TIME TO CHANGE: 5 เหตุผลที่ทำผู้ชายอย่างเราไม่กล้าลงมือ และวิธีลงดาบความคิดเหล่านี้ให้สิ้นซาก

ความเครียดจนปวดหัว ความกังวลจนมวนท้อง และความตื่นเต้นจนตัวสั่น เป็นความรู้สึกปกติของมนุษย์ที่มักจะเกิดขึ้นก่อนที่จะเผชิญกับสิ่งท้าทาย ถ้ามองในแง่บวก ความรู้สึกดังกล่าวนั้นก็พอที่จะสะท้อนความตั้งใจจริงของเราที่จะฝ่าฟันมันไปให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องชีวิต หรือเรื่องใด ๆ ที่มีความหมายพอที่เราจะมุ่งมั่นกับมัน

แต่สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นก็คือความกลัวที่จะลงมือทำสิ่งใหม่ โปรเจ็คต์ที่คิดไว้ก็ไม่กล้าทำเสียที กลัวเจ๊ง กลัวไม่เท่ กลัวเขว กลัวมันออกมาบูด ๆ  สุดท้ายไม่ยอมย้ายตูดออกมาจาก safe zone แล้วลงมือทำซะ เพราะกลายเป็นคนที่วิตกกังวลเกินเหตุ ถ้าเป็นแบบนี้นาน ๆ เข้า อาจจะทำให้เราไม่มีการพัฒนาตัวเองได้

ทีมงาน UNLOCKMEN เชื่อว่าผู้ชายทุกคนมีศักยภาพ แต่อาจจะมีความรู้สึกบางอย่างที่มาขวางกั้นการปลดล็อกตัวเอง จึงขอนำเหตุผลหลักที่ทำให้เราไม่กล้าลงมือทำมาตีแผ่ และไอเดียที่จะช่วยเปลี่ยนมุมมองให้คุณลุยอย่างไม่กลัวมาแนะนำกัน ตามนี้เลยครับ

“มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย”

เรื่องเกิด-แก่-เจ็บ-ตาย นั้นเราอาจควบคุมไม่ได้ แต่ไอ้ประโยคที่ว่า “มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย”​ นี่แหละ ทำให้คนเราขาดพลังในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ มาเยอะแล้ว

ถ้าเราคิดว่าความฝันของจะกลายเป็นความจริงจากการใช้เวลาแค่ 2-3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในเวลาว่าง แบบนี้คิดใหม่ดีกว่า

เราต้องทุ่มเทสุดตัวเพื่อเป้าหมายของเรา ถ้าแค่ครึ่งหนึ่งของผลงานที่ออกมาก็พาเราเซ็งแล้ว ก็อย่าทุ่มเทแค่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ  และถ้ารู้สึกไม่แฮปปี้กับสิ่งที่เป็นอยู่ ก็ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว !

สมมติว่าถ้ามีใครเอาปืนมาจ่อศีรษะคุณเพื่อบังคับให้ทำอะไรสักอย่าง คุณคงจะหาวิธีทำตามที่เขาสั่ง ไม่ก็หาทางออกจากสถานการณ์นี้อย่างเต็มที่ เราควรจะนำความรู้สึกจากการจินตนาการถึงสถานการณ์ที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายมาใช้กับชีวิตบ้าง จะได้ไม่เปื่อยไปวัน ๆ  และในเมื่อคนเราต้องตายอยู่แล้ว มันก็ต้องทำอะไรให้สุดสักอย่างก่อนหมดลมหายใจ เพราะฉะนั้น ฮึดหน่อย กล้า ๆ หน่อย โชว์คาแรคเตอร์แมน ๆ ออกมา และจริงจังกับเป้าหมายราวกับเป็นเรื่องความเป็นความตาย !

ถ้าชีวิตนี้เราไม่เดินตามความฝัน เราจะตายจากข้างในช้า ๆ  ลุกขึ้นสู้กับความกลัวเถอะ เอาชนะมัน และใช้ชีวิตที่คุณฝัน

รักความสบาย

เราจะไปคาดหวังชีวิตที่ดีกว่าได้อย่างไร ถ้าเราถูกกำหนดมาให้ใช้ชีวิตง่าย ๆ 

อีกอย่างที่ทำให้เราไม่ยอมทำอะไรใหม่ ๆ สักทีก็เพราะความรักสบาย ไม่อยากเหนื่อยกว่านี้ ความคิดแบบนี้ไม่ผิด แต่ถ้าชิวิตมันจะหยุดนิ่งอยู่แค่นี้ ความหมายก็คงจะหมดลงไปเรื่อย ๆ  และถ้ายังปล่อยให้อะไรบางอย่างในตัวเรามันถ่วงการก้าวเดินอยู่ ก็คงจะสู้ต่อไปได้อีกไม่นาน

เราจะไปคาดหวังผลที่แตกต่างได้อย่างไร ถ้าเรามัวแต่ทำแต่สิ่งเดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คุณจะไปหวังให้ตัวคุณลอยสู่ที่สูงได้อย่างไร ถ้าคุณไม่ยอมปล่อยสิ่งที่ถ่วงคุณทิ้งไป คุณต้องยอมเหนื่อยวันนี้ เพื่อสบายในวันหน้า และคุณต้องทำเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่เดี๋ยวค่อยทำ !

ถ้ามีความฝัน คุณต้องยอมตายเพื่อมันในตอนนี้ เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตดี ๆ ในวันหน้า !

ไม่มีระเบียบในตัวเอง

“โตแล้ว ทำอะไรก็ได้” ประโยคที่มีความหมายที่แน่วแน่ แต่ถ้าเราไร้ระเบียบวินัยในตัวเอง ก็คงจะออกทะเลไปไกล บ้างก็มักจะทำอะไรเพื่อให้คนอื่นเห็น แต่ไม่ใช่เพื่อให้ได้กับตัวเอง

อยากให้ลองถามตัวเองว่า ถ้าไม่มีใครจับตาเราอยู่ เราจะทำอะไร ? เราจะยังทำงานหนักมั้ย ถ้าไม่มีใครเหลืออยู่ที่ออฟฟิศแล้ว ? เราจำเป็นต้องบอกคนอื่นมั้ย ว่าเราทำงานหนักและนานแค่ไหน ? หรือว่าเราแค่ลุยกับมันเต็มที่ ?

หรือว่าสิ่งที่เราทำไปทั้งหมดก็เพื่อให้สำเร็จ และเพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเอง ? 

สิ่งที่เราทำจริงโดยที่ไม่มีใครเห็น มันจะกลายเป็นสิ่งที่ปลดล็อกศักยภาพของเราออกมา สิ่งไหนที่เราอยากทำจริง ทำด้วยใจ แม้ไม่มีใครรู้ มันจะอยู่กับเราจนตาย

คุณควรจะมีระเบียบวินัยในการทำงาน ซึ่งคุณสมบัตินี้จะคอยขับเคลื่อนให้คุณเดินหน้าต่อแม้เราไม่ชอบตัวงาน ยังมองไม่เห็นผล หรือไม่มีใครเห็นค่า

ใครที่มีระเบียบในตัวเองเช่นนี้ เราขอชมเลยว่าคุณนั้นเจ๋งโคตร

กลัวความล้มเหลว

“ไม่มีใครที่ลุกก่อนล้ม และคงไม่มีใครที่เกิดมาแล้วหัวเราะก่อนร้องไห้” ถ้าเราอยากรุ่งก็ต้องเสี่ยง และต้องยอมทรมานกับ ‘ความเจ็บปวดที่ทรงคุณค่า’ ตลอดเส้นทางชีวิต ลองถามตัวเองว่า เราพร้อมรับความเสี่ยงเพื่อความฝันแล้วหรือยัง ?

เป็นธรรมดาครับ ถ้าใครจะกลัวความล้มเหลว บางคนก็เลยเชื่อว่าถ้าไม่เสี่ยงก็ไม่พัง ที่จริงระวังไว้ก่อนเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว แต่ถ้าไม่กล้าได้กล้าเสียเลย เกรงว่าจะไม่ได้ก้าวเดินด้วยซ้ำ จำไว้ว่าการเรียนรู้ที่เราได้จากความล้มเหลวก็คือ ‘ความเจ็บปวดที่ทรงคุณค่า’ อย่างที่เกริ่นไป

เราจะไม่มีทางประสบความสำเร็จได้เลย ถ้าเราไม่ได้เดินตามฝันอย่างเต็มก้าว, เราจะไม่มีวันโชคดีเลย ถ้าไม่ลงทุนเสี่ยงโชค, เราจะไม่สามารถเป็นผู้ชนะในเกมชีวิตได้เลย ถ้าไม่ตามล่ามัน และถ้าเราตามหาความสุดยอด ก็ปล่อยความธรรมดาทิ้งไปซะ !

แคร์โลกมากไป

บางครั้งการที่จะทำอะไรสักอย่าง สิ่งที่หยุดเราไว้อาจไม่ใช่ตัวเอง แต่กลับเป็นคนอื่น เพราะว่าเราแคร์โลกมากเกินไป คิดถึงผู้อื่นมากเกินไพราะฉะนั้นเราไม่สมควรจะได้รับอะไรเลย ถ้าเราไม่คว้ามันมาด้วยตัวเอง

ถ้าเราไม่คิดที่จะรับความสำเร็จไว้กับตัวเอง ปล่อยให้คนอื่นมีอิทธิพลกับเรามากเกินไป เราก็ไม่สมควรจะรับมัน และเราก็จะไม่มีวันได้มัน

จำไว้ว่าเราไม่ได้เป็นหนี้โลกใบนี้ ! เราเป็นหนี้ตัวเราเอง และเราจะต้องชดใช้หนี้โดยการใช้ชีวิตของเราไปให้ไกลที่สุด เลิกมีข้อแม้ ผลักดันตัวเองให้มากกว่าเดิม ชีวิตนี้มันจะพยศแค่ไหนก็ต้องขี่มันไปให้สุดทาง ความสำเร็จที่คุณทำได้มันไม่ได้เป็นของใคร แต่มันเป็นของคุณ !

เลิกโทษคนอื่น แล้วแบกความฝันเอาไว้บนบ่าเพื่อทำให้มันกลายเป็นความจริงด้วยตัวเอง !

มาถึงตรงนี้น่าจะเริ่มมีพลังกันขึ้นมาแล้ว หวังว่าสิ่งที่เราแนะนำไปน่าจะปลุกใจทุกคนได้ ลองลิสต์เลยว่าสิ่งที่อยากทำมีอะไรบ้าง และอยากปลดล็อกศักยภาพด้านใดของตัวเองออกมา กำจัดความกลัวที่ไม่มีค่าให้สิ้นซาก แล้วไล่ทำสิ่งที่ต้องการซะ ! ขอให้ทุกคนลุกขึ้นสู้กับความกลัว และก้าวออกไปเปลี่ยนความฝันให้เป็นความจริงให้ได้

Fuck fear !!!