร้างแรงจูงใจในการทำงานที่ดี แถมเขายังพบว่าเป้าหมายที่ชัดเจนและไม่ยากหรือง่ายจนเกินไป ยังช่วยให้เกิดการทำงานที่ดีขึ้นอีกด้วย

เมื่อเรารู้ว่าอะไรคือเป้าหมายและสิ่งที่คาดหวังจากการทำงาน เราจะไม่รู้สึกงุนงงหรือสับสนกับสิ่งที่ตัวเองต้องทำ ส่งผลให้เราทำงานได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียวครับ

ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก

นอกจากเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว เราควรรักในสิ่งที่ตัวเองทำด้วย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะต้องรักในสิ่งที่ทำตั้งแต่แรกก็ได้ แต่การเปิดใจให้กับงานของเรา จะช่วยให้เรามองเห็นภาพใหญ่และโครงสร้างในทำงานได้ดีขึ้น

Mihaly Csikszentmihaly นักจิตวิทยา เคยกล่าวไว้ว่า ถ้าเราสามารถสนุกกับงานที่ตัวเองทำได้ เราจะมีความกระตือรือร้นในการทำงานให้ดี ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ช่วยให้เรามีสมาธิ มีความคิดสร้างสรรค์ และไอเดียในการทำงานมากขึ้นกว่าเดิม

Tim Cook ซีอีโอของ Apple เคยกล่าวไว้ว่า “ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ใส่ใจกับมัน และสนุกสนานไปกับมัน” ถ้าเราทำงานไปวัน ๆ เพื่อนั่งเงินเดือนออก เราจะเบื่อและหมดใจที่จะพัฒนาตัวเอง เมื่อประสิทธิภาพไม่ดี ก็ไม่มีความก้าวหน้าในการทำงาน หลายคนออกมาโทษโชคชะตา โทษหัวหน้า โทษบริษัท โดยลืมที่จะย้อนกลับมาดูว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเราทำอะไรบ้าง คนอื่นทำมากกว่าเราแค่ไหน สุดท้ายชีวิตก็ไม่มีความสุข

ถ้าเราทำในสิ่งที่เรารัก เราจะมีความสุข เต็มไปด้วยแรงจูงใจในการทำงาน ตื่นขึ้นมาทุกเช้าด้วยความสนุกในความท้าทาย เราจะมองเห็นความสุขแม้จะเจอกับอุปสรรคในการทำงาน และเข้าใกล้เป้าหมายที่เราตั้งไว้ในที่สุด

อย่ารอที่จะลงมือทำ

ข้อสุดท้ายคือสิ่งที่สำคัญที่สุด คนที่ประสบความเร็จมักไม่รอช้าที่จะทำตามความฝันของตัวเอง เพราะพวกเขารู้ว่าจะไปถึงความสำเร็จได้มีแต่จะต้องลงมือทำเท่านั้น และยิ่งพวกเขาลงมือทำเร็วเท่าไหร่ พวกเขาจะยิ่งไปถึงความสำเร็จได้เร็วมากเท่านั้น

แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องประเมินความพร้อมของตัวเองให้อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงด้วย ว่าความสามารถของเรานั้นอยู่ตรงไหน ลงมือทำได้แค่ไหน เพราะการเป็นนักวิ่งมือใหม่ที่จะฝืนลงไปแข่งกับนักวิ่งมืออาชีพ ย่อมเป็นการเร่งรีบลงมือทำเกินไปจนทำให้หลายคนท้อแท้กับความพ่ายแพ้

ดังนั้นหากคุณมีความพร้อมแล้ว ก็ละทิ้งความกลัวของตัวเอง และเริ่มลงมือทำในสิ่งที่คุณต้องการซะ

ทั้งหมดนี้ก็เป็นนิสัยที่จะช่วยให้เรากลายเป็นคนประสบความสำเร็จ และมีชีวิตที่ดีขึ้นในทุกด้าน ซึ่งเราหวังว่ามันจะเป็นประโยชน์กับทุกคนครับ