5 มังงะในตำนาน ที่ผู้เขียนจากไป ก่อนที่เราจะได้เห็นตอนจบ

ถือเป็นข่าวเศร้า และข่าวช็อคสำหรับคอมังงะที่ติดตามอ่านการ์ตูนมหากาพย์อย่าง Berserk ที่นักเขียนระดับตำนานอย่าง อาจารย์มิอุระ เคนทาโร่ ได้จากโลกนี้ไปทิ้งไว้เพียงผลงานระดับตำนานพร้อมความค้างคาใจของนักอ่านที่รอคอยจะพบบทสรุปของมังงะที่เริ่มเขียนมาตั้งแต่ปี 1989 จนถึงเล่มที่ 40 ท่ามกลางความเสียดายและความเสียใจของนักอ่านทั่วโลก ที่รอคอยอย่างมีความหวัง แต่ในที่สุดฝันนั้นก็ไม่เป็นความจริง

แต่ถึงกระนั้นไม่ใช่เพียง อาจารย์มิอูระ ที่จากไปก่อนจะสิ้นสุดมังงะ UNLOCKMEN ขอย้อนไปชมมังงะที่ไม่มีวันจบ เพื่อทำการคารวะศิลปินผู้วายชนม์ และรำลึกถึงผลงานชิ้นสุดท้ายไปพร้อมๆกัน

Yoshito Usui – Crayon Shinchan
โศกนาฏกรรมของการ์ตูนสายฮา ที่ลงท้ายด้วยน้ำตาและการลาจาก

เริ่มต้นด้วยมังงะสุดฮา ที่กลายเป็นมหากาพย์แห่งตำนานการ์ตูนตลกจวบจนปัจจุบันอย่างเรื่อง ชินจังจอมแก่น ที่เล่าถึงชีวิตของ โนฮาระ ชิโนะสุเกะ เด็กแก่แดดผู้มาพร้อมความเกรียน และสร้างความปั่นป่วนใจให้ทั้งครอบครัวและผู้ชิดใกล้ แต่แฝงไว้ด้วยความจริงใจและความแสบซื่อจนกลายเป็นมังงะและอนิเมะจบในตอน รวมไปถึงอนิเมะจอใหญ่ที่ฉายให้ชมกันทุก ๆ ปี ผลงานการเขียนของอาจารย์โยชิโตะ อูซูอิ ที่วาดชินจังและผองเพื่อนด้วยลายเส้นเรียบง่ายแต่กลับชนะใจคนอ่านทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 1990 ทำยอดขายระดับ 100 ล้านเล่มจากกว่า 15 ประเทศ และข้ามน้ำข้ามทะเลมาโด่งดังในไทยจนกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่

น่าเสียดายที่ อาจารย์โยชิโตะ จากไปอย่างสงบเมื่อปี 2009 เมื่อมีคนพบร่างอันไร้วิญญาณของอาจารย์ในหุบเขาแห่งหนึ่งที่เมืองกุมมะ จากการชันสูตรพบว่าอาจารย์ตกจากที่สูงจากการปีนเขา แต่หลายคนก็ยังคลางแคลงใจกับการจากไปของอาจารย์และมองว่าการตายครั้งนี้อาจจะเกิดจากสภาวะความเครียดที่สะสมของตัวอาจารย์เองจากการทำงานอย่างหนักโดยไม่ได้พัก จนตัดสินใจฆ่าตัวตาย ซึ่งพยานรู้เห็นคือเพื่อนบ้านที่แอบได้ยินภรรยาของอาจารย์กำลังคุยโทรศัพท์กับใครคนหนึ่งแล้วพูดขึ้นมาว่า “ฉันจะทำยังไงถ้าเขาเกิดคิดสั้นฆ่าตัวตายจริง ๆ” ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลและความเศร้าโศกเสียใจ

สิ่งที่สะท้อนถึงสภาวะซึมเศร้าของอาจารย์ แสดงออกผ่านมังงะชินจังก็มีบางตอนที่เศร้ารันทดอย่างมาก ๆ เช่นตอนที่แฟนของคุณครูมัตสึซากะที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับชินจัง กำลังจะประกาศลั่นระฆังวิวาห์กับแฟนหนุ่มผู้เป็นโอตะคุกระดูก แต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดเมื่อคู่หมั้นของอาจารย์ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตที่อาฟริกา นำมาซึ่งความเศร้าของคุณครูที่ติดสุราอย่างหนัก ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวอาจารย์โยชิโตะเองก่อนจะเสียชีวิตก็มีสภาวะซึมเศร้าและติดสุราอย่างหนักเช่นกัน และหลังจากนั้นอาจารย์โยชิโตะก็จากไปจริง ๆ ทิ้งไว้เพียงผลงานการ์ตูนสุดฮาไว้ดูต่างหน้าเท่านั้น

แต่ถึงแม้เครยอนชินจังจะเป็นมังงะจบในตอนที่แทบจะเห็นพัฒนาการของตัวละครช้ามาก และตัดสินใจจบซีรีส์เครยอนชินจังในเล่มที่ 50 (แต่ของไทยรวมได้เป็น 33 เล่ม) แต่ภรรยาของอาจารย์และทีมงานทั้งหมดก็ตัดสินใจที่จะสานฝันของอาจารย์ต่อ ด้วยการเขียนมังงะเรื่องนี้ต่อไปในชื่อ เครยอนชินจังภาคใหม่กิ๊ก ภายใต้ชื่อ UY Studio ซึ่งขณะนี้ที่ประเทศไทยดำเนินการพิมพ์ถึงเล่มที่ 6 แล้ว นับเป็นการ์ตูนตลกที่เบื้องหลังเต็มไปด้วยความเศร้าเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว

Ken Ishikawa – Getter Robo
ตำนานยอดหุ่นยักษ์ กับมรดกทิ้งท้ายในชีวิต

Getter Robo หรืออภินิหารยอดหุ่น 3 พลัง คือมังงะและอนิเมะสุดคลาสสิคจากการร่วมมือกันของยอดศิลปินในตำนาน อาจารย์โก นากาอิ และ อาจารย์เคน อิชิคาว่า ที่สร้างปรากฏการณ์นักรบหุ่นยักษ์มาตั้งแต่ปี 1974 และข้ามจอมาดังต่อในอนิเมะ โดยเสน่ห์ของ Getter Robo นั้น คือการออกแบบหุ่นยนต์ยักษ์ที่เต็มไปด้วยฟังชั่นน่าสนใจ โดยหุ่นยนต์ตัวนี้สามารถแปลงร่างได้ถึง 3 ร่าง ที่นับได้ว่ามาก่อนกาลจนเกิดหุ่นยนต์อย่าง Mazinger Z / Gundam / Marcross จวบจนปัจจุบัน

โดยอาจารย์เคนได้ออกซีรีส์ Getter Robo มาอีกหลายรุ่น จนภาคสุดท้าย Getter Robot Hien – THE EARTH SUICIDE ที่ตีพิมพ์จำนวน 3 เล่ม แต่น่าเสียดายที่มังงะถูกตัดจบไป เมื่ออาจารย์เคน เสียชีวิตกระทันหันจากงานเลี้ยงอาหารค่ำหลังจากที่เขาออกรอบเสร็จ ในปี 2007 ส่วนมังงะเรื่องสุดท้ายนั้น ผู้ช่วยของอาจารย์ก็ประกอบเรื่องราวจากสมุดบันทึกที่อาจารย์ได้สเก็ตช์เอาไว้ แม้จะไม่สมบูรณ์แบบนักและถูกตัดจบไป แต่ก็นับเป็นการสานต่อเจตนารมย์จวบจนลมหายใจสุดท้ายได้สำเร็จ

Shotaro Ishinomori – Cyborg 009
สุดยอดแห่งมังงะคลาสสิค ที่สานต่อจนจบบริบูรณ์

อาจารย์โชทาโร อิชิโนโมริ คือสุดยอดแห่งนักเขียนมังงะยุคบุกเบิก ผู้สร้างพิมพ์เขียวให้กับมังงะและซูเปอร์ฮีโร่แห่งดินแดนอาทิตย์อุทัยไว้มากมาย 1 ในผลงานที่หลายคนรู้จักกันดีคือเป็นผู้ให้กำเนิด Kamen Rider หรือไอ้มดแดงอันโด่งดัง นอกจากผลงานระดับมาสเตอร์พีซอย่างไอ้มดแดงแล้ว เขายังให้กำเนิดขบวนการห้าสี โกเรนเจอร์ ที่นับเป็นปฐมบทแห่งขบวนการเซนไตเช่นกัน รวมไปถึงออกแบบ J-Hero อีกหลายต่อหลายเบอร์ นอกนั้นเขายังโดยผลงานทั้งหมดของเขาถูกบันทึกไว้โดยกินเนสต์บุ๊คในฐานะผู้สรรค์สร้างมังงะที่มีผลงานมากที่สุดด้วยการวาดจำนวน 128,000 หน้า จากผลงานกว่า 770 เรื่อง และตีพิมพ์เป็นหนังสือกว่า 500 เล่ม ความโด่งดังระดับตำนานของอาจารย์โชทาโร่จนถึงขนาดมีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมผลงานในชื่อ Ishinomori Manga Museum ที่ตั้งอยู่จังหวัดมิยางิ เลยทีเดียว

แต่ผลงานเรื่องสุดท้ายของชีวิตเขา คือมังงะเรื่อง Cyborg 009 มังงะเรื่องยาวของอาจารย์โชทาโร่ ที่เล่าเรื่องของผู้คนจำนวน 9 คนที่ถูกองค์กรชั่วร้ายลักพาตัวเพื่อทำการผ่าตัดทดลองให้กลายเป็นยอดคนเหนือมนุษย์ที่มีความสามารถพิเศษแตกต่างกันไป ก่อนพวกเขาจะได้รับการช่วยเหลือให้หลบหนี และจับมือกันต่อต้านองค์กรผู้ชั่วร้ายนี้

โดยอาจารย์ได้แรงบันดาลใจจากการสูญเสียพี่สาวจากโรคหอบหืด จนเกิดเป็นผลงานในยุคที่การผ่าตัดดัดแปลงเพื่อชุบชีวิตมนุษย์ให้กลับคืนมานั้นยังเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน อาจารย์ได้เขียนจำนวนร้อยกว่าตอน โดยที่อาจารย์ตั้งใจจะเขียน Cyborg 009: Conclusion GOD’S WAR เป็นภาคทิ้งทวน จนกระทั่งอาจารย์จากไปด้วยสภาวะหัวใจล้มเหลวเมื่อปี 1998 และโปรเจกต์นี้ก็ค้างเติ่งจนเวลาผ่านไปเนิ่นนานหลายปี สุดท้ายลูกชายของอาจารย์ได้สานฝันโดยอ้างอิงจากสมุดบันทึกของอาจารย์ที่ทิ้งไว้ และจัดการวาดต่อจนจบ 5 เล่ม โดยคงไว้ซึ่งลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ แม้จะโดนวิจารณ์ว่าเป็นการสานต่อที่มิอาจจะสู้ต้นฉบับได้ แต่ก็ถือว่าเป็นการทำอย่างเต็มที่ และเป็นความต้องการของครอบครัวอาจารย์เองที่อยากปิดตำนานอันค้างเติ่งนี้ให้จบสมบูรณ์

Tezuka Osamu – Hinotori
ผลงานทิ้งทวนอมตะตลอดกาล ของราชามังงะผู้ยิ่งใหญ่

บิดาแห่งวงการมังงะ ผู้จุดประกายและกำเนิดภาพวาดลายเส้นที่เล่าเรื่องได้เฉียบคมจนกลายเป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมสำคัญของดินแดนอาทิตย์อุทัย ที่อยู่เบื้องหลังผลงานมังงะที่มากายและหลากหลายไม่ว่าจะเป็น เจ้าหนูปรมาณู / Blackjack / สามตาปาฏิหาริย์ และผลงานอีกนับมากมายหลายสิบเรื่อง

แต่ผลงานที่เป็นที่รัก และเป็นผลงานที่หวงแหนที่สุดในชีวิตของอาจารย์เท็ตสึกะ โอซามุ นั่นคือ ฮิโนโทริ วิหคเพลิง ผลงานชิ้นโบว์แดงที่อาจารย์เริ่มเขียนมาตั้งแต่ปี 1954 และเขียน ๆ หยุด ๆ ไปเรื่อย ๆ โดยฮิโนโทริ เล่าถึงสัจธรรมชีวิตอันหลากหลายผ่านนกฟีนิกซ์สิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่าทุกสิ่งบนโลก เพราะเป็นนกไฟอมตะที่ไม่มีวันตาย ในขณะที่ผลงานเรื่องต่างๆนั้นอาจารย์พยายามเขียนให้จบในระยะเวลาอันสั้น แต่มังงะเรื่องนี้ อาจารย์กลับเขียนแล้วทิ้งช่วงยาวนาน

แต่ทว่าในแต่ละตอนที่ปล่อยออกมา กลับเต็มไปด้วยการมองสัจธรรมแห่งโลกใบนี้ที่มีเกิดมีดับได้ยิ่งใหญ่และงดงาม ซึ่งนับเป็นเรื่องไม่คาดคิด เมื่ออาจารย์ตรวจพบก้อนมะเร็งร้ายในกระเพาะอาหาร จนทำให้เขาพยายามที่จะจบมังงะเรื่องนี้ไปพร้อม ๆ กับชีวิตของเขา โดยพยาบาลเล่าให้ฟังว่าช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตนั้น สิ่งที่อาจารย์วอนขอกลับเป็นอุปกรณ์การเขียน

โดยเขาบอกกับพยาบาลด้วยถ้อยคำสุดท้ายว่า “ผมขอร้อง…ขอให้ผมได้ทำงานเถอะ” ซึ่งคาดเดาต่างๆนานากันว่าสิ่งที่อาจารย์วอนขอเป็นครั้งสุดท้ายอาจจะเป็นการเขียนตอนจบของมังงะเรื่องนี้ก็เป็นได้ แต่สุดท้ายสิ่งที่ร้องขอก็ไม่เป็นจริง อาจารย์จากไปอย่างสงบในปี 1998 ทิ้งไว้ที่ผลงานนกอมตะจำนวน 17 เล่ม เพื่อเป็นประจักษ์พยานแห่งความอมตะที่เหนือกาลเวลาจวบจนปัจจุบัน

Miura Kentaro – Berserk
ผลงานเอพิคที่ไม่มีตอนจบ ของปรมาจารย์แห่งลายเส้นสุดขลัง

ทิ้งท้ายที่ อาจารย์มิอุระ เคนทาโร่ ผู้สร้างผลงานมาสเตอร์พีชเรื่องยาวชิ้นแรกและชิ้นเดียวตลอดชีวิตการทำงาน นั่นก็คือมหากาพย์มังงะเอพิค Berserk ที่นับเป็นหนึ่งในการปฏิวัติวงการการ์ตูน ด้วยการเล่าเรื่องที่สุดดาร์ค ดิบ เถื่อน ไม่มีการประณีประนอมใด ๆ โลกของเบอร์เซิร์คนั้นเต็มไปด้วยความโหดร้ายและไร้ซึ่งความปราณี โดยมังงะเล่าถึงดินแดนมิดแลนด์ แดนเถื่อนที่เต็มไปด้วยสงคราม และการเข่นฆ่าเพื่อนำมาซึ่งการแย่งชิงอำนาจ โดยเล่าผ่าน กัส ทหารรับจ้างฉายานักรบดำ ที่มีอดีตอันแสนขมขื่น ที่มาพร้อมดาบขนาดมหึมา และแขนหล็กที่ทดแทนแขนที่ถูกฟันขาดไป

แม้ Berserk จะเป็นการ์ตูนที่เสนอโลกในด้านที่มืดดำจนหาแสงสว่างไม่เจอ แต่ด้วยลายเส้นอันยอดเยี่ยมราวกับศิลปะในยุคกลาง และเนื้อเรื่องที่เข้มข้นที่ทวีความซับซ้อนและดำเนินเรื่องให้ชวนติดตามตลอดนั้น ทำให้เหล่าแฟน ๆ ต่างยกให้มังงะเรื่องนี้เป็นมังงะในดวงใจของใครหลาย ๆ คน กระทั่งอาจารย์มิอูระหยุดเขียนไปช่วงหนึ่งในช่วงปี 2018 จากปัญหาสุขภาพ

ซึ่งในที่สุดการรอคอยของเหล่าแฟน ๆ ก็จบลงด้วยความเศร้า เมื่อสำนักพิมพ์ Hakusensha ได้ประกาศถึงการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการของอาจารย์ที่จากไปตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมาด้วยสภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาดอย่างเฉียบพลัน ทิ้งไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ชื่นชมยกย่อง ด้วยมังงะจำนวน 40 เล่ม และปริศนาของตอนจบที่ได้มลายหายไปพร้อมกับการจากไปของอาจารย์

ซึ่งทาง UNLOCKMEN ต้องขอไว้อาลัยให้กับการจากไป และขอขอบคุณสำหรับผลงานยิ่งใหญ่ตลอดช่วงชีวิตที่ได้สรรค์สร้างมาตั้งแต่ปี 1989 ไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ให้กับโลกใบนี้

แม้ผลงานหลายเรื่องนั้นจะไม่ได้จบ หรือจบอย่างค้างคาใจ และมีมังงะอีกหลายเรื่องที่ตลอดช่วงชีวิตเรานั้นไม่มั่นใจว่าเราจะจากไปก่อนหรือมังงะจะจบก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่พิสูจน์สัจธรรมนี้ได้ดีก็คือ “แม้ตัวจะจากไป แต่ผลงานยิ่งใหญ่นั้นจะยังคงอยู่กับเราตราบนานเท่านาน” และบทสรุปของมังงะที่ไม่จบนั้น ข้อดีก็คือช่วยให้เราสามารถจินตนาการได้โดยเสรีว่าตอนจบของมังงะในใจเราควรจะจบแบบไหน หรือจะปล่อยให้ตอนจบอันค้างคาใจนี้ขับเคลื่อนความคิดถึง ความทรงจำและความประทับใจของมังงะเรื่องนั้น ๆ ไปตลอดกาล ก็แล้วแต่จินตนาการของคุณได้เลย