CARS

ที่สุดแห่งตำนาน กับ NISSAN SKYLINE GT-R คู่ใจทั้ง 6 คัน ของ BRIAN O’CONNOR

By: unlockmen March 18, 2018

หนึ่งในเอกลักษณ์ของหนังแข่งรถชื่อดังอย่าง Fast & Furious นั้ นอกจากตัวเอกเช่น Dominic Toretto ที่รับบทโดย Vin Diesel แล้ว ยังมีตัวละครนำควบคู่กับ Toretto ด้วยอีกคนนั่นก็คือ Brian O’Connor ที่นำแสดงโดย Paul Walker ผู้ล่วงลับ ถึงแม้ว่าวันนี้เขาจะจากไปแล้วก็ตาม แต่ทว่าเขายังได้ทิ้งผลงานการแสดงใน Fast & Furious ไว้และปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อของเขายังเป็นอีกกำลังสำคัญที่ช่วยทำให้หนังโด่งดังได้จนถึงทุกวันนี้

ซึ่งจุดเด่นของตัวละครอย่าง Brian O’Connor นั้นก็มีความคล้ายคลึงกับ Toretto นั่นคือตัวเขาเองชื่นชอบในพาหนะสี่ล้อเหมือนกัน โดยเฉพาะรถนำเข้าญี่ปุ่นจากค่าย Nissan อย่าง Skyline GT-R  ที่เป็นรถดีไซน์โฉบเฉี่ยวและเท่บาดใจอยู่เหนือกาลเวลา แถมสมรรถนะเครื่องยนต์จากโรงงานก็เอาเรื่องพอตัวจนทำให้ชื่อของ Skyline GT-R โด่งดังในวงการยานยนต์และนักแต่งรถ วันนี้ UNLOCKMEN จะพาไปรู้จักกับ Skyline GT-R คู่ใจทั้ง 6 คัน ของ Brian O’Connor ที่ใช้ขับแข่งมาตลอดทั้งแฟรนด์ไชส์หนัง Fast & Furious ทุกภาคที่ตัวละครของเขามีบทบาทกันครับ

 

1999 Nissan Skyline GT-R R34 – 2 Fast 2 Furious

เริ่มคันแรกด้วย Nissan Skyline GT-R R34 ปี 1999 จากภาค 2 Fast 2 Furious ซึ่งจริง ๆ  เคยได้โผล่มาก่อนหน้านี้แล้วในหนังสั้นรอยต่อระหว่าง The Fast and the Furious และ 2 Fast 2 Furious ชื่อ Turbo-Charged Prelude เป็นเรื่องราวระหว่างตอนจบของ The Fast and The Furious ทันทีที่ Brian ถูกประกาศจับเพราะปล่อยให้ผู้ร้ายอย่าง Toretto หลบหนีไป ทำให้เขาต้องบอกลาอาชีพตำรวจแล้วหลบหนีอย่างมุ่งหน้าไปทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา พร้อมกับการแข่งรถไปด้วย แต่เมื่อตำรวจยังตามกัดไม่ปล่อย Brian ถึงคราวจวนตัวเลยจำเป็นต้องทิ้งรถแล้วหนีไปกับผู้หญิงที่เขาเพิ่งเจอในร้านอาหาร และเธอก็แสนจะใจดีอุตส่าห์มาส่งให้ตรงร้านขายรถมือสองในละแวกใกล้เคียง

ซึ่งร้านขายรถมือสองแห่งนี้นี่เองที่ Brian ได้เจอกับเจ้า Skyline GT-R R34 ปี 1999 คันนี้ในสภาพโทรมใช้ได้ Brian เลยจัดการซื้อแล้วนำมาซ่อมแซม พ่นสี ปรับจูนจนมีสมรรถนะโหดขึ้นกว่าเดิม หลังจากได้รถคู่ใจคันใหม่แล้ว Brian ก็เริ่มแผนการหลบหนีไปด้วย แข่งรถรายทางหาเงินไปด้วย จนเดินทางมาถึงเมืองไมอามี่ จุดเชื่อมเนื้อเรื่องในส่วนของภาค 2 Fast 2 Furious ต่อ

โดยสมรรถนะของ Skyline GT-R R34 ที่ทำให้ Brian เอาชนะคู่แข่งได้หลายคน นั้นต้องยกเครดิตให้เครื่องยนต์ V6 RB26DETT Twin Turbo ขนาด 2.6 ลิตร DOHC 24 Valve พร้อมชุดเกียร์ 6 สปีดจาก GETRAG สามารถส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ATTESA จนได้กำลังอยู่ที่ 330 แรงม้า และเพิ่มกำลังระหว่างแข่งด้วยไนตรัส 3 ถังจาก NX ของแต่งรถเพิ่มสมรรถนะอื่น ๆ เช่น ท่อดักอากาศของ K&N พัดลมระบายความร้อน Intercooler จาก Turbonetic และท่อไอเสียไทเทเนียมจาก HKS ด้านภายนอกนั้นพ่นสีเทาแพลตตินั่มมุก คาดด้วยไวนิลสตริปสีฟ้า

มีการตกแต่งเสริมหล่อด้วยชุดแต่งจาก C-West และ MotoREX พร้อมสปอยเลอร์ที่กระโปรงท้าย และล้อแม็ก 6 ก้านจาก HRE 446 ด้านภายในตกแต่งแบบเรียบง่ายเน้นใช้งานบนสนามแข่ง เช่นเบาะนั่งแบบรถแข่ง Sparco พวกมาลัย MOMO ชุดเครื่องเสียงจาก JBL และ Infinity น่าเสียดายที่หลังจากการแข่งในตอนต้นเรื่องแล้ว Skyline GT-R R34 คันนี้ต้องถูกจอดนิ่งสงบในลานจอดรถของกลาง ณ กรมตำรวจไมอามี่ซึ่งยึดรถมาจาก Brian ได้หลังถูกเข้าจับกุมระหว่างหลบหนี

 

2002 Nissan Skyline GT-R R34 – Fast & Furious

ต่อด้วย GT-R เหมือนเดิมกับ 2002 Nissan Skyline GT-R R34 จากภาค Fast & Furious ที่ Brian กลับมาเป็นตำรวจแถมได้เป็นถึง FBI อีกด้วย และอีกครั้งที่ Brian ต้องปลอมตัวไปสืบคดีโดยการแข่งรถเพื่อจะได้ถูกคัดเลือกเข้าไปเป็นคนขับรถขนส่งยาข้ามทะเลทรายซึ่งเป็นชายแดนระหว่างเม็กซิโกกับสหรัฐอเมริกา แต่ครั้นจะให้เอารถตำรวจดาด ๆ ไปแข่งก็คงจะมองไม่เห็นชัยชนะเท่าไหร่

โชคดีของ Brian ที่ FBI ให้เอารถของกลางมาใช้ได้ โดยเขาเลือก Skyline GT-R R34 ปี 2002 สีขาวมุกและ GT-R 2007 สีแดงเพื่อนำเอาชิ้นส่วนมาติดตั้งในรถ Skyline GT-R R34 สีน้ำเงินที่เป็นเอกลักษณ์และปรับจูนรถด้วยตัวเองและลงแข่งกับนักแข่งที่เหลือซึ่งรวมทั้ง Dominic Toretto อดีตคู่แข่งซึ่งเขาเคยปล่อยให้หลบหนีไปอีกด้วย แต่ในโลกความเป็นจริงรถคันนี้กลับไม่ใช่ GT-R แต่เป็น GT-T ที่ถูกแปลงโฉมเป็น GT-R แทน เนื่องจากตัวถังรถมีความใกล้เคียงกันและเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจากการต้องถอดเพลาขับล้อหน้า ทำให้ Skyline GT-R (หรือ GT-T) R34 คันนี้ไม่มีเทอร์โบชาร์จและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อซึ่งกลายเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลังไปแทน พร้อมตัวถังทำจากไฟเบอร์กลาส วางลงบนโครงรถบักกี้เพื่อใช้ในการถ่ายทำฉากสตั๊นและ Off Road ด้านสมรรถนะนั้นใช้เครื่อง V6 3.8L VR38DETT Twin Turbo ขนาด 3.8 ลิตร ระบบกันสะเทือนจาก Kaizo

รูปลักษณ์ภายนอกนั้นไม่ได้มีการตกแต่งอะไรมากมาย จะมีก็แค่เปลี่ยนล้อแม็กเป็น Rays Volk RE30 เองเท่านั้น และน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งเพราะจุดจบของรถคันนี้ทั้งในหนังและชีวิตจริงต่างก็เละเทะเหมือนกัน ในหนังนั้นถูกระเบิดจากการที่ Toretto ปล่อยก๊าซไนตรัสทิ้งไว้ในรถตัวเองเพื่อจุดระเบิดเบี่ยงเบนความสนใจจนทำให้ Skyline GT-R R34 คันนี้ต้องโดนระเบิดตามไปด้วย ส่วนในด้านการถ่ายทำนั้นถูกทำลายไป 2 คัน ถูกนำไปแยกชิ้นส่วนขาย 3 คันและเหลือรอดเพียงคันเดียวสำรองไว้ใช้ถ่ายทำฉากอื่น

 

1971 Nissan Skyline GT-R KPGC10 – Fast Five

ตามมาด้วยรุ่นเก่าแต่โคตรเก๋าอย่าง 1971 Nissan Skyline GT-R KPGC10 หรือรู้จักกันในนาม Skyline GT-R Hakosuka หรือ Skyline 2000 GT-R จากภาค Fast Five ที่ทั้ง Brian และ Mia ต้องตระเวนหลบหนีหลังจากช่วย Toretto จากการถูกส่งไปเรือนจำ Brian กับ Mia นั้นหนีลงใต้ไปทางอเมริกาใต้จนถึงริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิลซึ่งสภาพทั้งคู่ในตอนนั้นคงจะหารถใหม่ ๆ มาใช้ไม่ได้แน่นอน เลยต้องหารถเก่ามาใช้แก้ขัดไปก่อน

แต่สุดท้าย Brian ก็ยังอุตส่าห์ไปหา Skyline ตัวเก่าแบบนี้มาใช้จนได้ สมรรถนะของรถคันนี้แม้จะสู้รถใหม่ ๆ ไม่ได้แต่ก็ยังมีประสิทธิภาพอยู่บ้าง จากเครื่องยนต์ DOHC 2.0 ลิตร Twin Cam พร้อมกำลังผลิตที่ 160 แรงม้า โดย Brian ใช้รถคันนี้เพื่อโดยสารและขับสอดแนมรถขนเงินของ Herman Reyes นักธุรกิจใหญ่ของริโอ หลังจากนั้นก็ไม่มีใครทราบชะตากรรมของมันอีกเลย แต่หนึ่งในเรื่องน่ารู้ของ Skyline รุ่นนี้คือเป็น Skyline รุ่นแรกที่มีตรา GT-R ประดับรับประกันความแรงติดมาด้วย

 

2010/2011 Nissan GT-R  – Fast Five/Fast & Furious 6

โผล่กันไป 2 ภาคเลยกับ Nissan GT-R โฉมใหม่ของ Skyline GT-R ซึ่งไปโผล่ในตอนท้ายของ Fast Five และในฉากเปิดเรื่องของ Fast & Furious 6 ที่ Brian ท้าแข่งกับ Toretto หลังจากจบการปล้นที่ริโอ เดอ จาเนโรแล้ว โดย Brian ได้เลือกใช้ Nissan GT-R โฉมใหม่เชื้อสายเดียวกันแทน Skyline GT-R R34 ที่ยุติการผลิตไป ด้านสมรรถนะนั้นต้องดีกว่าอยู่แล้วด้วยเครื่องยนต์ V6 VR38DETT ขนาด 3.8 ลิตร ผลิตกำลังที่ 485 แรงม้า บนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่ง Brian ใช้รถคันนี้แค่ระยะสั้น ๆ เท่านั้น โดยใช้โฉม 2010 ใน Fast Five และโฉม 2011 ในภาค Fast & Furious 6 ที่ดูไม่แตกต่างมากนัก และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครทราบชะตากรรมของรถคันนี้อีกเลย

 

2012 Nissan GT-R  – Fast & Furious 6

ถ้าหากรู้สึกว่าคันก่อน ๆ ที่เราพูดถึงนั้น ได้ผ่านมาโผล่ให้เห็นกันสั้น ๆ แล้ว จะบอกว่าคันนี้มีโอกาสโผล่มาเผยโฉมในฉากสั้นยิ่งกว่าอีก กับ 2012 Nissan GT-R สีน้ำเงินจากภาค Fast & Furious 6 ที่ด้านในมีชุดแต่งแบบเต็มสูบของ Bensopra  ที่โผล่มาตอนท้ายเรื่องจากฉากกินเลี้ยงบ้าน Toretto เท่านั้น ด้านสมรรถนะและชะตากรรมนั้นเป็นปริศนา

 

2012 Nissan GT-R  – Furious 7

มาถึงคันสุดท้ายที่ตัวละครนำอย่าง Brian O’Conner ใช้ ก่อนจะถอนตัวลาวงการเพื่อไปอยู่กับ Mia และลูกทั้งสอง นั่นคือ 2012 Nissan GT-R ในภาค Furious 7 หลังจากรู้ว่าเหล่าผู้ก่อการร้ายกำลังตามล่าแฮ็คเกอร์สาวอย่าง Ramsey และทีมของ Toretto Brian เลยเตรียมตัวบู๊ครั้งสุดท้ายพร้อมใช้รถ GT-R คันนี้วิ่งไปรอบเมืองพร้อมกับ Ramsey เพื่อกู้ God Eyes อุปกรณ์สุดไฮเทคกลับคืนมา ด้านสมรรถนะของรถคันนี้นั้นถูกอัพเกรดด้วยแพ็คเกจจาก SP Engineering จนได้กำลังเกือบ 700 แรงม้า พร้อมระบบปรับช่วงล่างของ VRH Lift System เพื่อให้รถสามารถโหลดต่ำลงระหว่างขับได้ ภายนอกนั้นนอกจากจะโดดเด่นด้วยสีน้ำเงิน Midnight Blue แล้วยังมีชิ้นส่วน Carbon Fiber ตรงกระโปรงหน้า ลิ้นกันชนหน้า สเกิร์ตข้าง และกระโปรงท้ายพร้อมสปอยเลอร์อีกด้วย

และสำหรับจุดจบของคันนี้ก็น่าเสียดายอีกแล้ว เพราะมันต้องจบชีวิตในฉากที่ Brian สละรถกระโดดลงก่อนจรวดติดตามความร้อนจากโดรนติดอาวุธจะพุ่งใส่จนรถระเบิดทั้งคัน แต่ในด้านการถ่ายทำนั้นมีแค่คันเดียวซึ่งเหลือรอดจากทั้งหมด 7 คัน โดยคันที่รอดถูกตั้งโชว์ที่ The Hollywood Star Cars Museum ในเมืองแกทลินเบิร์ก รัฐเทนเนสซี

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เห็นได้ชัดเลยว่าตัวละครอย่าง Brian O’Conner นั้นมีรถญี่ปุ่นอย่าง Nissan Skyline GT-R เป็นรถคันโปรดในดวงใจ ฝังลงลึกอยู่ในสายเลือดจริง ๆ เปรียบเสมือนหยินกับหยางที่ Dominic Toretto มีรถอเมริกันเป็นยานพาหนะคันโปรด และถึงแม้ว่าในวันนี้ผู้รับบทอย่าง Paul Walker จะจากไปแล้ว แต่เชื่อว่ารถ Skyline GT-R นั้นจะถูกจดจำในใจแฟนหนังในฐานะรถคู่ใจของเขาและตัวละครอย่าง Brian O’Conner ตลอดไป

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line